หลังจากที่ได้ฝึกงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งก็พบว่าคำสรรพนามที่มักจะได้ยินเด็ก ๆ และผู้ปกครองใช้เรียกพี่พะแพงจะมีอยู่หลากหลายคำ เช่น พี่สาว, คุณครู, Oneechan(พี่สาว), 老师(เหล่าซือ/คุณครู),姐姐 (เจี่ยเจีย/พี่สาว) โดยแต่ละคำล้วนบ่งบอกได้ถึงความหลากหลายของสัญชาติ แต่เมื่อถูกเรียกด้วยคำเหล่านี้ก็เอ็นดูเด็ก ๆ ไปอีกแบบแล้วก็ไม่ได้รู้สึกในเชิงลบ
จนเมื่อได้รู้จักกับน้องสาวคนหนึ่งอายุ 1 ขวบ 7 เดือน ขออนุญาตใช้นามแฝงว่าน้องไจ๋ น้องไจ๋มากับคุณพ่อสองคน แต่ด้วยความที่คุณพ่อน้องไจ๋มีงานด่วน พี่พะแพงจึงรับหน้าที่ดูแลน้องไจ๋แทนคุณพ่อ ครั้งแรกที่ได้เจอกับน้องไจ๋พบว่าน้องยังเด็กเกินกว่าที่จะทำกิจกรรมวาดรูประบายสีจึงทำการเล่านิทานให้น้องไจ๋ฟัง จากการเล่นกับน้องไจ๋พบว่าความเชื่อที่บอกว่าหัวใจไม่ใช่ของเราอีกต่อไปได้ทันที เพราะน้องไจ๋น่ารักมาก ถึงแม้ว่าการสื่อสารจะเป็นพี่พะแพงที่พูดมากอยู่คนเดียว แต่ก็สัมผัสได้ว่าน้องไจ๋พยายามที่จะพูดกับพี่พะแพงเช่นเดียวกัน พี่พะแพงกับน้องไจ๋แทบจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา น้องไจ๋จูงมือพาพี่พะแพงเดินเล่นรอบห้อง พี่พะแพงพาน้องไจ๋ไปดูหนังสือภาพ เรียกได้ว่ามีความรักแค่ไหนก็ให้น้องไจ๋หมดเลย
แต่แล้วจังหวะหยุดโลกก็ได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับคำว่า “หม่าม้า” พร้อมกับชี้มาที่พี่พะแพง ในครั้งแรกที่ได้ยินก็เข้าใจว่าน้องไจ๋อาจจะเรียกให้พี่พะแพงมาหาอย่างคำว่า “มามา” หรือเปล่า แต่น้องไจ๋กลับเรียกพี่พะแพงบ่อยขึ้นและดังชัดเจนเป็นคำว่า “หม่าม้า” จังหวะหยุดโลกก็เข้าแทรกขึ้นมาทันที ณ ตอนนั้นในใจร้อนรนเหมือนคนทำอะไรผิดพร้อมกับแก้ให้น้องไจ๋เรียกว่า “พี่” แทน แต่น้องไจ๋ยังคงยืนยันที่จะเรียกหม่าม้า ความชื้นเริ่มปรากฏที่กรอบหน้าเพราะเกรงใจคุณพ่อและหม่าม้าตัวจริงของน้องไจ๋มาก คำว่าหม่าม้าถูกส่งไปให้คุณพ่อน้องไจ๋ได้ยินเข้า คุณพ่อน้องไจ๋ขำและอธิบายว่าหม่าม้าน้องไจ๋เขาใส่แว่นเหมือนพี่พะแพง พร้อมทั้งสอนให้น้องไจ๋เรียกว่าพี่แทน สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเมื่อน้องไจ๋พูดคำว่าพี่แทนคำว่าหม่าม้า แต่ก็ยังมีบางครั้งที่ยังคงเรียกพี่พะแพงว่าหม่าม้าเมื่อเจอกันในวันต่อ ๆ มา เรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลกหยุดโลกที่น่ารักของเด็ก ๆ ไปอีกแบบ
ภาพประกอบ : พี่พะแพงและน้องไจ๋
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in