1
ในช่วงสายของวันที่อากาศหนาวกำลังจะจางหายไปในฤดูหนาวนั้น คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่านั่งจิบชาอุ่นๆ และนั่งมองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาภายในคาเฟ่เล็กๆ ริมถนนใหญ่ ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา บ้างก็สวมเสื้อหนาวตัวใหญ่ๆ ราวกับว่าอากาศภายนอกนั้นหนาวเกินจะทน แต่บางคนกลับใส่เสื้อแขนกุดท้าอากาศหนาว ช่างแตกต่างกันอะไรขนาดนี้ ส่วนภายในร้านนั้นอากาศค่อนข้างอบอุ่น เพราะอาจจะเต็มไปด้วยคนที่เต็มร้าน หรืออาจจะเป็นเพราะแก้วชาอุ่นๆ ตรงหน้า รวมถึงข้างๆ ฉันด้วยล่ะมั้ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าของโทรศัพท์ฉันดังขึ้น แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมาก เพราะภาพตรงหน้านั้นดึงดูดความสนใจฉันเอาไว้เสียหมด ด้านนอกร้านนั้น ฉันมองเห็นเด็กคนหนึ่ง สวมหมวกและเสื้อกันหนาวตัวใหญ่กว่าตัวเอง (หรือโอเวอร์ไซส์นั่นเอง ถ้าให้ฉ้ันเดาก็อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ปกครองเขาซื้อเผื่อโตเลย) กำลังก้มลงช่วยคุณยายเก็บของที่หล่นลงพื้น พร้อมช่วยถือของและพาข้ามถนนไป ก่อนจะเดินกลับมาหาพี่ของเขาที่ยืนซื้อของอยู่ฝั่งเดียวกับฉัน เขาดูเป็นเด็กดี และฉันไม่ค่อยเห็นใครให้ความช่วยเหลือคนอื่นแบบนี้มานานพอดูแล้ว ฉันสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงเรียกเข้าดังขึ้น คราวนี้ทำให้ทั้งร้านหันมามองหาต้นเสียง เมื่อพบแล้วจึงหันกลับไป ฉันจำต้องละสายตาจากเหตุการณ์ตรงหน้าเพื่อมารับสายของใครบางคนที่ไม่ขึ้นชื่อผู้โทรเข้ามา
ไม่นาน เจ้าของสายโทรศัพท์นั้นก็มาถึง เขาไม่ยอมบอกรายละเอียดสถานที่ที่จะไปด้วยกัน บอกเพียงแต่ว่า อยากใช้เวลาว่างกับฉันก่อนจะต้องย้ายไปเรียนต่อ เพราะเขาต้องเดินทางภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ และฉันเองก็ตอบตกลง เพราะถึงยังไงวันนี้ฉันคงไม่ไปไหนแน่ๆ รวมถึงการได้ไปเดินเล่นกับเขา ก็อาจจะทำให้ไม่รู้สึกเหงาหงอยอย่างที่เป็นๆ มา
"สวัสดี" เขาส่งยิ้มและโบกมือให้ รอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นมานาน รูปถ่ายต่างๆ ที่เขาโพสลงโซเชียลนั้น ก็แทบไม่เห็นรอยยิ้มแบบนี้เลยสักนิด
"ไง มาถึงไวมากเลยนะเนี่ย" ฉันแซวเขา แต่เขาก็มาถึงไวจริงๆ เขาใช้เวลาเพียง 10 นาทีเพื่อมาถึงคาเฟ่ที่ฉันนั่งเล่นอยู่
"ฉันมาทางลัด แต่ไม่บอกหรอกว่าเส้นไหน" ด้วยน้ำเสียงที่สดใสของเขา ก็ทำให้ฉันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขายังจำได้อยู่สินะว่าฉันรู้จักบ้านเขา และรู้ว่าระยะทางระหว่างบ้านเขากับคาเฟ่ที่นี่ มันค่อนข้างไกล ฉันเคยหาทางลัดระหว่างทั้งสองที่แล้ว ก็ยังไม่พบ
"งั้นหรอ ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก แต่ต้องบอกนะว่าวันนี้จะไปที่ไหนกัน"
"ก็ได้ๆ บอกก็ได้ว่าวันนี้จะไปที่ไหนกัน แต่ต้องห้ามบ่นนะพิช" แทบไม่มีใครเรียกชื่อฉันแบบนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่จบมัธยม ก็ไม่มีใครเรียกฉันว่าพิช
"ไม่สัญญาหรอก บอกมาซิว่าจะพาไปที่ไหน"
"อย่างนี้ทุกทีเลย วันนี้จะชวนไปเดินพิพิธภัณฑ์ที่เขาเพิ่งเปิดหลังจากปิดปรับปรุงไปเมื่อต้นปีที่แล้วน่ะเขาบอกชื่อพิพิธภัณฑ์นั้น หลังจากที่เขาพยายามอธิบายโดยไม่บอกชื่ออยู่นาน จนยอมแพ้ ที่เขาบ่นก่อนบอกว่าจะพาไปที่ไหนเพราะฉันมักจะบ่นให้เขาฟังเสมอเรื่องพิพิธภัณฑ์ที่เมืองนี้ มันดูไม่ค่อยมีอะไร ไม่ค่อยมีความต่างกันในแต่ละที่ เขาเลยห้ามฉันไว้ก่อน แต่คราวนี้ฉันกลับอยากไป ตั้งแต่เขาเปิดอีกครั้ง ฉันก็ยังไม่ได้ไปเยือนเลย อยากรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนหลังจากปิดปรับปรุงไปอยู่นาน
"เอาสิ" เขายิ้มรื่นก่อนจะขอสั่งอาหารเช้าทานเสียก่อนที่จะออกไปพิพิธภัณฑ์กัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in