เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MeenReadMeen Geywalin
เหตุเกิดจาก 'ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ'
  • 1
       เคยแอบมองหนังสือที่คนอ่านบนรถโดยสารสาธารณะบ้างมั้ยคะ?
       สำหรับเรา เราชอบมองผ่านๆ ว่าเขาอ่านหนังสืออะไรแล้วก็หมดความสนใจลงตรงนั้น แต่คนอื่นเป็นยังไงเราไม่รู้เพราะไม่เคยสังเกต
       เราเพิ่งเริ่มลองสังเกตปฏิกิริยาคนรอบข้างเวลาเราเปิดหนังสืออ่านในที่สาธารณะเมื่อเร็วๆ นี้เอง
       และโดยเฉพาะเมื่อเราเปิด Early Desire ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ ของ โตมร ศุขปรีชา บนรถเมล์และรถไฟฟ้า

    2
       'ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ' พาเราไปตั้งคำถามและหาคำตอบในเรื่องเพศเรื่องเซ็กซ์ที่หลายๆ คนอาจสงสัยอยู่เงียบๆ แต่ไม่เคยพูดออกมา(หรือพูดไม่ออกเพราะจริตสังคม)
       เรื่องราวเรื่องเล่าเรื่องเซ็กซ์ผ่านพร้อมวิวัฒนาการของมนุษย์และสังคมมนุษย์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์โน่น ทั้งเกย์ก่อนประวัติศาสตร์ รักร่วมเพศสมัยโบราณ หรือทรีซัมที่อาจจะมีกันมานานนมและอื่นๆ อีกมากมาย
       แน่นอนว่านอกจากหลักฐานทางโบราณคดี มนุษย์ยุคปัจจุบันอย่างพวกเราทำได้เพียงตีความและคาดเดาพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์โบราณไปต่างๆ นานาเท่านั้น ยังคงมีการถกเถียง โต้แย้ง เห็นด้วย และการค้นพบใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกย่อยออกมาให้เข้าใจง่ายและจ้ับต้องง่าย แถมอ่านสนุกแบบรวดเดียวจบ 
       ความเสียดายเพียงอย่างเดียวระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้คือ แม้จะมีรูปจริงให้ดูตอนท้ายบท 1-2 รูป แต่เมื่ออ่านถึงรูปปั้น ภาพวาด ภาพฝาผนัง สัญลักษณ์ หรืออะไรสักอย่างที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทั้งยังไม่ใช่รูปที่อยู่ท้ายบท (และดันอยากเห็นของจริงมาก) ต้องกลับมาค้นหาอย่างบ้าพลังเองต่อไป 

    3
       แต่นอกจากความสนุกของเรื่องราวใต้สะดือในประวัติศาสตร์แล้ว หนังสือเล่มนี้กลายเป็นต้นเหตุความสนุกใหม่อย่างหนึ่งของเรา...
       ความสนุกจากการได้เห็นอาการกระอักกระอ่วนจากหลายคนเมื่อเราเปิดหนังสือเล่มนี้อ่านบนรถโดยสารสาธารณะ
       ใช่...ในสังคมจริตแรงกล้านี้ เรื่องเพศห้ามพูดในที่แจ้งอันนี้รู้กันดี แต่เราก็เพิ่งสังเกตว่าการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเรื่องเพศในที่แจ้งก็ทำให้คนรอบข้างกระดากได้เหมือนกัน
       และนั่นหมายความว่ามีคนแอบอ่านหนังสือข้ามไหล่เราอยู่พอสมควร

       เหตุการณ์ที่ 1
       นักศึกษาหนุ่มหน้าตาดียืนอยู่หลังเราตอนกำลังอ่านถึง "ดิลโด้ก่อนประวัติศาสตร์"
       ข้างนอกมืดแล้วเราเลยเหลือบเห็นเงาสะท้อนจากกระจกดำๆ ที่สะท้อนหน้าน้องเขาตอนเห็นชื่อบทและภาพประกอบพอดี
       น้องดูตระหนกมองหนังสือในมือสลับกับมองเรา
       ขณะเดียวกันก็ดูสนใจอย่างยิ่ง เพราะยังยืนส่องเราอ่านต่อไป (นี่ก็แอบมองเขาเพราะเขาหน้าตาดี)

       เหตุการณ์ที่ 2
       ชายหนุ่มอีกคนบนรถอีกคันดู panic เมื่อเห็นเราเปิดบท "ทรีซัมในหลุมศพ"
       สิ่งที่เขาทำคือมองหน้าเราสลับกับหนังสือหลายครั้ง เราเลยหันไปมองหน้าเขาแล้วยิ้มให้นิดหนึ่ง เขาดูกระดากอายแล้วลุกไปนั่งที่นั่งอื่นบนรถที่ว่างอยู่

       เหตุการณ์ที่ 3
       วันต่อมา มีคุณป้ามานั่งข้างๆ ตอนเรากำลังเปิดหน้าแรกของ "ข้ามเพศยุคโบราณ" 
       คุณป้ามองผ่านๆ มาในมือเรา เราได้ยินคุณป้าอุทาน "ต๊าย!" ก็เลยหันมอง 
       ใบหน้าคุณป้าดู awkward ขยับแว่นตาที่ใส่อยู่แล้วมองหนังสือในมือสลับใบหน้าเรา เราเลยยิ้มให้ แล้วก้มลงอ่านต่อด้วยสีหน้ายิ้้มแย้ม (แหม่...ก็กำลังสนุก)

    4
       เราไม่รู้ว่าพวกเขามองเรายังไง ซึ่งก็อยากรู้อยากเห็นอยู่นิดหน่อย จะให้ถามก็กระไรอยู่ แต่เราก็สนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาของพวกเขา
       เราไม่รู้ว่าพวกเขาคิดยังไงเมื่อเห็นข้อความและรูปภาพเพียงเศษเสี้ยวจากเนื้อความทั้งหมดนั้น 
       แต่ก็นั่นล่ะ...
       เช่นเดียวกับเรื่องเพศก่อนประวัติศาสตร์ทั้งหลายแหล่ที่ยังคงถกเถียงกันมากมาย
       และอาจจะเช่นเดียวกับทุกเรื่องบนโลกใบนี้
       เราต้องไม่เอากรอบความคิด ทัศนคติ ค่านิยมของเราไปตัดสินหรือครอบกรอบการกระทำของใคร


    มีน เกวลิน.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in