ดูเหมือนประโยคที่ว่า
'เวลาแห่งการรอคอยมักจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสมอ' นั้นจะเป็นจริงไม่น้อยสำหรับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่กำลังปฏิบัติภารกิจสะกดรอยริชาร์ดอยู่ในขณะนี้ แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นดูเหมือนจะถูกยืดขยายให้ยาวนานยิ่งขึ้น สถานการณ์ที่สงบนิ่งและความเงียบสงัดของรัตติกาลนั้นทำให้ความตื่นตัวของเหล่าเจ้าหน้าที่ลดต่ำลงจนหลายคนเกิดอาการง่วงหงาวหาวนอน ยิ่งเข้าใกล้ช่วงเวลาย่ำรุ่งมากเท่าไหร่ ความล้าของเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็ยิ่งฉายชัดออกมา
การสะกดรอยใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนัก ไม่ว่าจะเป็นการอดทนรอเพื่อจับตามองหรือจะเป็นการไล่ล่ายามที่เป้าหมายรู้ตัว สำหรับเจย์เดนแล้วมันไม่สนุกเลยสักอย่าง โดยเฉพาะยามที่เขาใกล้จะเข้าถึงตัวเป้าหมายแต่กลับทำหลุดมือไปเสียก่อนนั่นยิ่งไม่สนุก
เจ้าหน้าที่หนุ่มเอนหลังพิงกับเบาะรถอย่างเบื่อหน่าย ขณะเหลือบมองร่างผอมโปร่งข้างกายที่กำลังพรมปลายนิ้วมือลงบนแล็ปท็อปบนตัก เสียงแป้นพิมพ์ที่ถูกกดนั้นส่งเสียงดัง
ต๊อกแต๊กอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ ใบหน้าด้านข้างของเจ้าตัวที่ถูกอาบไล้ด้วยแสงไฟสว่างจากหน้าจอนั้นดูเรียบนิ่ง ดวงตากลมโตยังคงดูเต็มตื่นอยู่ตลอดแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ชวนให้รู้สึกง่วงมากที่สุดก็ตาม
เจย์เดนเลื่อนสายตาต่ำลงไปยังหน้าจอแล็ปท็อปของอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ บนนั้นปรากฎเป็นหน้าต่างสนทนาธรรมดา แดนเนลกำลังรายงานสถานการณ์ให้กับจอห์นนี่ที่ตอนนี้กลับถึงฐานปฏิบัติการชั่วคราวของซีไอเอเรียบร้อยแล้ว ข้อความที่ทั้งคู่โต้ตอบพากันผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ปลายนิ้วมือทั้งสิบของแดนเนลขยับไปมาอย่างรวดเร็วเสียจนเจย์เดนมองตามแทบไม่ทัน ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถสังเกตเห็นได้ชัดนั้นก็คือรอยแดงที่อยู่บริเวณหลังมือของอีกฝ่าย ที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นรอยฟกช้ำสีม่วงอมเขียวนั่น เขารู้ว่ารอยช้ำพวกนั้นจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าของมือทุกที่ครั้งที่มีการขยับ การออกแรงชกเข้ากับอะไรที่มีความแข็งอย่างแรงจนทำให้มือช้ำนั้นเสี่ยงต่อการทำให้กระดูกบริเวณข้อมือร้าว ทว่าแดนเนลกลับยังคงนิ่งเฉยไม่นึกใส่ใจ ราวกับอาการเจ็บเหล่านั้นไม่ได้สำคัญอะไร
ความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยภายในใจของเจย์เดนนั้นคล้ายจะก่อตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะในตอนที่เขาเจอตัวแดนเนลนั้น อีกฝ่ายไม่ได้มีร่องรอยของการต่อสู้หรือท่าทีที่ผิดปกติใด ๆ เลยสักนิด แม้กระทั่งอารมณ์โทสะที่เป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ ของการใช้ความรุนแรงที่ควรจะหลงเหลืออยู่บ้างยังไม่มี
เจย์เดนไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองจะคาดเดาเอาไว้จะผิดพลาด และถ้าหากว่ารอยที่มือของแดนเนลนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะอุบัติเหตุจริง ๆ แล้วล่ะก็ เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นคนที่เก็บอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ความเงียบที่โรยตัวอยู่รอบคนทั้งคู่ถูกทำลายลงเมื่อเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนของเจย์เดนที่วางอยู่ตรงคอนโซลรถดังขึ้น บนหน้าจอปรากฎชื่อคู่หูของผู้เป็นเจ้าของ และนั่นก็ทำให้เจ้าหน้าที่หนุ่มรีบละสายตาออกจากข้อนิ้วของของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะรีบคว้าสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมารับสายในทันที ถ้าจะให้เดาอีกฝ่ายคงโทรเข้ามาแจ้งเรื่องความคืบหน้าของหมายค้นนั่นแหละ
[ฉันร่างหมายค้นเสร็จแล้วนะ] เทย์เลอร์เข้าประเด็นของตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่รอให้เขาได้เอ่ยถามอะไรขึ้นมาก่อน แล้วก็เป็นดังที่เขาคาดเอาไว้ไม่มีผิด [อีกประมาณชั่วโมงนึงฉันจะเอาไปยื่นที่ศาล ทางนายก็เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม]
โดยปกติแล้วศาลเขตลอสแอนเจลีสที่ตั้งอยู่บริเวณย่านดาวน์ทาวน์นั้นจะเปิดให้ทำการตอนเจ็ดโมงครึ่งของทุกวันทำงาน เรื่องเวลาเปิดปิดของศาลเขตนั้นเป็นอะไรที่คนในสายงานด้านกฎหมายอย่างพวกเขารู้กันดีอยู่แล้ว ทว่าเรื่องที่
ซามูเอล ลี ผู้พิพากษาประจำศาลเขตลอสแอนเจลีสมักจะเข้าศาลทุกวันทำงานก่อนศาลเปิดครึ่งชั่วโมงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะรู้ หากไม่ใช่เพราะเทย์เลอร์มักจะสังเกตเห็นอีกฝ่ายเดินเข้าศาลมาในเวลาเจ็ดโมงเช้าทุกครั้งที่เขามีว่าความ ตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นทนายหน้าใหม่จอมตื่นเวที ที่ต้องรีบมาเตรียมความพร้อมก่อนเวลาขึ้นศาลจริงค่อนชั่วโมงแล้วล่ะก็ พวกเขาสองคนก็คงยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มของพวกที่ไม่รู้เรื่องนี้
ท้องฟ้าที่เริ่มสว่างนั้นบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเช้าแล้ว นั่นหมายความว่าเจย์เดนมีเวลาเหลืออยู่อีกหนึ่งชั่วโมงสำหรับการเตรียมตัวบุกจับริชาร์ดที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังที่เขากำลังจับตามอง และเพราะว่าเขาไม่สามารถพาตัวเองไปยังย่านอีสต์ลอสแอนเจลีสได้ในช่วงเวลาเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วเจย์เดนจึงตัดสินใจให้การบุกค้นเซิฟเวอร์ของดาร์กเว็บแห่งนั้นกลายเป็นหน้าที่ของเอฟบีไออีกทีมหนึ่งซึ่งนำทีมโดยโยนาธาน การที่เทย์เลอร์ผู้เป็นคนขอหมายค้นมาให้นั้นจะได้เข้าร่วมด้วยจึงเป็นอะไรที่แน่นอนอยู่แล้ว
"อืม ถ้าทางนายบุกค้นตึกนั้นเมื่อไหร่ก็แจ้งมาด้วยล่ะ"
[จากแค่ช่วยนายเขียนคำขอหมายค้น กลายมาเป็นช่วยนายบุกค้นไปได้ยังไง ฉันล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ]
เสียงถอนหายใจเหนื่อยหน่ายจากเทยเลอร์นั้นทำเอาความตึงเครียดของบทสนทนาลดลงไปได้นิดหน่อย เจย์เดนเอนหลังพิงกับเบาะรถด้วยที่ทีสบาย ๆ ก่อนจะเอ่ยเย้าคนเป็นคู่หู
"ก็นายกำลังเคว้งคว้างอยู่ไม่ใช่รึไง ฉันเลยหาอะไรให้นายทำ จะได้ไม่ต้องอยู่เฉย ๆ"
[นี่ฉันต้องขอบใจนายอย่างนั้นสินะ ให้ตายเถอะ] เทย์เลอร์สบถ [แล้วนี่ตอนบุกค้นจะมีเจ้าหน้าที่จากซีไอเอเข้ามาร่วมด้วยใช่ไหม?]
"ใช่" เจย์เดนตอบ "เขาชื่อไทรอน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ รวมถึงเป็นคนนำพวกนายไปยังห้องเซิฟเวอร์ด้วย เขาจะไปกับผู้ประสานงานจากทางนั้นอีกหนึ่งคน"
[โอเค ฉันจะจำชื่อไว้]
"ขอบใจมากที่ช่วยเป็นธุระให้"
เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยกับคู่หูของตน เจย์เดนคิดมาตลอดว่าการมีคู่หูที่พึ่งพาได้นั้นถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิตการทำงานของเขา และเทย์เลอร์ก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดในเรื่องนี้เลยสักครั้ง
[เบียร์สักสองขวดเป็นไง]
"ให้สามเลย"
[ดีล!]
บทสนทนาจบลงเมื่อการตกลงแลกเปลี่ยนของคนทั้งคู่เสร็จสิ้น สำหรับเจย์เดนแล้ว เบียร์สามขวดแลกกับการช่วยเหลือที่อีกฝ่ายมีให้นั้นไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลยสักนิด เขากดวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะพบว่าในตอนนี้แดนเนลเองก็หยุดมือที่พิมพ์ข้อความติดต่อกับจอห์นนี่แล้วด้วยเช่นกัน และดวงตากลมของกระต่ายป่านั้นก็กำลังจับจ้องมายังเขา
"เรื่องหมายค้นเป็นไงบ้าง?"
"อีกหนึ่งชั่วโมงมันจะถูกนำไปยื่นที่ศาล"
"ไม่ใช่ว่าศาลเปิดตอนเจ็ดโมงครึ่งหรอกเหรอ?"
คำตอบของเขาทำเอาแดนเนลเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจเมื่อเจ้าตัวเหลือบมองเวลาตรงคอนโซลรถแล้วพบว่าตอนนี้ยังไม่หกโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ เวลาเปิดปิดของศาลสูงในแต่ละเขตนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วศาลเขตที่มีอัตราการรับพิจารณาคดีเป็นปกตินั้นจะเปิดตอนแปดโมงครึ่ง ทว่าในบางเขตที่มีอัตราการรับพิจารณาคดีที่สูงกว่าเขตอื่นนั้นอาจเปิดตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง เช่นศาลเขตลอสแอนเจลีสที่อยู่ในย่านดาวน์ทาวน์เป็นต้น และนั่นก็ทำให้เจย์เดนนึกขันในท่าทีของอีกฝ่าย ทว่าเขาก็ไม่กล้าปล่อยให้เสียงหัวเราะของตนหลุดออกมาเพราะกลัวจะเป็นการเสียมารยาท เขารู้ดีว่าตัวเองและแดนเนลนั้นยังไม่สนิทกันถึงขั้นที่จะหยอกล้อหรือหัวเราะใส่กันได้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเผลอหลุดท่าทีตลก ๆ ออกมาในยามเผลอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจปกปิดรอยยิ้มจาง ๆ ตรงมุมปากยามที่อธิบายอีกฝ่ายต่อได้อยู่ดี
"ผู้พิพากษาของศาลเขตนั้นมักจะเข้าศาลตอนเจ็ดโมงเช้าน่ะ"
"อ้อ งั้นหรอกเหรอ" อีกฝ่ายเอ่ย ท่าทีประหลาดใจเมื่อครู่มลายหายไปอย่างรวดเร็ว "ผมคิดว่าคุณมีอำนาจทำให้ศาลเปิดตอนเจ็ดโมงได้เสียอีก ขนาดประธานาธิบดียังสั่งให้ศาลเปิดตามใจฉันไม่ได้เลยนะ ตกใจหมดเลยตอนที่คิดว่าตัวเองกำลังอยู่กับคนที่ตำแหน่งสูงกว่าประธานาธิบดีน่ะ"
ครั้งนี้เจย์เดนหลุดหัวเราะออกมาอย่างปิดบังเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อได้ยิน ก็สีหน้าของอีกฝ่ายในยามนี้น่ะดูโล่งใจมากจนทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดออกมานั้นไม่ใช่การปล่อยมุกตลกแก้เก้อ แต่อีกฝ่ายกำลังคิดอย่างนั้นจริง ๆ
"ถ้าผมตำแหน่งสูงกว่าประธานาธิบดีก็คงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก โน่น ไปนั่งที่ทำเนียบขาวโน่น"
"ก็จริงของคุณ คงเป็นเพราะเริ่มเช้าแล้วเลยเบลอ ๆ" แดนเนลยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเอง "สมองคิดอะไรไม่ค่อยทันน่ะ"
"ผมเข้าใจ คุณอยากพักสักงีบก่อนไหมล่ะ เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาบุกจับแล้วผมค่อยปลุก"
"ไม่เป็นไรดีกว่า ผมกำลังดักจับเครือข่าย
[2] ของเขาอยู่ มีแพ็คเกจ
[1] วิ่งผ่านตลอดเวลาเลย"
"ที่เขาออนไลน์อยู่ก็เพราะยังได้ข้อมูลไม่ครบใช่ไหม?"
"ก็คงอย่างนั้น ข้อมูลที่ถูกฝากไว้บนเซิฟเวอร์นั่นน่ะมีขนาดใหญ่มาก ผมคิดว่าเขาคงไม่ดึงมันไปทีเดียวจนหมดหรอก ถ้าทำอย่างนั้นเซิฟเวอร์จะหน่วง
[3] เอาได้ สู้ทยอยเข้ามาดึงข้อมูลไปทีละส่วนจะน่าสงสัยน้อยกว่า"
"ใครจะสงสัยเขา ผู้ดูแลระบบของดาร์กเว็บนั่นน่ะเหรอ? คุณกำลังจะบอกผมว่าเขากับอะไรกับเซิฟเวอร์ที่เราไปบุกมาเมื่อคืนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันงั้นเหรอ?"
"เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ไอ้ที่ว่าจะถูกสงสัยเอาได้น่ะผมหมายถึงพวกแฮกเกอร์คนอื่น ๆ ต่างหาก" แดนเนลอธิบาย "ริชาร์ดน่ะถือเป็นเซียนแฮกเกอร์ ขนาดเทียบกับคนอื่นในอันโนวเขายังติดโผสิบอันดับแรก หกปีมานี้ไม่ได้มีแค่พวกเราเท่านั้นที่ตามหาเขา แต่พวกแฮกเกอร์จากอันโนวเองก็ด้วย อันที่จริงผมรู้ว่าเขายังวนเวียนอยู่ในนั้นน่ะแหละ ใช้ตัวตนอื่นที่ไม่ใช่ริชาร์ดมาบังหน้า เรื่องถนัดของเขาเลยล่ะ ขนาดผมว่าผมก็เป็นพวกระมัดระวังตัวสูงพอสมควรแล้วนะ แต่เขาน่ะยิ่งกว่าผมเยอะ"
ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมซีไอเอถึงได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับความปลอดภัยของเจ้าตัวมากขนาดนั้น ทว่าคำพูดเมื่อครู่ของแดนเนลก็ทำให้เจย์เดนตระหนักได้ในทันที การมีตัวตนอยู่ของริชาร์ดนั้นทำให้ความปลอดภัยและมั่นคงของประเทศต้องสั่นคลอน และแดนเนลเป็นเพียงคนเดียวที่เคยใกล้ชิด รวมถึงรู้จักตัวตนของริชาร์ดดีที่สุด ซึ่งการที่มีแดนเนลอยู่ฝั่งเดียวกันนั้นทำให้ทางการไม่ต้องเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์
ในยามนี้ เจย์เดนเริ่มเห็นความสำคัญของคนตรงหน้าชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
การรอคอยอย่างอดทนของเจย์เดนสิ้นสุดลงเมื่อโยนาธานโทรเข้ามาบอกเขาว่าตอนนี้ได้หมายค้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะทำการบุกค้นตึกของโรงงานเก่าซึ่งเป็นตึกเดียวกันกับที่เขาลักลอบบุกรุกไปเมื่อคืน เจย์เดนรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่เฝ้าสะกดรอยอยู่ให้เตรียมพร้อมและรอรับคำสั่งบุกจากเขาที่เป็นหัวหน้าทีมในครั้งนี้ แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าที่สาดลงมาทำให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอในเสื้อกันกระสุนที่ทยอยลงจากรถทีละคนนั้นดูโดดเด่นขึ้นมาทันใด
การเคลื่อนกำลังของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ทุกคนก็กระจายไปประจำอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ทั้งประตูหน้าและประตูหลังของบ้านหลังนั้น
เจย์เดนปล่อยให้การเคาะประตูเป็นของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เอฟบีไอ เปิดประตู"
ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบสงบ และนั่นก็ทำให้เจย์เดนตัดสินใจสั่งบุกในทันที
เสียงถีบลูกบิดประตูดัง
ตึงตังซ้ำอยู่สองสามครั้ง ก่อนที่มันจะพังจนทำให้ประตูที่ปิดอยู่เปิดผางออก รองเท้าคอมแบทเปื้อนฝุ่นและโคลนแห้งกรังนับสิบคู่พากันเหยียบย่ำไปบนพื้นบ้านและพรมโดยไม่มีใครนึกเห็นใจว่าคนที่ดูแลความสะอาดของบ้านหลังนี้จะรู้สึกอย่างไรบ้างหากได้มาเห็นความสกปรกที่พวกเขาก่อไว้ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดสนใจว่าสภาพภายในบ้านจะสะอาดเรียบร้อยขนาดไหน
ห้องนั่งเล่นถูกตรวจค้นอย่างรวดเร็วและพบเพียงความว่างเปล่า แดนเนลที่เดินตามเจย์เดนมาติด ๆ เผลอขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนจะทำการบุกเขายังดักจับเครือข่ายที่เข้าออกจากบ้านหลังนี้ได้อยู่เลย นั่นหมายความว่าที่นี่จะต้องมีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่อย่างแน่นอน ขอแค่เขาหาคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวนั่นได้ เขาก็จะเจอกับเจ้าของ
"ผมคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในห้องนอนนะ"
แดนเนลเอ่ยกับเจย์เดนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก จากประสบการณ์ตรงของเขา บ้านหลังหนึ่งจะมีห้องอยู่ไม่กี่ห้องที่เหมาะแก่การหมกตัวทำอะไรสักอย่างที่ต้องใช้สมาธิ และคำตอบที่เป็นอันดับหนึ่งในใจเขาตลอดมาก็คือห้องนอนส่วนตัว
"ผมไปด้วย"
อีกฝ่ายตอบกลับมาก่อนจะเดินนำเขาผ่านเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ไปยังด้านในของตัวบ้าน กระทั่งพวกเขาทั้งสองคนมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง เสียงเพลงที่ดังลอดออกมานั้นทำให้แดนเนลขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเก่า เจ้าหน้าที่จากซีไอเอคล้ายอยากพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะเงียบ และปล่อยให้การเปิดประตูเป็นหน้าที่ของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
"เปิดเพลงดังขนาดนี้ก็สมแล้วล่ะที่จะไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู" เจย์เดนเอ่ย ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูแล้วลองหมุนดู "ประตูไม่ได้ล็อค"
"หึ" และนั่นก็ทำให้แดนเนลหลุดยิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเองออกมา "ไม่ใช่เขาหรอก"
"คุณหมายความว่ายังไง?"
"ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในห้องนี้ตอนนี้น่ะ
ไม่ใช่ริชาร์ดหรอก"
[tbc.]
ศัพท์เทคนิคในตอนนี้ in a nutshell
[1] Package ในที่นี้คือชิ้นส่วนเล็กๆของข้อมูล อย่างเวลาเราส่งรูปภาพหนึ่งไปให้เพื่อนผ่านอินเตอร์เน็ต รูปภาพนั้นก็จะถูกแบ่งออกเป็นแพ็คเกจเล็กๆนับร้อยนับพันแพ็คเกจ แล้วมันก็จะถูกส่งไปให้ปลายทางทีละอันๆ(หรืออาจจะหลายๆอันพร้อมกัน แล้วแต่ความสามารถของอินเตอร์เน็ต) แล้วพอปลายทางได้รับแพ็คเกจครบปุ้บ ก็จะเอาแพ็คเกจพวกนั้นมารวมกันเป็นรูปๆเดิม ส่งรูปสำเร็จ จบปิ๊ง!
[2] sniffer คือการดักจับข้อมูลบนเครือข่าย ซึ่งก็คือการดักแพ็คเกจที่ถูกส่งผ่านอินเตอร์เน็ตนี่แหละค่ะ แล้วแพ็คเกจที่ดักมาได้เนี่ยก็ต้องนำมาวิเคราะห์ต่ออีกทอดหนึ่งว่ามันคืออะไรกันแน่ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ด้วยตาเปล่าว่าแพ็คเกจแต่ละอันที่ได้มา มันคือชิ้นส่วนของรูป ของไฟล์ข้อมูล หรือของอะไรจนกว่าจะเอามาวิเคราะห์
[3] เซิฟเวอร์หน่วง คือการที่เซิฟเวอร์ทำงานช้ากว่าปกติ ไอคอนดาวน์โหลดหมุนแล้วหมุนอีกทั้งที่เน็ตเราก็ปกติดี แต่ยังไม่ล่มนะ แค่ช้าเฉยๆ แบบว่าให้คนเข้าเว็บฝึกความอดทน ได้สัมผัสชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์อะไรทำนองนั้นน่ะ
***หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใดก็สามารถบอกเรามาได้เลยนะ เราจะรีบทำการปรับแก้ให้อย่างเร็วที่สุดค่ะ***
________________________________________
ลีซูมาน - ซามูเอล ลี
แวะมาอัพก่อนเพราะวันเสาร์อาทิตย์นี้คงไม่ว่าง ฮือๆๆ
เราพรูฟไปแค่รอบเดียว ถ้าเจอคำผิดหรือการเรียงประโยคแปลกๆ
ก็สามารถทักท้วงมาได้นะคะ เราจะมาแก้ให้ภายหลังค่ะ
ไว้มารอดูกันว่าในห้องนั่นน่ะ
จะใช่ริชาร์ดหรือเปล่ากันตอนหน้านะคะ
#ฟิควรบจด
how to comment ใน minimore
Note : ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน สถานที่ และเหตุการณ์ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาใด ๆ จะทำให้ศิลปินเสื่อมเสียทั้งสิ้น
สถานการณ์ในฟิคคือตึงเครียด แต่เราดีใจที่เจย์เดนกับแดนเนลมีเรื่องให้ยิ้มให้หัวเราะด้วยกันนะคะ ฮือ ค่อยๆ รู้จักกันไป เดี๋ยวพอสนิทกันนี่รอดูเจย์เดนหยอกแดนเนลเลยค่ะ เราอ่านไปก็เอ็นดูความกระต่ายไปด้วยตลอด
ส่วนตัวสงสัยว่าแดนเนลไปทำลายแผงวงจรหรือระบบควบคุมอะไรรึเปล่าเลยบาดเจ็บ หรือมีประตูลับ ตู้ลับ ชอบเดาไปเรื่อยค่ะ ฮ่าๆๆ ลุ้นกันต่อไปว่าแดนเนลเจออะไรมา ไหนจะริชาร์ดกับคนที่อยู่ในห้องนอน ใครจะมารับบทนี้น้า~