เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write what I want tothefirstofmine
เม็ดฝนในฤดูหนาว




  • ผมไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมหยิบเสื้อแจ๊กเกตตัวเก่งมาใส่แล้วเดินฝ่าเม็ดฝนปรอยๆ ออกจากห้องไป อาจจะเป็นเพราะอากาศขมุกขมัว ท้องฟ้าอึมครึมที่ทำให้ผมหงุดหงิดถ้าหากต้องอยู่ในห้องเงียบๆ คนเดียว ก็เลยต้องหาทางหอบร่างของตัวเองออกมาข้างนอกท่ามกลางฝนตกในฤดูหนาว

    ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบความเฉอะแฉะของสายฝน แต่ในช่วงเวลานี้มันก็เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่ผมไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากเท่าเมื่อก่อน สิ่งที่ผมคิดทำในตอนนี้คือเดินฝ่าละอองฝนไปเพื่อข้ามถนน เดินเข้าคาเฟ่เล็กๆ อุ่นๆ และไม่วุ่นวายมากนัก แล้วนั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ให้ใจสงบ

    แต่ในความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างที่ใจหวัง ผมมองเห็นคนแน่นขนัดในคาเฟ่เล็กๆ นั่น มันไม่ได้ทำให้ผมหัวเสียมากพอเท่ากับการที่ต้องรู้ว่า คาเฟ่อื่นๆ ก็แน่นไปด้วยผู้คนเช่นกัน เหลือเพียงคาเฟ่เดียวที่อยู่ในซอกหลืบและแทบไม่มีใครรู้จัก ผมไม่ได้ย่างกรายเข้าไปในคาเฟ่นั้นนานนับปี วันนี้จะเป็นวันแรกในปีนี้ที่ผมจะเปิดประตูเข้าไป

    บรรยากาศในร้านยังคงเหมือนเดิม เหมือนในวันสุดท้ายที่ผมเข้า ผมเคยรักที่นี่มากพอๆ กับที่ผมรักคาเฟ่เล็กๆ ด้านนอกนั่น โกโก้ร้อนยังคงละมุนในปาก ผมนั่งอยู่สุดทางเดิน มองออกนอกหน้าต่าง กระจกบานใหญ่เป็นฝ้าขาวเพราะอากาศหนาวและฝนตก เด็กๆ บางคนก็มาวาดรูปเล่นบนกระจกนั่น อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้

    "ยังอ่านหนังสือเล่มเดิมอยู่อีกหรอ" เสียงหนึ่งทักขึ้นมา ผมถอดหูฟังเพื่อมองหาเสียงต้นตอว่ามาจากไหน แต่แล้วก็ไม่พบใคร ก็เลยก้มอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อ

    "นี่ ทักแล้วไม่ตอบหรอ" เจ้าของเสียงคนนั้นขยับเก้าอี้ข้างๆ ผมแล้วลงนั่งทันที ผมถอนหายใจ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าเป็นคนเดียวกับที่ผมคิด

    "สวัสดี" ผมเอ่ย 

    "ไง ยังอ่านเล่มเดิมอยู่หรอ" เขายังคงถามคำถามเดิม

    "อือ"

    "ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย เป็นไงบ้าง"

    "ก็ดี เรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา" 

    "อืมมมม งั้นหรอ ทำไมไม่เห็นมาคาเฟ่นี้เลยล่ะ"

    "เพิ่งย้ายงานใหม่น่ะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาว่างให้มาคาเฟ่เท่าไหร่"

    "หรอ เราก็เหมือนกันเลย เพิ่งพ้นโปรไม่นานมานี้เอง" เจ้าตัวเดินกลับไปรับแก้วชาเขียวนมจากบาร์ก่อนจะกลับมานั่งข้างๆ ที่เดิม

    "ย้ายไปทำที่ไหนน่ะ"

    "ก็ไกลจากที่เดิมอยู่ แต่ก็สะดวกกว่าเดิม เดินไปแป๊บเดียวก็ถึง"

    "ใกล้มากเลยหรอ"

    "อื้อ จริงๆ ก็นั่งรถไปได้นะ แต่เราขี้เกียจเสี่ยงดวง เผื่อวันไหนเจอคนขับตีนผีหรือรถมาช้าจะไม่คุ้มเอา" พูดจบแล้วเขาก็หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาก็ยังคงทำให้ผมยิ้มออกมาได้เสมอ ไม่ว่าจะนานสักเท่าไหร่

    "ว่าแต่ มาที่นี่บ่อยหรอ" ผมถามขึ้น ก่อนที่ผมจะหลุดเข้าไปในความรู้สึกเดิมอีกครั้ง

    "ก็ไม่บ่อยนะ มาเฉพาะช่วงว่างๆ กับวันไหนคิดถึงก็มา"

    "คิดถึงคาเฟ่น่ะหรอ"

    "คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ต่างหาก" เขาเอื้อมมาผลักไหล่ผมเบาๆ พร้อมๆ กับคำตอบนั้น

    "ทำไมล่ะ มันไม่เห็นทำให้คิดถึงอะไรเก่าๆ ได้เลยนะ" ผมว่า

    "แน่ใจหรอ" เขาถามผม แล้วก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ผมฟัง ทั้งเรื่องราวตั้งแต่ผมพามายังคาเฟ่นี้ บรรยากาศเก่าๆ ของร้าน การเปลี่ยนแปลงของร้านในแต่ละฤดู รวมไปถึงเรื่องของเขาเองหลังจากที่เราไม่ได้พบกันนาน

    เขาต่างกับผม ผมไม่ได้มาคาเฟ่นี้เพราะผมไม่อยากคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ แต่ในเวลานี้มันย้อนกลับคืนมาราวกับกรอฟิล์มกลับไปในช่วงเวลานั้น ผมเกลียดเวลาที่ทุกอย่างมันพรั่งพรูออกมาเหมือนอย่างตอนนี้

    ในตอนนั้นเป็นบรรยากาศที่หอมหวานราวกับเม็ดลูกกวาดที่เด็กๆ ชอบกิน เรารู้จักกันเพราะหนังสือเล่มที่ผมกำลังอ่านเมื่อสักครู่นี้ เขาทักขึ้นมา เพราะเขาชอบหนังสือเล่มนั้น คุยกันถูกคอ บังเอิญเจอกันหลายครั้งที่ร้านหนังสือ จนกระทั่งมาร้านแห่งนี้ คาเฟ่โปรดของผม เขาบอกผมว่าเขาไม่ได้เจอคนที่คุยเพลิน และคุยได้ทุกเรื่องเหมือนกับผม เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้นและมาจบที่คาเฟ่แห่งนี้ทุกครั้ง แต่ไม่นาน ผมก็ต้องเดินออกมาจากคาเฟ่แห่งนั้น เดินออกมาจากเขา ด้วยเหตุผลบางประการ ผมรักความรู้สึกหอมหวานของลูกกวาดนั้น แต่ผมก็ต้องเลือกเดินออกมาเอง จนกระทั่งผมกลับมายังคาเฟ่แห่งนี้อีกครั้ง

    "เบื่อกันแล้วหรอ" เขาถามขึ้น อาจจะเพราะคิดว่าผมกำลังเหม่อ

    "เปล่าๆ แค่เมื่อคืนนอนน้อยน่ะ ก็เลยอาจจะดูเบลอๆ"

    "แจ๊กเกตตัวเดิมปะเนี่ย"

    "เปล่าหรอก ตัวเก่าพังไปแล้ว ตัวใหม่ต่างหากแต่แบบเดิม"

    "ก็ว่าอยู่ เราชอบนะ เท่ดี"

    "ขอบคุณ เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ"

    "เรื่องที่ทำงานใหม่ของเราน่ะ มันก็ไม่ค่อยต่างจากที่เดิมเลยนะ เว้นแต่ว่าเขาเป็นระบบกว่า เราชอบระบบของที่ใหม่ ไม่บังคับเหมือนที่เก่า แต่คล่องตัวกว่าเยอะ แล้วที่ใหม่เป็นไงบ้างล่ะ"

    "ก็ดีนะ ได้ทำงานที่อยากทำมากกว่าเดิม แต่เราชอบสังคมของที่เก่ามากกว่า หรือเพราะเราเกลียดการเปลี่ยนแปลงล่ะมั้ง ก็เลยคิดแบบนั้น"

    "แต่ได้ทำงานที่อยากทำก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ"

    "ก็ใช่ แต่เราเพิ่งเข้า อีกไม่นานก็คงปรับตัวได้แหละ"

    "คิดแบบนี้ตลอดเลยนะ"

    "ก็มันจริงนี่นา"

    "จริงก็จริง แล้ววันนี้หลังฝนหยุดจะไปไหนรึเปล่า"

    "คงกลับห้องล่ะมั้ง ไม่ได้อยากไปไหน จะชวนไปไหนรึไง"

    "ก็เปล่าหรอก แค่ถามเฉยๆ น่ะ เผื่อจะได้นั่งคุยกันนานๆ" ผมไม่ได้ตอบเขา มีแต่เพียงความเงียบกั้นกลาง "ยังกินโกโก้เหมือนเดิมหรอ เดี๋ยวนี้กินกาแฟรึยัง" เขาถามต่อ

    "ไม่กินกาแฟ ก็รู้ไม่ใช่หรอ"

    "นึกว่าเดี๋ยวนี้กินแล้ว ไม่เห็นอัปเดตเรื่องของตัวเองให้ฟังเลย"

    "ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกน่า"

    "โอ๋ๆ ไม่กวนแล้วก็ได้ ดูสิ ทำหน้ามุ่ยอีกแล้ว อ่านหนังสือให้สนุกล่ะ" เขาพูดจบก็วางแก้วชาเขียวนมของตัวเองลง แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านข้างๆ ผม ไม่ขยับไปไหน เหมือนเมื่อก่อน ที่ผมนิ่งไปเป็นเพราะผมกลัวใจตัวเองที่จะกลับไปเป็นเคย กลัวความรู้สึกตัวเอง และกลัวสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้น ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ทั้งที่ความจริงตัวผมเองก็รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอะไรต่อกัน และเป็นแบบนั้นเสมอมา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    แต่หลังจากวันนั้นผมก็กลับไปที่คาเฟ่นั้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็ใช้เวลาทั้งวันในนั้นเพื่ออ่านหนังสือของตัวเอง และรอใครบางคนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผ่านไปหลายเดือน ทั้งได้พบและไม่ได้พบ เรายังคงสนทนากันอยู่เช่นเดิม มีความสุขด้วยกันเหมือนเดิม หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม และความรู้สึกเดิมๆ ก็ย้อนกลับมา ทุกอย่างยังคงต่อติดราวกับจิ๊กซอว์ที่ต่อกัน แต่มีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่สัมผัสได้

    ผมอาจจะเคยปฏิเสธความทรงจำเหล่านั้น เพียงเพราะต้องการสร้างเกาะกำบังให้ตัวเอง มาวันนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่าการปล่อยให้มันเป็นอิสระ มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกอย่าง แม้เมื่อก่อนผมเลือกที่จะเดินจากไป แต่คราวนี้ผมเลือกที่จะเผชิญหน้าเข้าหาความเจ็บปวด รวมถึงภาวนาให้ตัวเองยังคงมีความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ มากกว่าเลือกที่จะปล่อยมันไปและรักษาใจของตัวเอง ผมไม่สามารถที่จะบังคับให้ตัวเองลืมความทรงจำที่ดีอันนี้ไปได้จริงๆ แม้เมื่อก่อนผมจะทำเหมือนมันไม่มีอยู่จริง 

    มาในวันนี้ ผมก็ยังคงไม่ชอบความเฉอะแฉะของฝนอยู่เช่นเคย แต่ผมเองก็ต้องขอบคุณเม็ดฝนในวันนั้นที่ทำให้ผมลุกออกมาจากห้องและได้กลับไปยังคาเฟ่แห่งเดิม และความทรงจำของผมที่เคยเก็บซ่อนไว้ในโหลแก้ว ก็ถูกเปิดออกมาอีกครั้ง



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in