เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Flufftober 2017ZYRUS
Day 20 - Graduation
  • ***Note : ไทม์ไลน์เรื่องนี้ตรงกับ Photography แต่เล่าจากคนละมุมมอง


    Sakurai Sho/Matsumoto Jun


    ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมีช่วงเวลาประทับใจมากมายนับไม่ถ้วน แต่หากจะให้เลือกได้เพียงหนึ่ง มัตสึโม-โตะ จุนจะเลือกวันรับปริญญา แม้ว่าตอนนี้เขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สาม ยังไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนั้นโดยตรงก็ตามที


    ทว่าการได้เป็นตากล้องให้กับพี่บัณฑิตตั้งแต่ปีหนึ่งก็ทำให้เขาได้สัมผัสความประทับใจมากพอ


    คงมีไม่กี่เหตุการณ์ในชีวิตที่จะได้สัมผัสมันเพียงครั้งเดียว ถึงจะมีโอกาสหลายครั้งให้หลัง ก็ไม่ได้ความรู้สึกแบบเดียวกับครั้งแรก


    เด็กหนุ่มคล้องกล้องตัวโตกับคอ เดินตามหลังพี่บัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ผิวเข้มร่างเล็กที่ตนอาสามาบันทึกภาพวันสำคัญให้เป็นเงาตามตัว สั่งให้รุ่นพี่หยุดตรงนั้นตรงนี้เมื่อเห็นว่าแสงและองค์ประกอบสวยถูกใจ บางทีก็หัวเราะหลังได้ยินตากล้องจำเป็นคนอื่นๆใจตรงกันจนออกเสียงสั่งบัณฑิตของตนออกมาพร้อมเพรียงกลายเป็นประสานเสียงโดยไม่ได้นัดหมาย


    “จุนจัง ฉันเหนื่อย”


    หลังเดินถ่ายรูปไม่หยุดพักตั้งแต่รุ่นพี่เสร็จพิธีจากหอประชุมมหาวิทยาลัย อยู่ๆฝ่ายนั้นก็เข้ามากอดแขนออดอ้อน ซบหน้ากับต้นแขนของเขา เจ้าของชื่อก้มลงมองคนเป็นบัณฑิตอย่างฉงน ก่อนจะเข้าใจและยิ้มขันเมื่อเห็นบรรดารุ่นน้องสาวๆมองมายังพวกเขาสองคนเป็นตาเดียว


    “แกล้งน้องอีกแล้วนะโอโนะคุง” จุนว่ากลั้วหัวเราะ ผลักศีรษะรุ่นพี่เบาๆ ขณะโอโนะ ซาโตชิแกล้งทำกระเง้ากระงอด กอดแขนแน่นกว่าเดิม


    “ไม่ได้ๆ ฉันไม่ยอมให้สาวไหนยุ่งกับจุนจังเด็ดขาด ฉันจะให้....” โอโนะพูดอย่างเคร่งขรึม ชูกำปั้นขึ้นหมายมาดก่อนชะงัก คลายมือตบปากตัวเองแรงๆ


    “จะให้...อะไรหรอ” รุ่นน้องเลิกคิ้ว ซึ่งพี่บัณฑิตส่ายหน้าหวือ ปากบอกไม่มีอะไรที่ดูอย่างไรก็มีพิรุธ


    “ไปซื้อน้ำแล้วนั่งพักหน่อยดีกว่านะ ฉันเมื่อยสุดๆไปเลย” ไม่ว่าเปล่า ดันหลังเขาให้เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านสะดวกซื้อด้านหน้าคณะเศรษฐศาสตร์  


    ได้น้ำเย็นมาจิบคลายร้อน โอโนะก็เริ่มกลับมาคึก เดินถ่ายรูปกับเพื่อนบัณฑิตและรุ่นน้องแถวนั้นประสาเด็กกิจกรรมที่จะรู้จักคนเยอะ


    เดินไปเรื่อยๆจนมาถึงโต๊ะม้าหินใต้ร่มไม้ที่มีบัณฑิตหนุ่มคนหนึ่งนั่งพักอยู่ ฝ่ายนั้นลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นโอโนะ จุนชะงัก ในขณะที่รุ่นพี่ข้างตัวปราดเข้าไปหาเพื่อนต่างคณะที่สนิทสนมกันจากทำงานในสโมสรนักศึกษา


    “ไงมึง!” บัณฑิตศิลปกรรมศาสตร์ร้องทักดังลั่น โผเข้ากอดแนบแน่นจนอีกคนถึงกับเซ ก่อนจะยิ้มยกแขนขึ้นกอดตอบและตบหลังเบาๆ


    ภาพแสนสุขตรงหน้าและฉากหลังเป็นต้นไม้ใหญ่ มีแสงแดดยามบ่ายส่องลอดช่องว่างระหว่างใบไม้ตกกระทบกับพื้น สวยงามจนอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นบันทึกไว้


    เสียงชัตเตอร์เรียกซากุไร โชผินมองมาทางเขา ดวงตาคมปลาบเหมือนพลอยสีดำดูน่าเกรงขามสมกับเป็นอดีตประธานสโมสรนักศึกษา ทำให้จุนรีบลดกล้องลง ละลำละลักอธิบาย


    “ขอโทษครับ พอดีผมเห็นพวกพี่กอดกันแล้วแสงสวยพอดีเลยถ่ายเก็บไว้”


    บัณฑิตคณะเศรษฐศาสตร์ไม่ตอบคำหรือตอบสนองอะไร นัยน์ตาคมใหญ่ทำเพียงจ้องเขาอยู่อย่างนั้นจนไม่อาจสู้สายตาไหว ก้มหน้าลงต่ำ มือพลิกกล้องถ่ายรูปไปมาอย่างประหม่า


    “โชคุงไม่ได้จะว่าอะไรหรอก เห็นดูดุๆแบบนี้แต่ใจดีนะ ทำงานสโมฯด้วยกันก็รู้นี่ จุนจังอย่าคิดมากเลย” โอโนะปลอบ มือตบบ่าเบาๆ จุนเงยหน้าขึ้นยิ้มแห้งให้รุ่นพี่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ้าปากเหวอในทันทีเมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยต่อ


    “จุนจังอยู่กับโชคุงแปบนึงนะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำซะหน่อย อั้นมาตั้งแต่อยู่ในหอประชุมแล้ว ใกล้ราดเต็มที” ว่าพลางยกมือขึ้นกุมเป้า บิดตัวไปมาอย่างทรมาน วิ่งสุดฝีเท้าไปทางห้องน้ำ


    ทิ้งให้เขายืนอยู่กับอดีตประธานสโมสรนักศึกษาตามลำพัง


    แม้จะเริ่มช่วยงานในสโมสรนักศึกษามาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้มีตำแหน่งเป็นรองประธานฯ แต่เขาก็ไม่ได้ทำงานกับ ‘ซากุไรซัง’ บ่อยนัก ลำพังตำแหน่งเขาก็เกรงใจอีกฝ่ายมากอยู่แล้ว ซ้ำรุ่นพี่คนนี้ยังมีภาพลักษณ์ที่ดูดุ ท่าทางมีอำนาจน่าเกรงขามสมกับที่เป็นบุตรชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง


    ดังนั้นสิ่งที่เด็กหนุ่มทำคือยืนพลิกกล้องในมือไปมา สะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา


    “พูดอะไรบ้างเถอะไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่กัดหรอก”


    “ผมไม่อยากทำให้ซากุไรซังรำคาญ” เขาตอบเสียงแผ่ว รวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายเพื่อรักษามารยาทในการสนทนา แต่วงตาคมดำนั้นก็ทำให้เขายอมแพ้ หลุบตาลงมองมือตนเองเหมือนเดิม


    สะดุ้งอีกครั้ง...เมื่ออยู่ๆเสียงเดิมพูดขึ้นอีกครั้งว่า


    “ถ่ายรูปหน่อยสิ”


    จุนกะพริบตาปริบอย่างฉงน กระนั้นมือขยับกระชับกล้องเตรียมพร้อมพลางตอบรับ


    “ได้ครับ”


    เห็นรุ่นพี่คนดังส่ายหน้ายิ้มๆก็เลิกคิ้วขึ้นสูง


    “ไม่...” ฝ่ายนั้นปฏิเสธ หยิบกล้องจากกระเป๋าใบหนึ่งท่ามกลางข้าวของมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะม้าหิน “ฉันหมายถึงฉันจะถ่ายรูปนาย ไปยืนตรงเสาหน่อยสิ”


    “แต่...วันนี้มันวันรับปริญญาของซากุไรซัง” เขาค้าน รู้ดีว่าตอนนี้ตาคงเบิกค้างอย่างน่าตลก ซึ่งฝ่ายรุ่นพี่ได้ฟังเช่นนั้นก็แย้มยิ้มบางแต้มใบหน้าคมดุดูอ่อนโยน


    จุนไม่อยากยอมรับว่ารอยยิ้มนั้นเร่งจังหวะหัวใจของเขาอย่างร้ายกาจ


    “ไม่มีกฎที่ไหนห้ามบัณฑิตถ่ายรูปช่างภาพในวันรับปริญญาของตัวเองนี่”


    เด็กหนุ่มชะงัก...สุดท้ายพยักหน้าจำยอม กระชับกล้องประจำตัวในมือแล้วถอยไปยืนพิงเสาแต่โดยดี ขัดเขินไม่น้อยที่ต้องมายืนอยู่หน้ากล้องแบบนี้ด้วยปกติเขาจะเป็นอยู่หลังกล้องเสียส่วนใหญ่


    ครั้งสุดท้ายที่มีประสบการณ์ทำนองนี้...รู้สึกจะตอนประกวดดาวเดือนสมัยเป็นเฟรชชี่เห็นจะได้


    “ยิ้มนะ หนึ่ง...สอง....สาม”


    ยิ้มแย้มตามคำสั่งจากหลังกล้อง ขยับเปลี่ยนท่าไปเรื่อยตามใจคนถ่ายรูป ระหว่างนั้นก็ลอบมองพี่บัณฑิตผู้ดูจะเชี่ยวชาญเรื่องถ่ายภาพกว่าที่คาดไว้


    ซากุไร โชในยามปกติก็เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาและท่าทางดีอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในชุดพิธีการเช่นนี้ก็เหมือนจะยิ่งดูสง่างามมากขึ้นไปอีก เขาจึงไม่แปลกใจหากตลอดทางที่เดินตามพี่บัณฑิตของตนจะได้ยินรุ่นน้องผู้หญิงหลายคนตั้งใจไปแสดงความยินดีและถ่ายรูปคู่กับ ‘รุ่นพี่ซากุไร’ เป็นที่ระลึก


    หากแต่...เวลานี้ผู้ชายที่ใครต่อใครอยากมีภาพคู่ด้วยกำลังถ่ายรูปเขาอยู่อย่างตั้งใจ


    นึกได้เช่นนั้นก็เหมือนแก้มเห่อร้อนขึ้นมา


    โอโนะ ซาโตชิ กลับมาตอนอดีตประธานสโมสรนักศึกษากดชัตเตอร์บันทึกภาพเขาจนพอใจ จนจุนอดคิดไม่ได้ว่ารุ่นพี่ของตนตั้งใจมาให้ได้จังหวะนี้หรือเปล่า แต่ก็ปัดมันออกไป...เพราะนึกไม่ออกว่าโอโนะจะทำแบบนั้นเพื่ออะไร


    บัณฑิตทั้งสองถ่ายรูปคู่ ก่อนจะแยกกัน เด็กหนุ่มเดินตามเป็นเงาลั่นชัตเตอร์ให้พี่บัณฑิตของตนไปเรื่อยๆจนเดินวนรอบมหาวิทยาลัยกลับมายังหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์อีกรอบ  โอโนะก็หันมาบอกเขา


    “ฉันจะพักเท้าหน่อยนึง รองเท้ากัดระบมไปหมด จุนจังก็พักหน่อยนะ ไปหาพี่บัณฑิตที่อยากไปหาก็ได้”


    “ผมไปหาวันซ้อมหมดแล้วครับ วันจริงนี้ให้โอโนะคุงคนเดียวเลย” คนน้องยิ้มปะเหลาะเอาใจ ได้รับคำขอบคุณเป็นมือหยาบกร้านเอื้อมมาขยี้จนผมยุ่งไม่เป็นทรง


    “ปากหวานจริงๆ ไปเดินเล่นก่อนเถอะ ฉันนั่งเป็นเป้านิ่งตรงนี้แหละ เหนื่อย” โอดพลางทำลิ้นห้อยประกอบ จุนหัวเราะเบาๆก่อนจะยอมเดินแยกออกไป


    จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ไปไม่กี่ก้าวก็ถึงบริเวณที่ขายของขวัญสำหรับแสดงความยินดีแก่บัณฑิตใหม่เด็กหนุ่มชะลอก้าวลงเดินดูเรื่อยๆ สะดุดตากับตุ๊กตาก้อนฝุ่นจากการ์ตูนเรื่องโตโตโระ นึกถึงบัณฑิตคนหนึ่งที่เขายังไม่ได้เข้าไปแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการขึ้นมา


    ความจริงไม่ต้องให้ของก็ได้...แต่ให้หน่อยก็ดี ยังไงก็รุ่นพี่ในสโมฯ


    ให้...หรือไม่ให้ดี จุนลังเล


    รู้สึกตัวอีกทีก็จ่ายเงินแล้วอุ้มตุ๊กตาก้อนขนตัวกลมกับดอกไม้ช่อเล็กๆในอ้อมแขน เดินย้อนกลับไปทางคณะเศรษฐศาสตร์ ทว่าเดินไปไม่ถึงครึ่งทางก็เจอคนที่กำลังจะไปหาอยู่ในวงล้อมของรุ่นน้องพอดี


    คนเยอะขนาดนี้จะเข้าไปยังไงกัน...


    ระหว่างกำลังยืนละล้าละลังกับตุ๊กตาในดอกไม้ในอ้อมแขน เสียงแหบๆคุ้นหูก็ทักขึ้นพอดี


    “อ้าวจุน...มาหาโชจังหรอ เข้ามาเลยๆท่านรองประธานสโมฯ” มือเรียวยาวของไอบะ มาซากิ เพื่อนต่างคณะเอื้อมฝ่าฝูงชนย่อมๆมาคว้าต้นแขนเขาเข้าไปยืนงงข้างๆบัณฑิตขวัญใจประชาชน


    “ใครให้ของหรือว่าถ่ายรูปกับพี่โชแล้วช่วยถอยออกไปหน่อยนะครับ คนอื่นๆจะได้เข้ามาได้” อิคุตะ โทมะ ที่คงเป็นตากล้องประจำตัวบัณฑิตอีกคนตะโกนบอก ฟังจากเสียงแหบแห้งนั่นแล้ว คงทำแบบนี้มาตลอดทั้งวัน


    สภาพเหน็ดเหนื่อยของหนุ่มหล่อถือกล้องคงเรียกคะแนนสงสารจากสาวๆไม่น้อย กลุ่มคนที่รุมล้อมในตอนแรกเริ่มแยกย้าย จนเหลือแค่พวกเขา


    “เหนื่อยกว่าตามบัณฑิตก็มาเป็นบอดีการ์ดนี่แหละวุ้ย” โทมะบ่นโดยมีมาซากิพยักหน้าอ่อนแรงเห็นพ้อง ส่วนจุนก็ยิ้มๆ รู้สึกโชคดีที่โอโนะคุงของเขาไม่ได้เป็นขวัญใจประชาชนขนาดนี้


    สายตาจากคนข้างตัวมองมาทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัวว่าตั้งใจจะมาทำอะไร จุนยื่นดอกไม้กับตุ๊กตาให้บัณฑิตคณะเศรษฐศาสตร์ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นจากความตื่นเต้น


    “ยินดีด้วยนะครับซากุไรซัง”


    “ขอบคุณมากนะ นึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้แล้ว” ดวงตาคมสีนิลหรี่ลงครึ่งหนึ่งพร้อมมุมปากยกยิ้ม ทำคนเป็นรุ่นน้องรู้สึกสั่นไหวพิกลในอก


    “ผมเห็นว่าไม่ได้สนิทกับซากุไรซัง ตอนแรกเลยไม่กล้า” จุนยกนิ้วขึ้นเกาแก้มร้อนผ่าว สองตาหลุบมองกล้องคู่กาย


    “มาเถอะ...อยากเจอ” ประโยคเอ่ยเนิบๆเรียกวงตากลมโตค่อยช้อนขึ้นมองคนพูด ประสานกับนัยน์ตาคมที่มองมาพอดี


    เด็กหนุ่มชะงัก ยิ่งบิดมือตัวเองไปมาหลังได้ยินเสียงรัวชัตเตอร์ไม่หยุดประสานกับเสียงหัวเราะคิกคักจากตากล้องทั้งสองคน


    “ฟินเลยดิพี่ จุนโหมดสาวน้อยการ์ตูนโชโจหายากมากนะ” โทมะยิ้มกรุ้มกริ่ม ยกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้า “เอ้า...ชิดๆกันหน่อยครับถ่ายรูปกับบัณฑิตหน่อย”


    จุนขยับเข้าไปใกล้รุ่นพี่ตามคำสั่ง


    “ชิดอีกๆ...เอางี้ โชจังโอบจุนจังเลยดีกว่า” มาซากิตะโกนบอก ทำคนที่จะถูกโอบชะงัก ก่อนต้องสะดุ้งตัวเกร็งเมื่อแขนแข็งแรงยกขึ้นโอบเอวรั้งร่างตนแนบตัว ไออุ่นจากตัวบัณฑิตคณะเศรษฐศาสตร์แผ่ขึ้นมาถึงแก้มสองข้าง เสียงหัวใจอื้ออึงในหูจนแทบไม่ได้ยินเสียงรอบกาย


    นี่มัน...อะไรกัน

     



    กว่าจุนจะเสร็จภารกิจประจำวันก็พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตามด้วยไปกินเลี้ยงสังสรรค์ต่อแล้วกลับถึงห้องพักพร้อมกับเพื่อนสนิท เข็มนาฬิกาบนผนังห้องก็บอกเวลาใกล้วันใหม่


    นิโนะมิยะ คาซึนาริที่บ่นว่าง่วงนักหนาตอนนั่งแท็กซี่มาด้วยกันตาสว่างทันทีเมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานอนเลื่อนดูโซเชียลเน็ตเวิร์ค หัวเราะคิกคักสลับมองหน้าเขาอย่างมีเลศนัย


    “อะไรของแกวะ” จุนขมวดคิ้ว


    “ดูเองดิ ที่เฟซซากุไรซัง อย่างพีค เออ..เฟซโทมะด้วย”


    เห็นเขาส่ายหน้าเนือยๆ ดูไม่ใส่ใจ คาซึนาริก็ลุกขึ้นดึงมือมานั่งลงข้างกัน ยัดเยียดโทรศัพท์มือถือใส่มือ


    “ดูซะ”


    สบสายตาบังคับของเพื่อน จุนจำต้องก้มลงอ่านสถานะของซากุไร โชที่แนบรูปกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่วางอยู่หน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอย่างเสียไม่ได้

    Sho Sakurai : กล้องที่แบกไปวันนี้แต่ก็เป็นหม้าย

    “ไม่เห็นมีอะไรนี่” ดวงตากลมโตกลอกมองเพดาน ปรายมองเพื่อนสนิทอย่างเหนื่อยหน่าย


    “แกดูรูปที่อยู่บนหน้าจอคอมเฮียเขาดิ” คาซึนาริเอื้อมมือมากดขยายรูปให้ดู


    เท่านั้น...จุนก็เบิกตากว้าง สองแก้มร้อนวูบ ยัดมือถือคืนเพื่อนแล้วหันหน้าไปทางอื่น


    “แหม่...เขินซะด้วย”


    ได้ยินเสียงหัวเราะแหลมบาดหูจากเพื่อนตัวเล็กก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟา คว้าหมอนมาปิดหู ยิ่งกดมันแนบขึ้นเมื่อเสียงเดิมร้องเฮ้ยลั่นห้อง ปราดเข้ามายื้อแย่งหมอนใบโตออกไป


    “แกเว้ย...แม่ง พีคโคตร มาดูเลยมาดูเดี๋ยวนี้”


    “ไม่!” จุนร้อง เบือนหน้าหนีโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่แหวกช่องว่างลงมาจ่ออยู่ตรงหน้า แสงแยงตาทำให้เสียหลักถูกเพื่อนรักดึงขึ้นมานั่ง ยึดปลายคางให้อ่านข้อความบนหน้าจอจนได้


    บนหน้าจอแสดงความคิดเห็นของโพสต์รูปถ่ายกล้องของซากุไร โช ซึ่งไม่พ้นจะเป็นข้อความกระเซ้าเย้าแหย่จากคนคุ้นเคยทั้งหลาย


    Mazaki ei ei : ไม่ได้มองรูปกล้องเลยครับมองรูปตรงแบ็กกราวด์มากกว่า ใครหรอค้าบบบ คุ้นๆน้ออ อิ_อิ

    IKu Toma ma: ไล่ผมกับไอบะคุงไปซื้อน้ำเพราะงี้สินะ!!!

    Kazzz Nino : สวยจังเลยครับสวยเหมือนคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมแล้วนั่งม้วนเป็นซูชิตอนนี้เลย คึ_คึ

    Ohno no Fish : แหม่....

    Shun Oguri : ชอบเพื่อนผมหรอครับพี่ชอบก็จีบ อ่ะชอบก็จีบเลยเซ่~ ชูวับ ปั๊บๆ


    ทว่า...เขาคงไม่เหมือนได้ยินเสียงระเบิดตูมในสมอง หน้าร้อนผ่าวแทบจะไหม้ หากไม่เห็นข้อความตอบกลับโอกุริ ชุน จากผู้เป็นเจ้าของโพสต์


    Sho Sakurai : Shun Oguri ก็กำลังจะจีบอยู่นี่ไง


    “แก....” จุนได้ยินเสียงครางแผ่วของตนเอง ดวงตาเบิกค้าง ก่อนจะปล่อยศีรษะทิ้งน้ำหนักลงบนไหล่เพื่อนอย่างอ่อนแรง ยากเหลือเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมาจนครบประโยค


    “แก...นี่มัน...อะไรกัน”


    คาซึนาริถอนหายใจยาว มือลูบศีรษะเขาไปมาอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับเสียงกระซิบริมหู


    “รุ่นพี่ซากุไร โช เจ้าของยอดไลค์รวมเป็นล้านไลค์ประจำเพจเซ็กซี่บอย อดีตประธานสโมสรนักศึกษาผู้โด่งดัง บัณฑิตเศรษฐศาสตร์เกียรตินิยมอันดับหนึ่งพ่วงเหรียญทอง ชอบแกและประกาศว่าจะจีบแกอย่างโจ่งแจ้งบนเฟซบุ๊กยังไงล่ะน้องจุนคนสวยของพี่”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
cyqlops (@cyqlops)
หว่าาาาาา เพิ่งได้อ่านอย่างจริงจัง ฟฟฟฟฟฟ เขินมากกกกกก โอ๊ยยยยยยย เขินกว่าพาร์ท photograph อีก แง้งงง อิสสานิโนะมากตอนนี้ มีหัวน้อยๆของจุงจังซบอยู่ โอร่ยยยยย พี่โชก็ร้ายไม่เบานะคะ ก็กำลังจีบอยู่นี่ไง แหมมมมมมม /มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ หึฟ์!