เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
wild rabbit #jaedohbrxnct
Chapter 8 : Find Richard





  • แม้ว่าภารกิจลักลอบเจาะระบบดาร์กเว็บจะสำเร็จแล้ว ทว่างานของพวกเขาทั้งหกคนนั้นยังไม่จบ การบุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้น และเป้าหมายถัดไปของพวกเขาก็คือการหาตำแหน่งที่อยู่ของริชาร์ดให้พบเพื่อทำการสะกดรอย รวมถึงการร่างคำขอหมายค้นเพื่อนำไปยื่นให้ศาลพิจารณาในวันรุ่งขึ้นนี้ด้วย

    งานของพวกเขาล้นมือเกินกว่าจะมีใครนั่งเอ้อระเหย ต่างฝ่ายต่างก็เร่งมือทำหน้าที่ของตัวเองต่อโดยไม่มีใครนึกหยุดพัก

    รถตู้สีดำสนิทเคลื่อนตัวมาจอดบริเวณฟุตปาธที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคาเฟ่ยี่สิบสี่ชั่วโมงแห่งหนึ่งในย่านดาวน์ทาวน์ กฎพื้นฐานในการปกปิดร่องรอยของแดนเนล--ห้ามใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของตนเองในการลักลอบเข้าถึงระบบของผู้อื่น ร้านคาเฟ่ดังกล่าวจึงเป็นสถานที่ที่เขาเลือกในการขออาศัยใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงระบบที่ว่า และเพราะแดนเนลเคยมาที่ร้านนี้สองถึงสามครั้ง จึงทำให้เขามีรหัสไวไฟของทางร้านอยู่ในมืออยู่แล้ว และนั่นก็ทำให้ทุกอย่างยิ่งปลอดภัยและง่ายดายสำหรับเขามากขึ้นไปอีก เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเจาะระบบอินเตอร์เน็ตของร้านเข้าไปให้หลงเหลือร่องรอยของตัวเองในนั้น

    ดาร์กเว็บดังกล่าวถูกเปิดขึ้นมาอีกรอบหนึ่งเมื่อแล็ปท็อปของแดนเนลมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และไอดีที่มีสิทธิ์เข้าถึงบอร์ดลับในการแลกเปลี่ยนซื้อขายของผิดกฎหมายก็ถูกนำมาใช้งานในทันที ภาพหน้าจอในการโพสท์ซื้อขายของต่าง ๆ บนบอร์ดถูกแดนเนลจับเอาไว้นับสิบภาพ และมันก็เป็นหลักฐานชั้นดีในการเอาผิดดาร์กเว็บแห่งนี้

    "คุณไม่ต้องห่วงเรื่องวิธีการที่ได้หลักฐานพวกนี้มาหรอกนะ ผมรับรองว่ามันไม่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน" แดนเนลหันไปเอ่ยกับเจ้าหน้าที่จากเอฟบีไอที่กำลังนั่งร่างหมายค้นอยู่ข้าง ๆ "ดาร์กเว็บแห่งนี้เป็นของมาเฟียกลุ่มหนึ่งที่เราเคยมีสายอยู่ในนั้น คุณบอกกับศาลได้ว่าเราได้ไอดีนี้มาจากสายคนนั้น"

    เจย์เดนหยุดมือที่กำลังทำงานของตัวเองลงทันทีเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปมองหน้าคู่สนทนา

    "คุณมีชื่อเขาไหม สายลับคนนั้นน่ะ แล้วเขาสามารถขึ้นศาลได้หรือเปล่า? หรือว่าเขายังคงแทรกซึมในมาเฟียกลุ่มนั้นอยู่"

    "เปล่าหรอก เขาไม่ได้แทรกซึมอยู่ในนั้นแล้ว" แดนเนลสบตาเข้ากับเขา ชั่ววูบหนึ่งเขาสัมผัสได้ถึงความโศกที่แฝงอยู่ลึก ๆ ในดวงตากลมดำขลับคู่นั้น "แต่คุณคงพาเขาขึ้นศาลไม่ได้หรอกนะ เพราะเขาน่ะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วล่ะ"

    "อ่า...ผม--"

    รอยยิ้มจาง ๆ ที่ปรากฎอยู่บริเวณมุมปากของคนตรงหน้าฉายแววเศร้าสร้อย ก่อนที่มันจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่ออีกฝ่ายยืดหลังตรงและสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งสติแล้วชวนเขาเปลี่ยนหัวข้อการคุยในทันที โดยไม่เปิดช่องให้เขาได้แก้ไขความรู้สึกผิดที่เกิดจากการเอ่ยปากถามในสิ่งที่ไม่ควรถามออกไปเลยสักนิด

    "เรื่องสะกดรอยตามริชาร์ด คุณจะไปด้วยด้วยตัวเองหรือเปล่า? คุณต้องทำเรื่องหมายค้นนี่ หรือว่าจะส่งคนอื่นในหน่วยงานของคุณไปแทน"

    "แล้วคุณจะไปหรือเปล่าล่ะ?"

    "ไปสิ ตำแหน่งของเขาอยู่ในมือผมนะ"

    "ถ้าอย่างนั้นผมไปกับคุณด้วย ส่วนเรื่องหมายค้นเดี๋ยวผมฝากให้คู่หูของผมจัดการให้ เขาไว้ใจได้"

    เจย์เดนตอบในทันทีโดยแทบไม่เสียเวลาคิดนาน เรื่องหมายค้นสำคัญก็จริง แต่เรื่องที่เขาต้องคอยจับตาดูแดนเนลไม่ให้วิ่งเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อชั่วโมงก่อนสอนให้เขารู้ว่าหากเขาไม่อยากบกพร่องในหน้าที่อีก เขาจะต้องคอยจับตาดูแดนเนลทุกฝีก้าวไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว และเขาจะยอมไม่ประมาทอีกต่อไป นั่นจึงทำให้เขาล้วงเอาสมาร์ทโฟนของตนออกมากดหาหมายเลขโทรศัพท์ของคู่หู เสียงคลื่นสัญญาณดังอยู่ไม่นานนักเทย์เลอร์ก็รับสาย

    [นี่นายยังไม่นอนอีกเหรอ?]

    เจย์เดนเผลอเลิกคิ้วน้อย ๆ ด้วยความประหลาดใจ เมื่อสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายนั้นฟังดูปกติเกินกว่าจะเป็นเสียงของคนที่ถูกรบกวนการนอน ทั้งที่ตอนนี้ก็เป็นเวลาตีสองกว่า ๆ เข้าไปแล้ว

    "ยัง นายล่ะ ยังไม่นอนอีกรึไง?"

    [อือ มีคดีน่ะ]

    "คดีอะไร? ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย"

    [จริง ๆ ก็ไม่ใช่คดีฉันหรอก ทางนี้ตั้งแต่ปิดคดีก่อนไปก็ไม่มีงานอะไรใหม่เข้ามาอีกเลย แล้วพอนายไม่อยู่ฉันก็ยิ่งเคว้งคว้าง นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบอยู่เฉย ๆ] แค่ฟังจากน้ำเสียงของคู่สนทนาเขาก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเบื่อหน่ายที่จะต้องเอาแต่นั่งรอโดยไม่มีอะไรให้ทำเป็นชิ้นเป็นอันมากแค่ไหน [เลยมาขอจับกลุ่มอยู่กับพวกแผนกสืบสวนชั่วคราวจนกว่าภารกิจทางนั้นของนายจะเสร็จน่ะ คดีที่ว่าก็คดีสืบสวนการฆาตกรรมของพวกนั้นนั่นแหละ ฉันแค่เข้ามาช่วยออกความเห็นนิดหน่อยแต่ไม่ได้อยู่ในทีมสืบสวนเต็มตัวหรอก ว่าแต่นายมีอะไรเหรอ?]

    จากการร่วมงานกันมาหลายปี เจย์เดนรู้ดีว่าคู่หูของตัวเองนั้นจัดอยู่ในกลุ่มของคนที่มีความกระตือรือร้นสูง และนั่นก็มาจากความไม่ชอบอยู่นิ่งรวมไปถึงความทะเยอทะยานในหน้าที่การงานของเจ้าตัว แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไรนัก เพราะมันทำให้เทย์เลอร์มีคนรู้จักอยู่ทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่ยามหน้าตึกไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าพวกเขา ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งความอัธยาศัยดีที่คนเหล่านั้นมีต่อคู่หูของเขาก็เผื่อแผ่มาถึงตัวเขาด้วย

    "เรื่องงานเอกสารเล็กน้อยน่ะ ฉันอยากให้นายไปขอหมายค้นให้หน่อย ขอภายในวันพรุ่งนี้ทันทีที่ศาลเปิด"

    [โอ้โหคุณเจย์เดน นี่ตีสองแล้วนะครับ คุณจะมาอยากได้หมายค้นอะไรเอาป่านนี้] ถ้อยคำสัพยอกถูกเอ่ยออกมาอย่างไม่จริงจังนักพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ [แล้วยังจะขอทันทีที่ศาลเปิดอีก รีบอะไรขนาดนั้นล่ะเนี่ย]

    "ฉันต้องการด่วนมากจริง ๆ" เจย์เดนเอ่ยตอบอีกฝ่ายกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แล้วก็อีกเรื่อง นายช่วยไปที่บ้านฉันแล้วเก็บเสื้อผ้ามาให้หน่อยได้ไหม เอามาสักสี่ห้าชุดนะ พรุ่งนี้ช่วงเช้าฉันจะให้คนเข้าไปเอาที่ตึกสำนักงาน"

    [เฮ้ ๆ ได้ทีแล้วใช้ฉันใหญ่เลยนะนาย] เทย์เลอร์ถึงกับร้องท้วงออกมาเมื่อได้ยิน [ทางนั้นไม่ปล่อยให้นายกลับบ้านกลับช่องบ้างเลยหรือไง]

    "ปล่อย แต่ฉันคิดว่าฉันไม่ควรกลับจนกว่าทุกอย่างจะจบน่ะ"

    ดูเหมือนว่าการได้กลับไปนอนที่บ้านของตัวเองในทุก ๆ คืนที่เขาเคยหวังไว้ จะกลายเป็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นและจบลงในหัวของเขาเท่านั้น เขาตัดสินใจไปแล้วว่าหลังจากนี้เขาจะมาอาศัยอยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งเดียวกับพวกซีไอเอจนกว่าภารกิจจะจบลง ทว่าการที่เขาต้องคอยจับตาดูแดนเนลอยู่ตลอดเวลานั้นทำให้เขาไม่สามารถปลีกตัวออกไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านได้เลย ทางออกเดียวที่เหลืออยู่จึงเป็นการฝากฝังให้คู่หูของตนช่วยเป็นธุระจัดการให้

    เจย์เดนใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่คลึงขมับตัวเองเบา ๆ ขณะแจกแจงรายละเอียดในส่วนที่เทย์เลอร์ควรรู้ทีละข้อ ทว่าก็ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายรับรู้ข้อมูลอื่นในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการขอหมายค้นเลย การใช้ความคิดอย่างหนักทำให้เส้นเลือดข้างขมับของเขาเต้นตุบเป็นครั้งที่สองของวัน ทั้งที่ทุกอย่างเพิ่งจะผ่านมาได้แค่วันเดียวแต่เขากลับรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับผ่านมาแล้วเป็นสัปดาห์ ความหนักหนาที่เจอในวันนี้ทำให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไออดที่จะทอดถอนใจให้กับตัวเองไม่ได้

    ในขณะที่เจย์เดนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับคู่หูของตัวเอง แดนเนลก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเสียเปล่า ชายหนุ่มทำการสืบเสาะจนได้ที่อยู่จากตำแหน่งของเลขไอพีทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ บนแผนที่จากดาวเทียมปรากฎเป็นจุดสีแดงที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่อยู่ที่กระจัดกระจายอยู่โดยทั่ว แต่เขารู้ดีว่าเป้าหมายของเขามีเพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น

    "นายจะรู้ได้ยังไงว่าที่ไหนคือที่อยู่ของริชาร์ด?"

    จอห์นนี่ที่มองหน้าจอแล็ปท็อปตาไม่กระพริบเอ่ยถามคนเป็นเจ้าของ สีหน้าของเขาดูเครียดเคร่งไม่น้อย การกระจายตัวของจุดสีแดงเหล่านั้นกินอาณาเขตกว้างเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถตรวจสอบให้ครบทุกจุดภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ นั่นคือริชาร์ดต้องถูกจับกุมอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "มันก็เห็น ๆ กันอยู่ ข้อมูลที่เขาได้มาจากกระทรวงกลาโหมน่ะมีไม่น้อยเลยนะ นายคิดว่าการถ่ายโอนข้อมูลก้อนใหญ่ขนาดนั้นมันจะกินแบนด์วิธ[1] มากขนาดไหนกัน" แดนเนลตอบ "ฉันก็แค่ต้องหาว่าในวันที่กระทรงกลาโหมถูกโจมตี ข้อมูลพวกนั้นถูกถ่ายโอนมาเก็บไว้ในส่วนใดของเซิฟเวอร์ และมันถูกส่งต่อไปที่ไหนอีกหลังจากนั้น แล้วก็เจอนี่ ไอพีนี้ยังไงล่ะ"

    เจย์เดนที่กำลังติดสายโทรศัพท์อยู่อดที่จะเหลือบสายตามองตามปลายนิ้วเรียวของแดนเนลที่เคาะเบา ๆ ลงบนจุดสีแดงจุดหนึ่งบนหน้าจอไม่ได้ ในนั้นปรากฎเป็นหมายเลขไอพีชุดหนึ่งและเลขที่อยู่ของบ้านซึ่งตั้งอยู่ในย่านนอร์ธฮิลส์ และเมื่อเทียบจากจุดที่พวกเขากำลังอยู่นี้ ระยะห่างนั้นเรียกได้ว่าอยู่อีกฟากหนึ่งของเมืองก็ว่าได้

    "บ้านคน? เขามีบ้านด้วยเหรอ?"

    จอห์นนี่เป็นคนถามในสิ่งที่เจย์เดนเองก็นึกสงสัยขึ้นมาพอดี แดนเนลไหวไหล่ของตนเล็กน้อยเมื่อได้ยินก่อนจะเอ่ยตอบ

    "ไม่รู้สิ มันอาจจะเป็นบ้านของเขาหรือไม่ใช่ก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเราก็คงต้องไปอยู่ดี ใช่ไหมล่ะ"

    อย่างไรก็ดี การจะเดินทางจากจุดที่พวกเขาอยู่ ณ ตอนนี้ไปยังย่านนอร์ธฮิลส์นั้นต้องใช้เวลาพอสมควร พวกเขาจึงตัดสินใจให้เจย์เดนช่วยประสานงานกับเอฟบีไอเรื่องส่งคนไปจับตาดูริชาร์ดล่วงหน้า ในขณะที่พวกเขาจะตามไปสมทบในภายหลัง รถตู้สีดำเคลื่อนตัวออกจากย่านดาวน์ทาวน์เมื่อแดนเนลยุติการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หลังจากที่จัดการกับเรื่องหลักฐานสำหรับขอหมายค้นและส่งมันเข้าอีเมลของเทย์เลอร์ตามที่เจย์เดนบอกเสร็จเรียบร้อย

    เมื่อการสะกดรอยตามและบุกจับริชาร์ดนั้นถูกถ่ายโอนให้เป็นหน้าที่ของพวกเอฟบีไอ ไทรอนและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่หมดหน้าที่ของตนในคืนนี้แล้วจึงขอแยกตัวกลับไปพักผ่อนที่เซฟเฮ้าส์ ท้ายที่สุดคนที่เหลืออยู่จึงมีเพียงแค่เจย์เดนและแดนเนลสองคน ในตอนแรกเองนั้นจอห์นนี่ก็จะขอตามมาด้วย แต่เมื่อถูกเตือนว่าเขามีประชุมในช่วงเช้าที่กำลังจะถึงนี้ เจ้าตัวจึงต้องตามไทรอนกลับไปยังเซฟเฮ้าส์อย่างปฏิเสธไม่ได้

    ยานพาหนะถูกเปลี่ยนจากรถตู้คันใหญ่ไปเป็นรถเก๋งเชฟโรเลต ครูซสีดำขนาดสี่ประตูแทน โดยมีเจย์เดนรับหน้าที่เป็นคนขับ ทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลขสี่ศูนย์ห้านั้นยังคงมีรถยนต์สัญจรผ่านอยู่ตลอดแม้ว่าเวลานี้จะเลยเที่ยงคืนมานานมากแล้วก็ตาม

    บรรยากาศบนรถเงียบเชียบไร้เสียงสนทนา และเมื่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอเหลือบสายตามองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นได้ชิงหลับไปก่อนแล้วเป็นที่เรียบร้อย ศีรษะมนของแดนเนลพิงซบอยู่กับกระจกรถ ดวงตากลมที่มักจะมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างระมัดระวังบัดนี้ปิดสนิท กระต่ายป่าแห่งซีไอเอยามหลับนั้นยิ่งดูนิ่งสงบมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว





    "เฮ้ คุณ" เจย์เดนเอื้อมมือไปแตะต้นแขนของคนที่กำลังหลับอยู่และออกแรงเขย่าเบา ๆ เป็นการปลุก "เรามาถึงแล้ว"

    "อือออ" ร่างผอมโปร่งส่งเสียงเบา ๆ ในลำคอเมื่อถูกรบกวนการนอน ดวงตากลมนั้นค่อย ๆ หรี่ปรือขึ้น ก่อนที่จะถูกเจ้าตัวยกมือเรียวขึ้นมาขยี้เบา ๆ "ถึงแล้วเหรอ?"

    แดนเนลหันมองไปรอบกาย และพบว่าตอนนี้รถของพวกเขากำลังจอดอยู่บริเวณริมถนนในย่านที่พักอาศัย สองข้างทางเรียงรายด้วยบ้านเดี่ยวที่ยาวไปจนสุดปลายถนน ตรงหน้าของพวกเขามีรถเชฟโรเลต เทรลเบลซเซอร์สีดำที่ถูกดับเครื่องไว้จอดเรียงอยู่อีกสองคัน บ้านทุกหลังในช่วงกลางดึกแบบนี้ปิดไฟมืดสนิท ไม่เว้นแม้แต่บ้านหลังที่เป็นเป้าหมายของพวกเขา

    "ดื่มน้ำหน่อยไหม จะได้สดชื่นขึ้น แล้วก็นี่ด้วย ผมเอามาให้เผื่อคุณหิว"

    ขวดน้ำดื่มและถุงกระดาษอีกหนึ่งถุงถูกยื่นไปให้คนที่เพิ่งตื่นเต็มตา ก่อนที่เจย์เดนจะปลุกคนตรงหน้านี้ให้ตื่น เขาได้ลงไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอคนอื่น ๆ ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในรถคันหน้า และได้หยิบน้ำขวดดังกล่าว รวมถึงถุงกระดาษที่มีโดนัทอยู่ด้านในสองสามชิ้นติดมือกลับมาด้วย เขาคิดว่าแดนเนลคงหิวไม่น้อยหลังจากตื่นขึ้นมา เพราะมื้อล่าสุดที่อีกฝ่ายได้กินอะไรลงท้องไปนั้นคือมื้อเที่ยงซึ่งก็มีแค่เบอเกอร์ที่ไทรอนซื้อมาให้เท่านั้น และมันผ่านมานานมากแล้ว ช่วงเย็นตอนที่เขาและจอห์นนี่ชวนออกไปหาอะไรกินเจ้าตัวก็ปฏิเสธเพราะเอาแต่ง่วนทำงาน ครั้นพวกเขาตัดสินใจซื้อบะหมี่ผัดจากร้านอาหารจีนมาให้มันก็ถูกวางลืมเอาไว้ที่ข้างโต๊ะทำงานอยู่อย่างนั้น

    เดาได้ไม่ยากเลยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อีกฝ่ายมีร่างกายผ่ายผอมแบบนี้น่ะ ต้องเป็นเพราะการที่เจ้าตัวมักจะเอาแต่ทำงานจนลืมกินอาหารอย่างแน่นอน

    "อ่า...ขอบคุณ" แดนเนลเอ่ยขอบคุณก่อนจะรับของพวกนั้นไป มือเรียวเปิดขวดน้ำแล้วยกดื่มสองสามอึก ก่อนจะหันมาคุยกับคู่สนทนาต่อ "สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างล่ะ"

    "เขายังออนไลน์อยู่ ยังไม่เคลื่อนไหวไปไหน"

    "เหรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ คุณอยากจะหลับหน่อยไหม? เดี๋ยวผมเฝ้าต่อให้"

    "ไม่เป็นไร ผมเพิ่งได้กาแฟมา คุณอยากได้ไหมบ้างล่ะ เดี๋ยวผมไปขอพวกนั้นมาให้ แต่มีแค่กาแฟกระป๋องนะ"

    "ไม่ดีกว่า ผมไม่ถูกกับกาแฟเท่าไหร่น่ะ" แดนเนลปฏิเสธ เขาเปิดปากถุงกระดาษออกแล้วยื่นมันข้ามคอนโซลรถไปให้คนที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ "คุณเอาไหม?"

    "เชิญคุณเลย ผมเรียบร้อยมาแล้วล่ะ"

    เจย์เดนบอก เมื่อครู่นี้โดนัทในกล่องที่พวกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอซื้อมาตุนไว้น่ะถูกเขาจัดการไปเสียครึ่ง เขายังจำสีหน้าเหวอและสายตาที่มองมาอย่างทึ่ง ๆ ของเจ้าหน้าที่คนอื่นตอนที่เห็นเขาจับโดนัทพวกนั้นยัดเข้าปากได้อยู่เลย





    [tbc.]
    ศัพท์เทคนิคในตอนนี้ in a nutshell
    [1] Bandwidth ในที่นี้คือปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ตค่ะ หากข้อมูลมีขนาดที่ใหญ่มาก ๆ ก็จะยิ่งมีแบนด์วิธที่สูงมาก
    ***หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใดก็สามารถบอกเรามาได้เลยนะ เราจะรีบทำการปรับแก้ให้อย่างเร็วที่สุดค่ะ***
    ________________________________________

    ใกล้จะได้เจอตัวริชาร์ดแล้วทุกโค๊นนนนน

    ไว้มาจับริชาร์ดกันตอนหน้านะคะ อิอิ
    #ฟิควรบจด

    how to comment ใน minimore

    Note : ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน สถานที่ และเหตุการณ์ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาใด ๆ จะทำให้ศิลปินเสื่อมเสียทั้งสิ้น
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ATitaya Snjak (@fb2204379136466)
แจคีพคาแรคเตอร์กินดุแม้กระทั่งในนิยาย55555555
malittlemark (@ppooonnnnnn)
เจย์เดนคงคาแรคเตอร์ความเป็นฟู้ดไฟท์เตอร์สุดๆแม้กำลังทำภารกิจที่สุดจะเคร่งเครียด555555
รักการดำเนินเรื่องของไรท์มากๆ เราลุ้นไปด้วย ตื่นเต้นรอติดตามตอนต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ?
Cadeaux (@Cadeaux)
ลุ้นมากกก เหมือนได้ไปทำภารกิจกับเค้าด้วย แอบฟินเวลาที่แดนเนลกับเจย์อยู่ด้วยกันสองคน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ผ่านมาแปดตอนเพิ่งกอดกันไปรอบเดียวค่ะทุกโค้นน รอติดตามนะคะ!
hbrxnct (@hbrxnct)
@Cadeaux นี่ยังดีนะที่เขาได้กอดกันแล้วน่ะ 555555555
Gift N. T. (@giftnt1402)
ตอนหน้าริชาร์ดมาแล้วสินะคะ ตื่นเต้น เราพยายามเดาอยู่ว่าเป็นใครในอซทรึเปล่า แต่ไม่แน่ใจเลย

แดนเนลยังดูมีปมอื่นๆ อีกด้วย คาใจมากแต่ก็ชอบค่ะ ได้รอค้นหาไปพร้อมๆ กับเจย์เดน

ปล. ตอนบรรยายว่าเทย์เลอร์อัธยาศัลดี
คุยกับหลายคนได้ แอบนึกถึงตอนแทยงถามดิสแพทว่ากินข้าวรึยัง ฮ่าๆๆๆ
hbrxnct (@hbrxnct)
@giftnt1402 5555555 เราชอบความเอ็นดูที่ดิสแพทมีให้แทยงมากค่ะ เหมือนโดนแทยงซื้อไปแล้วเลย
nctzen_zen (@nctzen_zen)
จนจะจับริชาร์ดได้แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะชอบกันเลยค่ะ55
hbrxnct (@hbrxnct)
@nctzen_zen ค่อยเป็นค่อยปายยยยย อิ___อิ