เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
wild rabbit #jaedohbrxnct
Chapter 7 : Rabbit becomes a liars





  • บรรดาห้องที่อยู่บนชั้นสองของตึกแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ห้องเซิฟเวอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงห้องที่ผู้เป็นเจ้าของสถานที่ใช้ในการจัดเก็บข้าวของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาของปลอม ของเถื่อนหนีภาษีที่วางขายอยู่บนดาร์กเว็บ และบางทีอาจจะมีไปจนถึงพวกสินค้าผิดกฎหมายอย่างอาวุธหรือยาเสพติดอยู่ด้วย

    เจย์เดนไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้แน่ชัด เขาไม่รู้ว่าที่นี่มีสินค้าอะไรถูกเก็บไว้บ้าง อันที่จริงเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นการจะแยกแยะว่าห้องไหนเป็นห้องที่มีไว้สำหรับทำอะไรด้วยการกวาดสายตามองเพียงรอบเดียวนั้น จึงดูเป็นเรื่องที่ยากพอควรสำหรับเขา เพราะหากพิจารณาด้วยการมองดูจากภายนอกเฉย ๆ แล้ว ประตูที่เรียงรายอยู่ตามกำแพงข้างทางเดินตรงหน้าของเขานี้เรียกได้ว่าแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด

    เจ้าหน้าที่จากเอฟบีไอเหลือบสายตาขึ้นมองด้านบน ปืนประจำตัวที่อยู่ในเสื้อแจ็คเก็ตถูกดึงออกมาถือไว้ในท่าเตรียมพร้อม การเงียบหายไปของแดนเนลเป็นเรื่องผิดปกติที่ไม่ได้อยู่ในแผน ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการปะทะหากมีเหตุจำเป็น เขาไม่ควรวางใจอะไรทั้งสิ้น ดวงตาคมพยายามสอดส่ายมองหาจุดสีแดงของแสงอินฟาเรด[1] จากกล้องวงจรปิดซึ่งอาจซุกซ่อนอยู่ตามมุมของเพดานของตึกนี้อย่างละเอียด ทว่าก็ไม่พบ นั่นจึงทำให้เขาพอจะเดาได้ว่ากล้องวงจรปิดเหล่านั้นอาจเป็นกล้องที่มีความยาวคลื่นสูงจนทำให้มองไม่เห็นแสงเหล่านั้น

    [หากล้องอยู่เหรอ?]

    เสียงของไทรอนดังขึ้นข้างหูเขาอีกครั้ง หลังจากที่เขาเอาแต่หันซ้ายหันขวาบริเวณบันไดอยู่พักใหญ่

    "อืม" เขาส่งเสียงตอบกลับไป "คุณจัดการกล้องได้หรือยัง มันหันไปมุมไหนเยอะที่สุด"

    [จัดการได้แล้ว] อีกฝ่ายเอ่ย [ตรงทางเดิน หกตัวหันหน้าเข้าหานาย สองตัวอยู่ด้านหลัง ตรงบันไดมีอีกสอง เห็นภาพนายตอนกำลังพุ่งขึ้นมาเมื่อกี้ชัดแจ๋ว อ่า...อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่นายอยากได้ยินนะ ตรงเครื่องสแกนหน้าประตูของห้องที่สองกับสามทางซ้ายมือ และห้องที่สี่ทางขวามือของนายนับจากบันไดมีกล้องซ่อนอยู่ด้วยล่ะ คำถามคือนายคิดว่าสามห้องนั้นมีอะไรที่พิเศษกว่าห้องอื่น?]

    ตำแหน่งของกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดินถูกไทรอนเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้น ทว่าจุดประสงค์นั้นไม่ใช่เพื่อหาจุดหลบเลี่ยงให้กับเจย์เดนแต่อย่างใด การกลบเกลื่อนร่องรอยจากกล้องและการให้ความช่วยเหลือด้านระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารเป็นหน้าที่ของไทรอนที่กำลังอยู่ในห้องควบคุมขณะนี้ พวกเขาจึงไม่มีความไม่จำเป็นใดที่จะต้องเสียเวลาไปกับการการหลบหลีกมุมกล้อง ดังนั้นตำแหน่งของกล้องที่ไทรอนบอกมาเมื่อครู่จึงเป็นการชี้เป้าให้กับเจย์เดนเสียมากกว่า เช่นว่าห้องที่สำคัญอย่างห้องเซิฟเวอร์นั้นอาจเป็นหนึ่งในสามห้องดังกล่าว

    "ในห้องมีกล้องวงจรปิดด้วยไหม?"

    [กำลังจัดการอยู่ มันติดรหัสยืนยันอีกชั้น] ไทรอนตอบ [แต่ฉันคิดว่าน่าจะมีกล้องทุกห้องนะ]

    "งั้นคุณจัดการเรื่องกล้องไป ส่วนผมจะเข้าไปเช็คห้องที่คุณบอก"

    [โอเค ระวังตัวด้วย ถ้าได้เรื่องเมื่อไหร่จะแจ้งไป]

    "ได้"

    เจย์เดนรับคำ จากนั้นจึงรีบเดินตรงไปยังหน้าประตูห้องที่ใกล้ที่สุดที่ไทรอนแจ้งตำแหน่งไว้ เขากดรหัสหกตัวที่แดนเนลเคยบอก ไฟจากเครื่องควบคุมการเปิดปิดประตูกระพริบและเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียว ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกและปิดลงแทบในทันที เมื่อเจย์เดนพบว่าอุณหภูมิภายในห้องนั้นเป็นปกติเมื่อเทียบกับด้านนอก[2]

    อุณหภูมิประมาณสิบต้น ๆ นั้นถือเป็นเรื่องปกติของช่วงกลางคืนของฤดูใบผลิ แม้จะไม่หนาวถึงขั้นมีหิมะตกลงมา แต่ก็คงพูดไม่ได้เช่นกันว่ามันอบอุ่นเหมือนตอนกลางวัน

    เจย์เดนรู้ว่าเครื่องเซิฟเวอร์นั้นก็คือคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ให้บริการระบบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ และเพราะว่าการขอใช้บริการสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เครื่องเซิฟเวอร์จึงต้องมีการทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก เพราะถ้าหากมันหยุดตัวเองลงเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าใช้งานระบบได้เลย และเป็นที่แน่นอนว่าเมื่อคอมพิวเตอร์ถูกเปิดใช้งาน สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วยก็คือความร้อน

    อุณหภูมิที่ไม่พอดีนั้นก็ถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นความหนาวเย็นหรือความร้อนสะสมที่มากจนเกินไปก็อาจทำให้เครื่องเซิฟเวอร์หยุดทำงานหรือดับลงอย่างกะทันหันได้ ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ห้องเซิฟเวอร์จะต้องมีคือระบบระบายอากาศที่ดี และจำเป็นต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ไม่สูงหรือต่ำมากจนเกินไป ซึ่งดูเหมือนว่าอุณหภูมิในคืนนี้ก็ดูเหมือนจะต่ำไปสักนิดสำหรับห้องเซิฟเวอร์

    แม้เขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์ แต่เขาก็คลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้มานานหลายปี การที่เขาพอจะมีความรู้เรื่องนี้ประดับตัวอยู่บ้างจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร เจย์เดนมีเพื่อนร่วมงานที่จบมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ แน่นอนว่าโยนาธานที่จบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มาก็คือหนึ่งในนั้น และเพราะเขาไม่เคยปิดกั้นว่าตนจะต้องรู้และเชี่ยวชาญเพียงแค่ด้านกฎหมายเพียงอย่างเดียว นั่นจึงทำให้เขามีการแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา

    เจย์เดนไม่รู้หรอกว่าห้องที่อยู่ตรงหน้าตนเองขณะนี้คือห้องที่มีไว้ทำอะไร แต่เขามั่นใจมากว่ามันไม่ใช่ห้องเซิฟเวอร์อย่างแน่นอน

    [เฮ้ ฉันเปิดกล้องในห้องได้แล้ว] เสียงของไทรอนดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเขากำลังผละออกจากประตูบานแรก [ห้องเซิฟเวอร์อยู่ฝั่งขวาประตูสี่ แต่ไม่เจอแดนเนลเลย หมอนั่นน่าจะหลบมุมกล้องอยู่ หรือไม่เครื่องเซิฟเวอร์ก็บังตัวเขาเสียมิด]

    เจย์เดนรีบพุ่งตรงไปยังประตูบานที่ไทรอนบอกอย่างรวดเร็ว และเมื่อเสียงกดรหัสจากเครื่องควบคุมการเปิดปิดหน้าห้องสิ้นสุดลง อากาศที่อุ่นกว่าเล็กน้อยก็แผ่ขยายออกมาในทันที เจ้าหน้าที่เอฟบีไอผลักประตูเข้าไปด้านในก่อนจะปิดลง อุณหภูมิภายในห้องที่สูงกว่าด้านนอกนั้นเป็นผลพวงมาจากการทำงานของเครื่องเซิฟเวอร์ที่อยู่ในห้อง บรรดาตู้แร็ค[3] ที่สูงท่วมหัวเขาถูกจัดวางเป็นแถว เรียงรายอยู่เต็มห้องอย่างเป็นระเบียบ ภายในตู้เหล่านั้นอัดแน่นไปด้วยเครื่องเซิฟเวอร์นับสิบเครื่องที่วางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จากด้านบนลงด้านล่าง และแสงสีน้ำเงิน สีเขียว ไปจนถึงสีเหลืองที่กำลังกระพริบอยู่ก็บ่งบอกได้ว่ามันกำลังทำงานของมันอยู่อย่างหนัก แสงเหล่านั้นทำให้ภายในห้องสว่างกว่าด้านนอกเยอะ และมันก็ทำให้การมองหาใคร หรืออะไรก็ตามในห้องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเลยสักนิด

    ร่างสูงเดินดูตามตู้แร็คทีละแถวอย่างระมัดระวัง สองเท้าของเขาค่อย ๆ ย่างก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ เจย์เดนผ่านช่วงวัยที่มุทะลุมานานแล้ว ประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านมานั้นสอนให้เขารู้จักระมัดระวังตัวและไม่ควรวางใจอะไรทั้งสิ้น เขาไม่รู้ว่าภายในห้องเซิฟเวอร์นี้จะมีคนอื่นอยู่หรือไม่ และถ้ามีจะมีกี่คน สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ถิ่นของเขา และไม่ใช่ที่ที่เขาจะสามารถตรวจสอบเรื่องที่ว่านั่นได้ในทันที แม้แต่ไทรอนที่ควบคุมกล้องวงจรปิดภายในห้องนี้ยังไม่สามารถหาคำตอบให้เขาได้เลย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำอะไรหุนหันพลันแล่นมากนัก เจย์เดนเตือนสติตัวเองให้ใจเย็นและอย่าประมาทอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าภายในจะแทบคลั่งด้วยความรู้สึกร้อนใจที่เขายังหาตัวแดนเนลไม่เจอเสียทีก็ตาม

    ในหัวของเขาตอนนี้กำลังคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือกรณีที่แดนเนลอยู่ในห้องนี้และถูกศัตรูจับเอาไว้ เจย์เดนรู้ดีว่าเสียงเปิดประตูเมื่อครู่ของเขาคงทำให้ใครก็ตามที่อยู่ในห้องนี้รู้ตัว แต่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยู่ตำแหน่งใด ณ ตอนนี้ ประสาทสัมผัสของเจย์เดนกำลังทำงานเต็มที่ และหากภายในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวแล้วล่ะก็ เขาก็อยากให้คนที่จะหาตัวอีกฝ่ายเจอก่อนเป็นเขา

    ทันใดนั้น ปลายสายตาของร่างสูงก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่มของบางสิ่งบางอย่างบริเวณพื้นห้อง และต้นกำเนิดของมันก็ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังตู้แร็คแถวถัดไปนี้เอง เจย์เดนถือปืนในมือด้วยท่าเตรียมพร้อม แผ่นหลังแนบกับตู้แร็คที่ตนเลือกใช้เป็นจุดกำบัง หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย มันคือความรู้สึกลุ้นระทึกว่าเงาที่เขาเห็นนั้นเป็นเงาของอะไร หรือของใคร

    เจย์เดนสูดลมหายใจก่อนจะหมุนตัวออกจากที่กำบัง ปืนในมือถูกยกขึ้นเล็งเป้าหมาย และมันก็ถูกลดต่ำลงในทันทีเมื่อเขาพบว่าคนที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นนั้นคือแดนเนล ใจหนึ่งเขารู้สึกโล่งอกที่ในที่สุดก็หาอีกฝ่ายพบ ทว่าอีกใจก็รู้สึกเคืองที่อีกฝ่ายไม่ส่งสัญญาณใด ๆ ตอบกลับมาให้เขาและไทรอนรู้เลยว่าปลอดภัยดี ทั้งที่เครื่องส่งสัญญาณนั้นก็ยังคงติดอยู่ที่ข้างหูของเจ้าตัว

    "เจอตัวเขาแล้ว กำลังเดินไปหา"

    เจ้าหน้าที่เอฟบีไอแจ้งความคืบหน้าให้กับเพื่อนร่วมทีมอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ ขณะเดียวกันก็ก้าวเท้าตรงไปหากระต่ายป่าตรงหน้า เงาของเขาค่อย ๆ เคลื่อนเข้าหาร่างผอมโปร่งทีละนิดจนกระทั่งทาบทับโดยสมบูรณ์ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง แสงภายในห้องเซิฟเวอร์นั้นสว่างมากพอที่จะทำให้เขาสังเกตเห็นว่าแดนเนลกำลังเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่น สีหน้าเรียบนิ่ง ปลายนิ้วเรียวภายใต้ถุงมือหนังของเจ้าตัวเองก็กำลังพรมลงไปบนแป้นพิมพ์ของแล็ปท็อปที่วางอยู่บนหน้าขาข้างหนึ่งที่ถูกชันเข่าขึ้น และมันก็มีสายส่งสัญญาณเชื่อมต่อกับเครื่องเซิฟเวอร์เครื่องหนึ่งเสียบคาไว้อยู่

    แม้เจย์เดนนึกอยากจะเอ่ยดุอีกฝ่ายเรื่องไม่ยอมแจ้งสถานการณ์มากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจไม่เอ่ยอะไรออกมาให้เป็นการทำลายสมาธิของคนตรงหน้า

    บนหน้าจอแล็ปท็อปของร่างผอมโปร่งปรากฎเป็นหน้าต่างโปรแกรมสี่เหลี่ยมสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระสีเขียวอ่านไม่ออก เจย์เดนเลิกสนใจสิ่งที่อยู่บนหน้าจอนั้นก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้างอีกฝ่ายในท่าพร้อมลุกขึ้นยืนทุกเมื่อ ขณะเดียวกันก็คอยสำรวจความเป็นไปรอบตัวอย่างระมัดระวัง ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้น มีเพียงเสียงปลายนิ้วแตะลงบนแป้นพิมพ์ของแดนเนลเท่านั้นที่ดังอยู่รอบกายของพวกเขาทั้งสอง





    ในที่สุดเสียงแป้นพิมพ์ก็หยุดลง มือเรียวถอดสายส่งสัญญาณที่เชื่อมต่อกับเครื่องเซิฟเวอร์ออกจากแล็ปท็อปของตน ตามด้วยพับหน้าจอลงอย่างรวดเร็วก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋า ทว่าเพราะความรีบร้อนจึงทำให้แล็ปท็อปหลุดจากมือของแดนเนลลงไปกระแทกกับพื้นห้อง เสียงของหนัก ๆ ที่ร่วงหล่นลงนั้นทำให้เจย์เดนหันมามอง และเขาก็พบว่าคนที่เป็นต้นเสียงดังเมื่อครู่นั้นกำลังชะงักนิ่ง ดวงตากลมของแดนเนลจับจ้องอยู่ที่หลังมือของตนไม่กระพริบ ในตอนนั้นเองที่เจย์เดนสังเกตเห็น ว่ามือของแดนเนล--กำลังสั่น

    "เฮ้" เจย์เดนที่เห็นความผิดปกติของอีกฝ่ายรีบเอ่ยทัก ก่อนจะย่อตัวลงไปช่วยอีกฝ่ายหยิบแล็ปท็อปที่นอนอยู่บนพื้นใส่กระเป๋าเป้ "คุณโอเคไหม?"

    "ขอบคุณ"

    แดนเนลเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ขณะใช้มือข้างที่เป็นปกติรับเป้ที่ถูกรูดซิปปิดเรียบร้อยของตนมาจากอีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ท่าทีสงบนิ่งราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้นทำให้เจย์เดนอดเหลือบมองฝ่ามือต้นปัญหาเมื่อครู่ของคนตรงหน้าซ้ำอีกรอบไม่ได้

    "แต่มือคุณสั่น"

    ใช่...มือข้างขวาของแดนเนลยังคงสั่นอยู่

    "อือ ผมรู้แล้ว" อีกฝ่ายเอ่ยตอบพลางก้มมองดูฝ่ามือของตัวเองแล้วกำหมัดแน่นโดยหวังจะให้มันหยุดสั่นเสียที ทว่าก็ไม่เป็นผล นั่นจึงทำให้เขาเลิกสนใจความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมือของตนเองในที่สุด เขาใช้ปลายนิ้วแตะเข้าที่เครื่องส่งสัญญาณข้างหู ก่อนจะเอ่ยบอกให้ทุกคนรู้ว่าพวกเขากำลังจะออกจากสถานที่แห่งนี้ "อัลฟาเรียกฐาน ภารกิจเสร็จสิ้น กำลังออกไป"

    [ฐานเรียกอัลฟา รออยู่จุดนัดหมาย]

    "รับทราบ" แดนเนลตอบกลับ ก่อนจะเปลี่ยนช่องสัญญาณไปยังอีกช่องหนึ่ง "อัลฟาเรียกทีม รออยู่จุดนัดหมาย"

    [รับทราบ กำลังไป]

    เมื่อสิ้นเสียงของไทรอน ทั้งแดนเนลและเจย์เดนจึงรีบออกจากห้องเซิฟเวอร์ไป ในตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องรักษาไม่ได้มีเพียงแค่สวัสดิภาพของตัวเองเท่านั้น แต่รวมไปถึงข้อมูลของดาร์กเว็บที่อยู่ในแล็ปท็อปบนหลังของแดนเนลอีกด้วย คนทั้งสามกลับมาเจอกันอีกครั้งบริเวณทางแยกตรงบันไดที่เป็นจุดนัดพบกัน

    "นายเงียบหายไป" สิ่งแรกที่ไทรอนทำเมื่อเขาเดินมาถึงคือเอ่ยตำหนิแดนเนลด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง การสื่อสารกันในทีมขณะปฏิบัติภารกิจเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทุกคนในที่นี้รู้ดี ทว่าแดนเนลกลับเพิกเฉยมัน "ทำไมถึงไม่ตอบฉัน"

    "ก็ทำงานอยู่"

    "ทำงานแล้วไม่ได้ยินอะไรเลยเหรอ?"

    "ได้ยิน แต่ทำงานอยู่ไง" อีกฝ่ายตอบ "สุดท้ายฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่"

    "นายนี่มันจริง ๆ เลยนะ" ไทรอนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งให้กับความไม่ยี่หระใด ๆ ของคนตรงหน้า แดนเนลเป็นแบบนี้เสมอ ให้ความสำคัญเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจ ซึ่งถ้าเทียบกันระหว่างการแจ้งสถานการณ์ให้เพื่อนร่วมทีมรับรู้กับงานที่อยู่ตรงหน้าแล้วนั้น เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่าแดนเนลต้องให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่าแน่นอน "ถ้าเปลี่ยนเป็นจอห์นนี่มาร่วมทีมแทนฉัน หมอนั่นคงเลิกสนใจกล้องวงจรปิดแล้วรีบวิ่งออกมาตามหานายแน่ ๆ"

    "งั้นก็โชคดีแล้วล่ะที่เป็นนาย"

    แดนเนลไม่เอ่ยอะไรออกมาอีกหลังจากนั้น การออกจากโรงงานเก่าแห่งนี้ดูจะง่ายกว่าตอนเข้ามาหลายเท่านักในความรู้สึกของเจย์เดน สิ่งที่ต้องทำมีเพียงแค่พยายามเดินเลี่ยงมุมกล้องตามจุดที่ไทรอนบอกเท่านั้น เพราะตอนนี้คงไม่มีใครมาช่วยนั่งลบคลิปจากกล้องวงจรปิดเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยให้ ไม่นานนักพวกเขาก็ปีนรั้วกลับออกมาได้โดยสวัสดิภาพ รถโฟล์คสวาเกน คาราเวลล์ค่อย ๆ เคลื่อนมาจอดเทียบตรงฟุตปาธ ประตูข้างรถเลื่อนเปิดออกในทันที และเมื่อคนทั้งสามขึ้นไปนั่งด้านในเรียบร้อย รถตู้สีดำสนิทคันนั้นจึงเคลื่อนตัวออกไป

    "ฉันได้ไอพีของคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงเซิฟเวอร์มา รวมถึงข้อหาสำหรับขอหมายค้นด้วย" ทันทีที่แดนเนลขึ้นมานั่งประจำที่ เขาก็ถอดหมวกโม่งไหมพรมและถุงมือหนังออก "ในเว็บของพวกมันมีบอร์ดลับสำหรับการซื้อขายของผิดกฎหมายอยู่ คนที่จะเข้าถึงบอร์ดลับนั้นได้จะต้องมีสิทธิ์ที่แอดมินเว็บไซต์เป็นคนมอบให้ และตอนนี้ฉันก็มีไอดีที่มีสิทธิ์ที่ว่านั่น"

    เจ้าตัวเอ่ยขณะหยิบแล็ปท็อปของตนออกมากางออก ทว่าไม่ทันที่จะได้เปิดข้อมูลดังกล่าวให้ทุกคนในที่นี้ได้ดู จอห์นนี่ก็เอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อนเมื่อสังเกตเห็นว่าข้อนิ้วบริเวณหน้ากำปั้นที่ใช้ในการออกหมัดของแดนเนลนั้นมีรอยแดงจาง ๆ เกิดขึ้น

    "มือนายไปโดนอะไรมา?"

    "อุบัติเหตุนิดหน่อย เผลอปัดไปโดนตู้แร็คน่ะ"

    "งั้นเหรอ" จอห์นนี่เอ่ย สายตาของเขาจับจ้องไปยังหลังมือของคนที่กำลังพิมพ์อะไรต่อมิอะไรลงในแล็ปท็อปด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ออกมาในที่สุด "นายนี่นะ...จริง ๆ เลย"

    ไม่มีการซักถามอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องมือของแดนเนลอีก หัวข้อสนทนาของพวกเขาถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นเรื่องงานดังเดิม และนั่นก็ทำให้เจย์เดนรู้สึกคับข้องใจลึก ๆ

    เขาไม่รู้ว่าจอห์นนี่จะรู้เหมือนอย่างที่เขารู้หรือเปล่า ว่ารอยแดงตั้งแต่ข้อโคนนิ้วมือไปจนถึงข้อกลางนิ้วมือแบบนั้นไม่ใช่รอยที่เกิดจากการปัดไปโดนสิ่งของโดยไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งรอยพวกนั้นเกิดแค่กับนิ้วชี้ กลาง และนางเพียงสามนิ้วด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางใช่ เจย์เดนรู้ดีว่าแดนเนลไม่ได้เผลอปัดมือไปโดนตู้แร็คอย่างที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง

    แต่รอยที่หลังมือของอีกฝ่ายนั่นน่ะ มันเป็นรอยที่เกิดจากการชกเข้ากับอะไรสักอย่างต่างหาก





    [tbc.]
    ศัพท์เทคนิคในตอนนี้ in a nutshell
    [1] หลอดอินฟาเรดแบบ LED Array ที่มีความยาวคลื่นขนาด 850นาโนเมตรจะมีแสงอินฟาเรดสีแดงปกติ แต่ถ้าความยาวคลื่นขนาด 940นาโนเมตรจะไม่มีแหล่งกำเนิดแสงสีแดงค่ะ
    [2] อุณหภูมิในห้องเซิฟเวอร์ จะอยู่ที่ 18-20องศาเซลเซียสโดยประมาณ ต่ำกว่าได้นิดหน่อยแต่สูงกว่านี้ไม่น่าจะดีเท่าไหร่ เพราะถ้าเครื่องเซิฟเวอร์ทำงานพร้อมๆกันห้องจะยิ่งร้อนมากๆ และถ้าอากาศร้อนเกินไปเครื่องเซิฟเวอร์ก็จะดับ แน่นอนว่าถ้าอากาศเย็นไปมันก็ดับอีกกกกกกกก และถ้ามันดับ = หายนะ(ของพวกคนดูแลระบบ) ซึ่งถ้าเอาตามความรู้สึกของคนที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิ 27-30องศามาตลอดชีวิตอย่างเราก็คงต้องบอกว่ามันหนาวจนมือชาค่ะ แต่ถ้าสำหรับคนที่อยู่ในอุณหภูมิประมาณ 11-12องศามันก็อุ่นกว่านิดหน่อยแหละ
    [3] ตู้แร็ค เป็นตู้ที่ใช้เก็บเครื่องเซิฟเวอร์ มีหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจุ๋มจิ๋มเก็บได้สองสามเครื่อง ไปจนถึงสูงสองเมตรเก็บได้เป็นสิบเครื่อง หน้าตาประมาณนี้ค่ะ
    ***หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใดก็สามารถบอกเรามาได้เลยนะ เราจะรีบทำการปรับแก้ให้อย่างเร็วที่สุดค่ะ***
    ________________________________________

    เอาแล้ววว มีคนโกหก และมีคนจับโกหกได้ค่ะในตอนนี้
    มือของแดนเนลไปโดนอะไรมากันแน่นะ

    ไว้มาตามหาความจริงกันตอนหน้าค่ะ
    #ฟิควรบจด


    Note : ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน สถานที่ และเหตุการณ์ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาใด ๆ จะทำให้ศิลปินเสื่อมเสียทั้งสิ้น
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
malittlemark (@ppooonnnnnn)
แดนเนลปิดบังอะไรอยู่ ไปทำอะไรมานะ หายไปไม่ติดต่อเพื่อนอยากตีๆ เจ้าดื้อออ
ATitaya Snjak (@fb2204379136466)
ฮือฮออ สนุกมากค่ะ เหมือนดูหนังหรืออ่านหนังสือดีๆเล่มหนึ่งเลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ รออ่านอยู่นะคะ?
Cadeaux (@Cadeaux)
ก็คือลุ้นมากก อ๋อยยย มีลับลมคมในไปหมด ยืนยันคำเดิมว่าเหมือนกำลังดูหนังสืบสวนสอบสวนอยู่จริงๆ บรรยายดีมาก ทำการบ้านดีด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะ!
Gift N. T. (@giftnt1402)
แดนเนลคนมุ่งมั่นและแสนดื้อ ทั้งชอบทั้งเป็นห่วงเลยค่ะ น้องจะเป็นอะไรมั้ย ข้อมูลจะคุ้มกับการลงทุนมั้ย จะมีใครแอบเห็นทีมที่เข้าไปแล้วรึเปล่า ตื่นเต้นแทนเขาไปหมด ฮ่าๆ ไรต์บรรยายฉากที่ซับซ้อนได้เห็นภาพเหมือนทุกครั้งเลย

ต้องฝากเจย์เดนกับเพื่อนๆ ช่วยดูแลแดนเนลละ
momijilovely (@momijilovely)
ดื้อจริงๆเลย
nctzen_zen (@nctzen_zen)
ยัยกระต่ายเธอไปทำอะไรมา!!
hbrxnct (@hbrxnct)
@nctzen_zen นั่นสิ ไปทำอะไรมาาาาาาาาา