"ทำไมโสเครตีสถึงต้องตาย" คำถามที่เรียบง่ายแต่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่มอายุสิบเก้าย่างเข้ายี่สิบทำให้ชายวัยสามสิบสองที่ถูกยิงคำถามใส่ชะงักไปชั่วครู่
ชายแก่กว่าดันแว่นของตัวเองขึ้นเบาๆ ก่อนจะละสายตาจากหนังสือที่ตนอ่านค้างอยู่ในมือหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับเขา
พวกเขาทั้งสองคนนั่งกันบังเอิญต้องมานั่งร่วมโต๊ะเดียวกันในร้านกาแฟที่คนค่อนข้างจอแจในช่วงเย็นเพราะมันเป็นเวลาเลิกเรียนและบรรดานักเรียนและผู้ปกครองที่ยังไม่อยากกลับบ้านก็มักจะมานั่งใช้เวลากันในร้านนี้ในช่วงเย็น พวกเขา-ซึ่งต่างเป็นคนแปลกหน้าต่อกันและกัน-เลยจำต้องยอมนั่งร่วมกันเพราะโต๊ะทุกตัวล้วนถูกจับจองไว้หมดแล้ว
เพลง Alone Together ของ Kenny Dorham เล่นคลอออกมาจากลำโพงราคาแพงขนาดปานกลางที่ติดอยู่รอบๆ ร้านเป็นเพลงประกอบให้กับพวกเขา
มันดังมากพอหากตั้งใจฟังดีๆ แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังและสนใจสิ่งอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นก็จะแทบไม่ได้ยินเสียงทรัมเป็ตแสนเศร้าของ Kenny Dorham โหยหวนออกมา
เด็กหนุ่มจ้องมองหน้าคนโตกว่าด้วยสายตาที่คาดหวังคำตอบจากคนโตกว่า เพราะคำถามที่เขาถามไม่มีคำตอบปรากฎในชีทเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะ
เด็กหนุ่มก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้เอ่ยปากถามคนโตกว่าออกไป อาจจะเพราะว่าเขาใส่แว่นและดูฉลาด หรืออาจจะเพราะว่าในมือของคนโตกว่าถือหนังสือเรื่อง Colorless Tsukuru Tazaki and His Years of Pilgrimage ของ Haruki Murakami อยู่
อะไรบางอย่างบอกเด็กหนุ่มว่าคนที่ถือหนังสือของมูราคามินั้นจะต้องมีมิติที่สี่ที่จะสามารถตอบคำถามที่เขาถามออกไปได้
อะไรบางอย่างทำให้เด็กหนุ่มมัธยมปลายคนนี้มั่นใจว่าเขาจะต้องได้คำตอบของคำถามที่เขาสงสัยจากชายหนุ่มตรงหน้า
ชายหนุ่มที่โตกว่านิ่งไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะรีบหาคำตอบจากส่วนหนึ่งของสมองที่บรรจุความรู้สมัยเรียนของเขาเอาไว้ ไม่ถึงนาทีชายโตกว่าก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มของเขา
"เพราะว่าเขาถามมากเกินไป"
ตลกดีที่เด็กหนุ่มตรงหน้ากลับยิ้มกว้าง เสียงหัวเราะใสๆ จากเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีหัวเราะขึ้นมากลบเสียงทรัมเป็ตของ Kenny Dorham หายไปหมด
ชายแก่กว่าขมวดคิ้วสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาราวกับคำตอบของเขามันเป็นเรื่องตลก
"คุณไม่ได้หลอกผมใช่มั้ย" เด็กหนุ่มถามขณะหมุนควงดินสอไม้สีเหลืองในมือ ชายโตกว่าไม่ทันได้สังเกตในทีแรกแต่เมื่อสังเกตเขาก็แอบแปลกใจว่าเด็กสมัยนี้ยังใช้ดินสอไม้กันอยู่อีกเหรอ
ชายโตกว่าทำได้เพียงเก็บคำถามงี่เง่าของเขาไว้ในใจแล้วเรียบเรียงคำพูดอธิบายให้เด็กหนุ่มฟังเกี่ยวกับสาเหตุที่โสเครตีสต้องตาย
เสียงของอาจารย์คนโปรดของเขาดังคลอในหัวบอกคำตอบที่เขาต้องตอบเด็กหนุ่มเหมือนกับเทปที่เปิดเล่นเอง
"เปล่า ฉันพูดเรื่องจริง" คนโตกว่ายืนยันเสียงเข้ม ปิดหนังสือที่ตัวเองอ่านข้างลงโดยใช้นิ้วโป้งคั่นหน้าที่ค้างไว้ก่อนจะอธิบายสิ่งที่ตัวเขาระลึกได้เกี่ยวกับโสเครตีส
"โสเครติสช่างถาม เขาถามจนกว่าจะได้คำตอบ ไม่ว่าคนตรงหน้าเขาจะเป็นทหาร ขุนนาง หรือกษัตริย์ เขาถามไปทั่ว จนกระทั่งเขาเริ่มถามหาความหมายของคำศัพท์ที่คนชอบใช้แต่ไม่รู้ความหมาย ถามจนได้นิยามของศัพท์แต่ล่ะคำ ถามเพื่อให้ประชาชนทุกคนในเอเธนส์มีความเข้าใจตรงกัน จนเหล่าผู้ปกครองเอเธนส์กลุ้มใจ เพราะถ้าประชาชนเข้าใจตรงกัน คนเหล่านั้นจะปกครองลำบาก พวกเขาจึงตัดสินใจประหารชีวิตของโสเครตีสด้วยยาพิษ"
เมื่อคนโตกว่าเล่าจบแววตาของเด็กหนุ่มเป็นประกาย เด็กหนุ่มคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ถามชายตรงหน้า
คนโตกว่าแอบยิ้มนิดๆ เมื่อเด็กหนุ่มก้มลงไปจดคำตอบที่เขาได้รับยิกๆ ลงบนชีท คนโตกว่าภูมิใจที่อย่างน้อยเขาไม่ได้ทำให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าเด็ก เขาขอบคุณเสียงของอาจารย์ของเขาที่สอนเขาฝังลึกลงไปในสมองให้จำเรื่องราวเกี่ยวกับโสเครตีสได้
ใช้เวลาไม่เกินนาทีเด็กหนุ่มเงยหน้าจากชีทเรียนของเขา
"ขอบคุณมากเลยนะครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยบอกชายโตกว่า ชายที่โตกว่าพยักหน้ารับเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วเริ่มต้นอ่านหนังสือจากบรรทัดที่ค้างไว้ต่อ เขากำลังจะอ่านจบบทที่ค้างไว้แล้วถ้าเกิดไม่ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กจากฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง
เด็กหนุ่มกำลังเก็บข้าวของของตัวเองลงกระเป๋าเป้อย่างช้าๆ ก่อนจะหยิบแก้วช็อคโกแลตปั่นของตัวเองขึ้นมาดูด จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อมันสั่นจากกระเป๋ากางเกงเขา เขากดรับสายโดยไม่มองชื่อก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับชายที่โตกว่าที่กำลังจ้องเขาอยู่
เด็กหนุ่มยิ้มกว้างให้คนโตกว่าขณะปากพูดตอบคนจากปลายสาย
"ผมอยู่ที่ร้านกาแฟแม่ มารับผมหน้าร้านเลยเดี๋ยวออกไปแล้ว" ชายโตกว่าไม่ได้ละสายตาของเขากลับไปที่หนังสือ เขาเลือกที่จะมองเด็กหนุ่มที่กำลังจะลุกจากเขาไป
เด็กหนุ่มวางสายแล้วยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง
"ขอบคุณอีกครั้งนะครับ" เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเก็บโทรศัพท์เสร็จแล้วบอกขอบคุณชายแก่กว่าอีกครั้งจากใจ หากไม่ได้ชายที่โตกว่าช่วยไว้เขาก็คงจะไม่สามารถทำการบ้านเสร็จทันและเป็นข้ออ้างให้แม่ของเขาปล่อยให้เล่นเกมส์ได้
"ไม่เป็นไร" คนโตกว่าตอบด้วยเสียงเรียบๆ เหมือนกับสีหน้าก่อนจะก้มลงไปสานต่อการอ่านของตัวเองให้จบ
มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่การอ่านหนังสือเพียงสองหน้าของเขาใช้เวลาไปเกือบยี่สิบห้านาที
เมื่อชายหนุ่มอ่านจบบทและเงยหน้าขึ้นมาเพื่อพักสายตาขณะพลิกเปลี่ยนหน้าหนังสือ เขาก็พบว่าอีกฝั่งของโต๊ะที่เขานั่งก็ว่างเปล่าเสียแล้ว เจ้าของร่างที่รบกวนการอ่านหนังสือของเขาหายไปพร้อมๆ กับแก้วช็อคโกแลตปั่นของเขา
ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาดูดน้ำจากแก้วของคนโตกว่ามาตลอด
เมื่อคิดได้แบบนั้นชายโตกว่าก็ยิ้มออกมาบางๆ
เขายิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเพลง I fall in love too easily ของ Chet Baker ดังขึ้นขณะที่เขาดูดช็อคโกแลตปั่นจากแก้วของเด็กหนุ่มที่เพิ่งจากไป
ชายตัวโตแอบคิดว่าบางทีแล้ว นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมโสเครตีสถึงต้องตาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in