เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปล✿ Peony ✿
รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1
  • เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1《撒野》

     ผู้แต่ง: อูเจ๋อ 巫哲
     สำนักพิมพ์: Lavender
     จำนวน: 6 เล่มจบ

    ?  นี่มันสถานที่บ้าบออะไรกัน! (`皿´#)

            เจี่ยงเฉิง ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองเก่าคร่ำคร่ากับพ่อแท้ๆที่ไม่เคยพบหน้า ขณะลากกระเป๋าออกจากสถานีด้วยอารมณ์ขุ่นมัวอยู่นั้น เขาได้ช่วยเหลือ กู้เหมี่ยว เด็กหญิงไถสเกตบอร์ดที่มีดวงตาคู่โตและไม่ยอมพูดจาเอาไว้โดยบังเอิญ และได้รู้จักกับพี่ชายของเธอ กู้เฟย เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีทรงผมสะดุดตา รวมถึงช่วงขาที่ทั้งยาวทั้งตรง... โดยที่ไม่รู้เลยว่าความบังเอิญในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้คนตรงหน้าเข้ามาพัวพันกับชีวิตใหม่ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

            เจี่ยงเฉิงไม่อาจบรรยายความรู้สึกของตนเองได้เลยเมื่อต้องเผชิญกับ หลี่เป่ากั๋ว พ่อแท้ๆที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผีพนันตัวยง แถมยังขี้เหล้าระดับสิบ ส่วนสภาพแวดล้อมของ 'บ้าน' ที่ทรุดโทรมและไม่คุ้นชินยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น ไม่ยินยอม และหงุดหงิดใจจนอยากตะโกนไปว่านี่มันสถานที่บ้าบออะไรกัน!! เขาได้แต่คิดว่าชีวิตของคนเราช่างประหลาดนัก ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาเขาเข้ากับครอบครัวเดิมไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครอบครัวใหม่ตรงหน้า แต่เขาไม่อยากโทษวัยต่อต้านหรืออะไรก็ตาม ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วก็มีแต่ต้องยอมรับความจริงและเดินหน้าต่อไปเท่านั้น (⇀‸↼‶)

    ใครอยากอ่านเวอร์ชั่นม่านฮวาของ《撒野》หรือ Run Freely
    จิ้มลิ้งไปรับชมความหล่อของต้าเฟยและเสี่ยวเฉิงได้เลยค่ะ
    ? ความบังเอิญทุกชนิดบนโลกใบนี้เป็นของฉัน 

             วันเวลาในเมืองเก่าแห่งนี้คล้ายว่าจะผันผ่านไปอย่างเชื่องช้าและหนาวเหน็บ หากนับรวมความบังเอิญที่เจี่ยงเฉิงพบเจอในช่วงนี้ จะพูดว่าเขาอยู่ในลัทธิพรหมลิขิตก็คงไม่ผิดนัก เพราะคนแปลกหน้าอย่างกู้เฟย นอกจากเปิดซูเปอร์มาเก็ตอยู่ใกล้บ้านเขาแล้ว ยังกลายมาเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะเรียนของเขาอีก ส่วนกู้เหมี่ยวเองก็ดูจะชอบเขามากเป็นพิเศษจนกู้เฟยต้องตามใจเด็กน้อยอยู่หลายครั้ง ไม่นานระยะห่างระหว่างเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยเริ่มขยับเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว อันที่จริงเจี่ยงเฉิงจะไม่ชอบท่าทางขี้เก็กของกู้เฟยเลยสักนิด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายามที่เขาอารมณ์ขุ่นมัวและไม่มีที่ให้ไป อีกฝ่ายกลับเป็นที่พักพิงให้เขาอยู่เสมอ แม้จะไม่มีคำพูดอะไรเลยก็ตาม ... 

         แม้ทุกอย่างในเมืองแห่งนี้จะน่าเหลือเชื่อไปหมดในสายตาเจี่ยงเฉิง ทว่าเขากลับเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย มีเพียงทำความคุ้นชินและดำเนินชีวิตอย่างผิดที่ผิดทางต่อไปก็เท่านั้น ยังดีที่ตอนนี้เขามีความรักของครูประจำชั้นชโลมอยู่ทั่วกาย 555 จนนึกถึงการเรียนและกิจกรรมส่วนรวมอยู่บ้าง ยังมีกู้เหมี่ยวที่สรรหาวิธีเล่นกับเขาเหมือนเด็กๆ รวมถึงกู้เฟยที่คอยหัวเราะและต่อยตีกับเขาด้วยเรื่องปัญญาอ่อนอีก ถ้าถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ เขาคิดว่าคงดีล่ะมั้ง… อย่างน้อยกู้เฟยก็บอกว่า จะพานายไปกินของที่ฉันชอบที่สุดแล้วกัน(≧◡≦) ♡

    เจี่ยงเฉิง กู้เฟย และน้องเอ้อร์เหมี่ยวหมวกเขียว Cr. Manhwa
             สำหรับนิยายเรื่องนี้เรียกว่าตั้งตาคอยมากๆเลยค่ะ มันเป็นนิยายที่น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ แม้จะมีเซตติ้งเป็นเมืองเก่าๆเล็กจ้อยที่แสนหนาวเหน็บ ทว่าคุณอูเจ๋อกลับถ่ายทอดเรื่องราวของวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และความไม่มั่นคงทางจิตใจออกมาได้อบอุ่นและมีมิติมากๆ  แต่ละคำพูด แต่ละอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมันละเอียดและมีเสน่ห์สุดๆ ยิ่งรวมมุกตลกแบบกลมกล่อม ความขี้แกล้งและแอบน่ารักของกู้เฟยและเจี่ยงเฉิงที่มีออกมาเรื่อยๆ รวมถึงปมที่ซุกซ่อนและรอวันกระเทาะเปลือกออกมาของตัวละครต่างๆ มันยิ่งทำให้เรื่องราวชวนติดตามมากขึ้นไปอีก อ่านไปก็ได้แต่เพ้อไปว่าดีจังเลยน้า โอย มันละมุนและครบทุกรสเลยค่ะ 

             เราชอบที่คุณอูเจ๋อแอบใส่กิมมิคตัวละครจาก Out of Tune เข้ามาด้วย ทั้งทรงผมที่โดดเด่น ช่วงขาที่ทั้งตรงทั้งยาว ชอบถ่ายภาพ หรือแม้แต่คำว่า 'กระดูกใหญ่' 555 ถ้าถามว่ามันแตกต่างกันมั้ย เราว่ามันให้คนละอารมณ์แต่อบอุ่นหัวใจไม่แพ้กันเลย ขณะที่ Out of Tune เน้นไปที่ความกล้าในการก้าวออกจากที่มืดของเซี่ยงซีโดยมีเฉิงโป๋เยี่ยนคอยเป็นแสงสว่างนำทาง แต่เรื่องนี้กลายเป็นเจี่ยงเฉิงที่ถูกเตะออกจากแสงสว่างมาเผชิญหน้ากับความหยาบกระด้าง และความเละเทะของกลุ่มคนที่ดิ้นรนอยู่ชั้นต่ำสุดของสังคม ความเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้ง หงุดหงิดใจ และไม่ยินยอมต่อชะตาชีวิต รวมถึงสภาพแวดล้อมที่พลิกฟ้าพลิกดินทำให้เจี่ยงเฉิงต้องแบกรับอารมณ์ต่างๆไว้มากมาย เขาเหมือนคนที่ถูกแขวนไว้บนอากาศ จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมก็ไม่ได้ จะปรับตัวเข้าให้กับชีวิตในปัจจุบันก็ดูแปลกแยกไม่เข้าพวกไปเสียหมด
    แวะฟัง Theme Song ได้น้า 
           จากบุคลิกเดิมที่เต็มไปด้วยหนามแหลมรอบกาย สิ่งที่เจี่ยงเฉิงต้องเผชิญในตอนนี้ยิ่งทำให้เขาเหมือนลูกระเบิดเคลื่อนที่และพร้อมจะระเบิดทุกเวลา จุดนี้เองที่ทำให้เรารอคอยว่าเมื่อไรที่เจี่ยงเฉิงจะปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหลายแหล่ออกมาเสียที ความสับสนและอารมณ์ขุ่นมัวในตอนต้น ค่อยๆไต่ระดับจนจนถึงวินาทีที่เขาเจ็บปวดและรู้สึกเสียใจกับทุกสิ่งที่ทำไปก่อนหน้า พอถึงซีนนั้นจริงๆผู้เขียนก็ถ่ายทอดอารมณ์ของเจี่ยงเฉิงได้ออกมาแบบแอบขำปนน้ำตาซึมเลยค่ะ ตอนนี้ก็ได้แต่รอวันที่เจี่ยงเฉิงจะปรับตัวและหาจุดยืนในแบบของตัวเองได้เสียที

             ส่วนชีวิตของกู้เฟยเองก็ไม่ง่ายเลย แม้ฉากนอกจะดูเงียบๆ ไม่แยแสต่อสิ่งใด และทำตามอำเภอใจอยู่ตลอด ทว่าลึกๆแล้วเขาต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว รวมถึงอดีตที่คอยหลอกหลอนใจไม่ต่างกัน และการแบกรับเรื่องราวต่างๆไว้เพียงลำพังนี้เองที่ทำให้กู้เฟยดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยและมี ‘ออร่าของลูกพี่’ อยู่รอบกาย

            โชคดีที่ความบังเอิญต่างๆนานาทำให้ชีวิตของเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น ช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างเผชิญกับอะไรสักอย่าง การมีอยู่ของอีกคนมันช่วยปลอบประโลมกันและกันได้ดีมาก พวกเขารับรู้และเข้าใจความรู้สึกของอีกคนได้โดยไม่ต้องมีคำพูด มันทั้งอบอุ่นและเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่แปลกที่ครูประจำชั้นอย่าง เหล่าสวี จะเล็งเห็นว่าเจี่ยงเฉิงสามารถดึงกู้เฟยออกจากความมืดมนที่เผชิญอยู่ได้ แม้ตอนนี้ทุกอย่างจะเพิ่งเริ่มต้น แม้ทุกอย่างจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่อย่างน้อยท่ามกลางความหนาวเหน็บของเมืองแห่งนี้ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ว่ายังมีอีกคนที่พร้อมเดินเคียงข้างและเติบโตไปพร้อมๆกัน รอจนกว่าวันที่พวกเขาจะหาทางเดินของตัวเองเจอ และรอจนกว่าจะถึงวันที่ท้องฟ้าสีเทาหม่นจะมีความสดใสเข้ามาเติมเต็ม (♡°▽°♡)
    ต้าเฟย เสี่ยวเฉิง และน้องเอ้อร์เหมี่ยว (≧◡≦) ♡ Cr. weibo @三澄九安

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in