"ศิลปะของการก้าวต่อไปข้างหน้า คือ การได้พบกับความจริงที่ชัดเจน แม้จะแสนเจ็บปวดก็ตามที"
บางครั้งความคลุมเครือก็สร้างความไม่สบายใจและอึดอัดจนรู้สึกหายใจไม่ค่อยทั่วท้อง
การได้พบกับความจริงที่ชัดเจนกระจ่างแจ้ง ไม่ว่าจะสุขใสหรือแสนเศร้า สำหรับฉันแล้ว
มันคือสิ่งที่ดีกว่า
ย้อนไปวานก่อน
ฉันได้พบกับคำตอบของคำถามที่ค้างคาใจอยู่นานโดยไม่ตั้งใจ เวลานับปีที่หัวเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยสิ้นสุดลงด้วยประโยคเพียงประโยคเดียวที่บังเอิญดังกระทบหู และวินาทีนั้น ความชาก็แล่นซึมซาบผ่านไปทั่วร่างกาย ไปกระจุกรวมอยู่ที่ตรงหัวใจ
นี่คืออาการของการอกหักใช่ไหม
ถึงอย่างนั้น โชคดีที่ความไม่ชัดเจนในระยะเวลาแสนนานได้บอกให้ฉันเตรียมใจเพื่อพบกับความจริงเข้าสักวัน การเตรียมตัวมาก่อนมันคงดีอย่างนี้นี่เอง ปวดหนึบที่ใจเพียงชั่วครู่ ความรู้สึกที่ใจเบาลงก็มาแทนที่ ฉันยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย และคิดในใจว่า 'อืม ว่าแล้ว'
นี่คือคำตอบที่ฉันเฝ้ารอมาแสนนานใช่ไหม
การยอมรับความจริงให้ได้สำหรับบางเรื่องนั้นยากเย็นแสนเข็ญ ยิ่งกับเรื่องร้าย ๆ นับว่ายากเหลือเกิน เวลาถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยที่สำคัญที่สุด แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก สำหรับฉันแล้ว การมีชีวิตอยู่กับความจริงอันไม่พึงปรารถนาได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การยอมรับมัน เชิดหน้า แล้วยอมรับมัน
นี่คือศิลปะของการก้าวต่อไปใช่ไหม
เพราะฉะนั้น แม้มันจะยอมรับยากแค่ไหน ก็ขอให้มีวันนั้นสักวันเถอะ ความจริง ความชัดเจน และความโหดร้ายของมันไม่ได้มีขึ้นเพื่อสร้างความเจ็บปวดและบทเรียนให้เราเท่านั้น แต่มันคือกุญแจดอกหนึ่งของชีวิต เป็นกุญแจที่จะช่วยปลดล็อคให้ชีวิตมีอิสระ และก้าวต่อไปข้างหน้าได้
เมื่อเรายอมรับ อาจหมายถึง การที่เราเปิดใจให้กับสิ่งนั้น
เมื่อเราเปิดใจ แสดงว่า เราได้ปล่อยตัวเองให้เข้าไปทำความเข้าใจกับมัน
เมื่อเราเข้าใจมันแล้ว จึงแปลว่า เราได้พาตัวเองออกจากสิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้
และสุดท้าย มันก็จะกลายสิ่งที่พาให้เราเดินต่อ
ความเจ็บปวดในวันนี้ก็คืออดีตของวันหน้า
ยอมรับ เข้าใจ และก้าวต่อไป
มันยาก แต่เราจะทำมันได้
ในสักวัน.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in