"You loved him when he was alive and you loved him after."
"แกรักมันเมื่อตอนมันยังมีชีวิตอยู่และรักมันภายหลังมันตาย"
The Old Man and The Sea เป็นหนังสือที่ให้ความรู้สึกประหลาดมากหลังจากอ่านจบเมื่อเราพลิกหน้ากระดาษแผ่นสุดท้าย และเมื่อสายตาไล่ลงจนสุดบรรทัด
เราพบว่าเรื่องเล่าจากปลายปากกาของ Hemingway เรื่องนี้ทรงพลังอย่างน่าประหลาด
จะบอกว่าเป็นเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องก็ไม่เชิงนัก
เพราะมันก็แค่เรื่องราวธรรมดาของชายแก่ชื่อ "ซานติอาโก" ที่ใช้เวลากว่าสามวันพยายามจะจับปลามาร์ลินตัวเขื่องและพามันกลับเข้าฝั่ง
ปลามาร์ลินในเรื่อง เปรียบได้กับเกียรติยศและศักดิ์ศรีในอาชีพคนหาปลาของซานติอาโก
ด้วยคำกล่าวที่ว่า "แกรักมันเมื่อตอนมันยังมีชีวิตอยู่และรักมันภายหลังมันตาย"
"มัน" ในที่นี้ คือปลามาร์ลินตัวใหญ่ ผู้ซึ่งสวยงามและทรงพลังตามธรรมชาติ เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนหาปลาที่ซานติอาโกเสียไปเมื่อนานมาแล้ว
เมื่อปลาตัวเขื่องไม่ยอมแพ้ ชายแก่ก็ไม่ล่าถอยเช่นกัน
แม้ว่าความผูกพันธ์นับถือจะก่อเกิดขึ้นในใจแล้วก็ตาม
มันอาจจะเป็นเพราะความยิ่งใหญ่และทรงพลังของปลามาร์ลินในบทบรรยาย
หรืออาจเป็นเพราะอารมณ์ความรู้สึกและจิตวิญญาณของซานติอาโก?
หรือความผูกพันธ์ระหว่างคนหาปลา ปลา ทะเล กระแสลม และร่องน้ำ?
ที่เมื่อซานติอาโกนำร่างของปลามาร์ลินตัวนั้นมาถึงฝั่ง
ความเศร้าจากการสูญเสียจึงคละไปพร้อม ๆ กับความยินดีในชัยชนะที่ไร้การรับรู้
แต่ Hemingway ก็เล่นเราเข้าแล้ว
เขาไม่ยอมให้ผู้อ่านปล่อยใจอันเศร้าสร้อยให้หยุดลงตรงนั้น
ด้วยการตบท้ายเรื่องราวตอนจบที่ชวนเจ็บจี๊ดในใจ
"ฉันไม่เคยเห็นหางปลาฉลามอะไรที่สวยงามอย่างนี้"
เมื่อนั้นแหล่ะ ความรู้สึกในใจนักอ่านก็ผสมปนเปเสียจนเรียกได้ว่าประหลาด
มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า...
จะมีใครในเรื่องที่ร้องไห้เหมือนเด็กหนุ่มคนนั้นไหม?
จะมีใครในเรื่องที่รับรู้ถึงความทรงพลังและร้องไห้ออกมาเหมือนที่นักอ่านได้กระทำไปโดยไม่รู้ตัวบ้างหรือไม่?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in