21 June 2021
Ciao Milano
ช่วงต้นฤดูร้อนในมิลานนั้นแสนสดใสเหมือนอย่างเคย แสงแดดยามบ่ายเป็นประกายเจิดจ้ารับกับท้องฟ้าที่มีปุยเมฆขาวลอยเป็นกลุ่มเล็กๆ และแม้ว่าแสงแดดยามบ่ายจะร้อนแรงแต่ก็ยังดีที่มีลมเย็นพัดเอื่อยเฉื่อยมาช่วยให้คลายร้อน
นานเหลือเกินที่ไม่ได้สัมผัสกับอากาศดีๆแบบนี้เพราะตลอดช่วงเดือนนิด ๆ ที่ผ่านมา เราแทบจะไม่ได้ออกไปไหนไกลเกินกว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตหลังบ้าน ร้านกาแฟเจ้าประจำใต้ตึกที่พัก หรือเดินทางไปทำงาน เนื่องจากอากาศในเมืองทะเลทรายนั้นช่างเลวร้าย มีฝุ่นหนาทุกวัน และอากาศร้อนจนไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้ หากจะไปไหนมาไหนก็ต้องรอจนกว่าพระอาทิตย์จะทอแสงอ่อนในช่วงพลบค่ำ
วงจรชีวิตอันแสนเศร้าและการอยู่บ้านมากจนเกินไปนั้นทำให้จิตใจเหี่ยวเฉา ประกอบกับสถานการณ์ในประเทศไทยช่างมืดมันเหลือเกิน การตื่นมาอ่านข่าวที่ทำให้ชวนเศร้าและโกรธแค้นในทุกวันทำให้สุขภาพใจของเราไม่ค่อยดีเท่าไร จึงเป็นการที่ดีที่เราได้หยุดพักออกจากภาวะดังกล่าวบ้างแม้เพียงเล็กน้อยและเริ่มออกเดินทางอีกครั้งหนึ่ง โดยหวังใจไว้ว่าเราจะค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ระหว่างทาง
จากสถานีรถไฟ Milano Cardona เราเดินเลียบเงาร่มไม้มาเรื่อย ๆ จนถึง Castello Sforzesco หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Castle of Milan ค่ะ นอกจากจะเป็นปราสาทเก่าแก่อายุนับร้อยปีและมีป้อมปราการใหญ่ที่สุดในยุโรปแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวบรวมผลงานศิลปะอันล้ำค่าและเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Museum of Ancient Art ที่จัดแสดงผลงานของไมเคิล แองเจโล หรือภายในหอสมุด Trivulziana ก็มีการรวบรวมผลงานต้นฉบับของลีโอนาโด ดาวินชีจัดแสดงเอาไว้ ตลอดจนเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ที่จัดแสดงงานอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอิตาลี เช่น Museum of Musical Instruments, Applied Arts Collection, Museum of Decorative Art และ Antique Furniture and Wooden Sculpture Museum น่าเสียดายที่พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ยังไม่เปิดให้เข้าชมแบบเต็มรูปแบบค่ะ
โดยปกติแล้ว พื้นที่ลานกว้างตรงกลางปราสาทแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยขบวนนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกสารทิศที่เข้ามาเยี่ยมชมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า แต่พอได้มาเห็น Castello Sforzesco แบบโล่งว่างก็ดูแปลกตาไปอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการปรับเปลี่ยนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของลานกว้างนี้เป็นเวทีคอนเสิร์ตกลางแจ้ง เหมือนเป็น Summer Music Festival ค่ะ มีการจัดเก้าอี้เรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนที่เดินผ่านเขาก็กำลัง sound check และซ้อมร้องเพลงกันนิด ๆ หน่อย ๆ ด้วย บรรยากาศคึกครื้นกันมากทีเดียว
ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีความสูง 70 เมตรค่ะ
ตอนที่เราไป ทางการยังมีกฎให้สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะอยู่ แต่มีการผ่อนปรนในเรื่องของการเว้นที่นั่งในรถสาธารณะ สามารถนั่งที่นั่งติดกันโดยไม่ต้องเว้นที่ได้แล้ว และตอนนี้ (เดือนกรกฎาคม) ก็ยกเลิกกฎสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in