เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกติ่ง "ซีรีส์"ติ่ง(ซีรีส์)
Be Melodramatic : อยู่มาจน 30

  • อีกครั้งที่ jtbc บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของคนรุ่นใหม่ ผ่านซีรีส์แนว Share House ที่นำเอาตัวละครที่มีหลากบุคลิก ต่างที่มา มาอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน หลังจากประสบความสำเร็จจากซีรีส์แนวนี้มาจากเรื่อง Welcome To Waikiki และ Age Of Youth ที่ต่างก็มีแฟนติดตามจำนวนมาก และทำให้นักแสดงนำของเรื่องเป็นที่จดจำ ผ่านตัวละครที่เป็นคนธรรมดา ที่สร้างคามประทับใจด้วยการสวมบทบาทอย่างเป็นธรรมชาติ

    Age of Youth ซีรีส์ Share House เรื่องดำเนินเรื่องด้วย 5 สาววัยมหาวิทยาลัย รีวิว

    Share House ใน Be Melodramatic เป็นการอยู่ร่วมกันของเพื่อนผู้หญิง 3 คนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ห้อยพ่วงด้วยตัวละครน้องชายของหนึ่งในสามสาว และลูกชายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งในเรื่อง ด้วยความที่ตัวละครทั้งสามเป็นผู้หญิงในวัย 30+ และเป็นเพื่อนกันมานาน แม้จะมีความคล้ายกับ Share House เรื่องอื่น แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับการปรับตัว ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างกันเหมือน Age Of Youth แต่เป็นความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจกันและกัน ของเพื่อนที่เข้าใจตัวตนกันดีอยู่แล้ว ทำให้แม้ว่าเรื่องส่วนใหญ่จะดำเนินเรื่องแยกกันในการใช้ชีวิตนอกบ้าน(การทำงาน) ของแต่ละคน แต่เรากลับรู้สึกได้ทุกครั้งที่ตัวละครเข้าฉากร่วมกันว่า ทั้งสามสาวเป็นเพื่อนที่สนิท เข้ากัน และเป็นกำลังใจแก่กันอย่างแท้จริง

    ฉากคุ้นตาที่สามสาวจะกินข้าวพร้อมหน้ากันแบบฟินๆ ความสุขธรรมดา ในชีวิตธรรมดาของพวกเธอ

    ถ้าให้เปรียบเรื่องนี้กับซีรีส์ที่เคยดูมาก่อน คงต้องบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้มีความคล้ายกับ Age Of Youth อยู่มาก ไม่ว่าจะในแง่ของการดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหญิงเป็นหลัก การนำเสนอแบบกึ่งๆ Slice of Life ขนานไปกับเส้นเรื่องหลัก การเล่าเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ กับคนนอกบ้าน ขนานไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมบ้าน แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องของคนวัยทำงาน ( Age Of Youth ตัวละครเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย) ที่นอกจากจะมีเรื่องงาน ยังมีเรื่องส่วนตัวเช่น การสูญเสียคนรัก หรือการทำหน้าที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำให้เมื่อเกิดอารมณ์การดึงดราม่า ก็ทำให้สะเทือนใจ และกระแทกต่อมน้ำตาได้ค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะส่วนตัวที่อยู่ในวัย 30+ เรื่องนี้ถือว่าดราม่าในระดับมากในหลายจุด แต่ถ้าถามว่าเครียดมั้ย ก็ต้องบอกว่าไม่เลย เพราะความดราม่านั้นถูกนำเสนอในอารมณ์ Comedy ที่ทำให้บางครั้งระหว่างน้ำตาเอ่อๆคลอๆ ก็ยังหลุดหัวเราะออกมาได้ แต่บางเรื่องก็จริงเหลือเกิน จริงจนบางทีก็เป็นมุกที่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะมันกระแทก "จึ๊กๆ" เข้าไปถึงใจ ด้วยประโยคจี๊ดๆ ที่บางอันฟังแล้วก็ตบเข่าฉาด เพราะรู้สึกว่ามันโคตรจะจริง


    ความจริงซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าเรียบง่ายทั้งเชิงเนื้อหา และการดำเนินเรื่อง(ที่เรียบแต่เก๋) แต่ก็มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ในหลายจุด แถมในทุุกตอนเราจะได้ขบคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับชีวิต ที่บางเรื่องอาจดูธรรมดา แต่ในเรื่องธรรมดานั้น ภายใต้ปัจจัยที่แตกต่าง และแนวคิดที่ต่างกันของแต่ละตัวละคร เราก็จะได้เรียนรู้และตั้งคำถาม และหาคำตอบที่เหมาะกับตัวเราเองไปด้วยพร้อมๆกัน

    หนึ่งในจุดเด่นของเรื่องคือการคัดเลือกนักแสดงที่บางส่วนไม่ใช่คนที่แฟนซีรีส์คุ้นหน้าไม่ว่าชอนอูฮี ที่รับบทนำในซีรีส์ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 หรืออีกสองสาวที่ไม่เคยมีผลงานมาก่อน การใช้นักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เราอินไปกับตัวละครได้ง่ายขึ้น และหลงเสน่ห์ความจริงใจของตัวละครที่สื่อออกมาได้ไม่ยาก

    ตัวอย่าง 5 นาที



    อิมจินจู (รับบทโดย ชอนอูฮี ผลงาน : Argon / ภาพยนตร์ ฮันกงจู) นักเขียนบทละครโทรทัศน์หน้าใหม่ ที่เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบหากันมาถึง 7 ปี หลังการทำงานเป็นผู้ช่วยของนักเขียนชื่อดังไม่นาน เธอก็โดนไล่ออก จนต้องออกมาฉายเดี่ยวในฐานะนักเขียนหน้าใหม่แห่งวงการที่ต้อง "สตรอง" ถึงจะอยู่รอด
    อีอึนจอง (รับบทโดย ชอนยอบิน) ผู้กำกับสารคดีที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย แต่ต้องมาพบเจอเรื่องราวทุกข์ใจอย่างที่สุด จากการสูญเสียคนรักที่แสนดี ที่จากเธอไปด้วยโรคร้าย แม้เหมือนว่าเธอจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ในความจริงแล้ว สำหรับเธอ คนรักของเธอมักอยู่ใกล้ๆเธอเสมอ คนรอบตัวจึงมักเห็นเธอพูดคนเดียวบ่อยครั้ง และด้วยความห่วงใย เพื่อนสาวทั้งสองของเธอจึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน
    ฮวังฮันจู (รับบทโดย ฮันจีอึน) สาวหวานขวัญใจหนุ่มๆของรุ่นที่กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะดันได้สามีสุดติสต์ ที่ิอยากตามหาความสุขที่ไม่มีเธออยู่ในนั้น เธอเลี้ยงดูลูกชายสุดฉลาด และทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาดของโปรดักชั่นเฮ้าส์ผลิตละครโทรทัศน์

    เพลงประกอบละคร





    ส่วนตัวชอบเพลงนี้มาก สัมผัสความเศร้าแต่ก็รู้สึกอบอุ่นปลอบประโลม

    แนะนำว่าใครที่ชอบ Age Of Youth น่าจะชอบเรื่องนี้ ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบแนวนี้มั้ย ลองเปิดดูสักตอนสองตอนก็ได้ค่ะ (แต่แนะนำว่าอย่างน้อยต้องดูให้จบตอนนะคะ เพราะแนวการเล่าของซีรีส์แนวนี้ มันจะมีลักษณะของการขมวดใจความ ฉะนั้น การดูจนจบตอน กับการดูแค่ไม่ถึงตอน จะได้ความรู้สึกที่ค่อนข้างต่างกันมากค่ะ)... รับชมพร้อมซับไทยได้ฟรีที่ VIU ค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in