สามปีผ่านไปไวเหมือนติดปีก✈️
สวัสดีมิตรรักผู้อ่านทุกท่าน :)
กลับมาเขียนบล็อกอีกครั้งหนึ่งแล้วนะจ๊ะ หลังจากห่างหายกันไปนานเกือบ ๆ สองเดือนเลยทีเดียว ครั้งสุดท้ายที่แวะเวียนมาทักทายกันนั้นก็คือช่วงธันวาคมปีที่แล้วนู้น ส่วนเหตุที่หายไปนั้นก็มีหลากหลายประการด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ไฟล์ทบินที่ซ้ำเดิม ไม่ได้ไปไหน ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ เลยไม่ได้เอามาเขียน ตลอดจนช่วงนี้ (ความจริงแล้วคือทุกช่วงนั่นแหละ) เราบินหนักมาก ไม่มีเวลาได้มานั่งเปิดคอม เรียบเรียงความคิด และจรดมือลงบนแป้นพิมพ์ ประกอบกับเราต้องเตรียมอ่านหนังสือสอบเนติด้วย เลยไม่มีเวลาเท่าไรนัก (ใช่ เรากลับไปเอาดีทางด้านกฎหมายแล้วนะ แม้ว่าจะกลับไปสอบไม่ได้ก็ตามที...)
สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่การแชร์ชีวิตประจำวันลงบนไอจีสตอรี่ บ่นชีวิตไปเรื่อยเปื่อยในทวิตเตอร์ ทำคลิปลงยูทูป และลงโพสต์ในเพจ
ด้วยรักจากทะเลทราย บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น (ใส่ลิงค์ขายของไว้ตรงนี้ ตามไปอ่านกันได้นะจ๊ะ)
ไม่น่าเชื่อนะ... ว่าเราเขียนเรื่องราวชีวิตของเราในเมืองทะเลทรายมาครบสามปีแล้ว
พอมองย้อนกลับไป สามปีนั้นผ่านไปไวเหมือนติดปีกจริง ๆ เลยนะ นับตั้งแต่วันที่ลากกระเป๋าหอบชะลอม ขึ้นเครื่องบินมายังเมืองที่ไม่มีใครรู้จัก เริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศที่ไม่คุ้นเคย และลากกระเป๋าไปโผล่ที่มุมนู้นมุมนี้รอบโลก
สามปีที่ผ่านมาเราเจอะเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องที่ดีต่อใจผสมปนเปกับเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไรนัก แต่ก็เป็นบทเรียนของชีวิตที่สอนให้เราเติบโต ตลอดจนได้ผ่านช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ร้องไห้หนักมากที่สุดในชีวิต สติแตกมากที่สุดในชีวิต และขณะวินาทีที่หัวใจพองโตเกือบ ๆ จะมากที่สุดในชีวิต
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ มาตลอดสามปี มันก็มีความเหนื่อย เนือย หมดไฟ ไม่รู้สึกกระดี๊กระด๊า สปาร์คจอยเหมือนเดิม (ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเหมือนกันที่ไม่ค่อยมีอะไรมาเล่าให้อ่านเท่าไรนัก เพราะเราเลือกจะบินไปไฟล์ทเดิม ๆ เป็นส่วนใหญ่ และการเขียนมาตลอดสามปีมันคือการผลิตงานรูปแบบเดิม ๆ ออกมาซ้ำ ๆ ความสด ความใหม่มันเริ่มจางหายแล้ว) ซึ่งในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงที่เราได้พักและตามหาจุดที่สมดุล ลงตัว และเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุข
หลังจากสามปีที่เราอยู่ที่นี่
ตอนนี้เราสามารถเรียก "ดูไบ" ว่า "บ้าน" ได้อย่างสนิทใจ
เราไม่รู้ว่าเวลาของเราที่นี่จะยาวนานไปแค่ไหน อาจจะทำไปอีกปี สองปี หรืออยู่ยั่งยืนยงยาวนานจนเป็นเพอเซอร์ก็ไม่อาจทราบได้ แต่จากนี้ต่อไปเราจะพยายามใช้ชีวิตในทุก ๆ วันให้มีความสุข หาเรื่องที่ทำให้ใจฟูประจำวันให้ได้ และพัฒนาคุณภาพในการใช้ชีวิตให้สดชื่นแจ่มใสต่อไป
และก่อนจะเปลี่ยนหน้าใหม่ไปเล่าเรื่องอื่น สุดท้ายนี้เราขอขอบคุณมิตรรักผู้อ่านทุก ๆ ท่านที่ติดตาม ด้วยรัก...จากทะเลทราย เสมอมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเท้าออกนอกประเทศไทยจนถึงเวลานี้ที่นั่งพิมพ์ต๊อกแต๊กอยู่ในร้านกาแฟแถว ๆ บ้าน เราได้รับข้อความให้กำลังใจจากผู้อ่านมาอย่างสม่ำเสมอยาวนาน ทั้งเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่อยากติดปีกมาช่วยกันร่อนถาดที่นี่ ตลอดจนผู้อ่านที่บังเอิญแวะเวียนมาแล้วส่งกำลังใจให้
หากไม่มีทุก ๆ คนที่เข้ามาอ่าน
ก็คงจะไม่มี "ด้วยรัก...จากทะเลทราย" ในวันนี้
ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้เหมือนเดิมนะคะ อาจจะปรับสไตล์การเขียนดูบ้าง เป็นการเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไปในชีวิตให้อ่านกัน ในกรณีที่เราไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนแปลกใหม่เป็นพิเศษ (แต่ก็จะพยายามไปอยู่ดีนั่นแหละ เฮ) หลัก ๆ แล้วก็คงเขียนลงเพจเป็นโพสต์เล็ก ๆ ให้ได้ติดตามถึงความสุขสวัสดิ์ในชีวิตนั่นแหละ อย่าลืมไปกดไลก์กันด้วยนะจ๊ะ
นอกจากนี้เราอยากจะลองทำยูทูปดูบ้าง เพราะเริ่มสนุกกับการถ่ายคลิปต่าง ๆ และนำมาตัดต่อเพื่อเล่าเรื่องราว เราถือว่าการทำยูทูปนั้นก็เป็นหนึ่งในงานเขียนของเราเหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากการถ่ายภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว ยังไงก็ฝากติดตามไปกด subscribe กันด้วยนะคะ♡
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in