ภาพยนตร์แนวมิวสิเคิล(Musical) ดราม่า (Drama) ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ ลิน มานูเอล มิแรนด้า (Lin-Manuel Miranda) ก่อนหน้านี้เขาคือนักแสดงที่คอหนังหลายคนคุ้นตา ทั้งยังเป็นโปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงมากความสามารถ โดยเพลงที่เขาแต่งเพื่อประกอบภาพยนตร์ดิสนีย์แอนิเมชั่นเรื่อง Encanto ชื่อเพลงว่า We Don't Talk About Bruno ได้ทะยานขึ้นติดชาร์ต The hot 100 ของ Billboard ในอันดับที่ 5 เป็นที่เรียบร้อย (ข้อมูลวันที่ 13 มกราคม 2565)
Tick,Tick … Boom นำเราไปรู้จักกับชีวิตของโจนาธาน ลาร์สัน (Jonathan Larson) นักเขียนบทละครเวทีและนักแต่งเพลง รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield) ชายคนหนึ่งที่ความฝันของเขาคือการกำกับละครเวทีเรื่องแรกให้ทันวัยสามสิบ แต่ชีวิตของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความกังวลที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และยังมีอาการได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาดังอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย
เสียงนาฬิกาดัง ติ๊ก…ติ๊ก…ติ๊ก
มหานครนิวยอร์กในปี 1990 ในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่ามูนแดนซ์ ผู้ชายวัย 29 ปี รูปร่างสูง วิ่งไปมา เสิร์ฟอาหาร รับโทรศัพท์ และเอาขยะไปเททิ้ง นี่ไม่ใช่ฉากในละครเวทีหรืออย่างไร แต่โจนาธาน หรือจอห์นกำลังทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหาร
เขาย้ายจากชนบทเข้ามาในเมืองใหญ่ อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เก่า ๆ ไฟติด ๆ ดับ ๆ ฝ้าเพดานรั่ว เพื่อตามไล่ตามความฝัน อย่างการเป็นผู้กำกับละครเวที แต่การทำงานศิลปะมีค่าใช้จ่ายที่สูง หากเป็นเรื่องของตัวเงิน แน่นอนว่าการสร้างละครเวทีสักเรื่อง จำเป็นที่จะต้องใช้จ่าย ทั้งค่าแรงของนักแสดง นักดนตรี ค่าเช่าสถานที่ในการแสดง และทุนที่ไม่ใช่ตัวเงินอย่างเวลาที่กำลังเดินไปข้างหน้า และอายุที่มากขึ้น
แม้แต่เพื่อนซี้อย่างไมเคิลก็ล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักแสดง และผันตัวไปทำงานในเอเจนซี่โฆษณา มีรายได้หลายหมื่น ขับรถราคาแพง ย้ายไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์สุดหรู ก็ยิ่งทำให้จอห์นกังวลกับอนาคตของตัวเองมากกว่าเดิม โดยที่เขายังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน และชีวิตวัยยี่สิบของเขากำลังจะหมดไป
ให้ความรักนำทาง
จอห์นทุ่มเทเวลากว่า 8 ปี เพื่อเขียนละครเรื่อง “ซูเพอร์เบีย” ละครเวทีที่เกี่ยวกับโลกอนาคต ดิสโทเปีย ที่ดูจากบทแล้วคงไม่ทำเงิน อย่างไรก็ตามเขามีโอกาสแสดงละครเรื่องนี้ในเวิร์คช็อปเล็ก ๆ ที่เขาสามารถเชิญโปรดิวเซอร์ในวงการมาดูงานของเขาได้ แม้ก่อนหน้านี้เขาจะโดนปฏิเสธมาบ่อยครั้ง ปัญหาก็ไม่จบแค่ตรงนั้น เพราะเขาก็ยังคิดเพลงในองก์ที่ 2 ของละครไม่ได้ และเหลือเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์ในการเริ่มแสดงเท่านั้น
อีกหนึ่งความกังวลก็คือ ซูซานแฟนสาวนักเต้นของเขาจะต้องย้ายไปทำงานในเมืองเบิร์กสเชียร์ แต่จอห์นไม่ได้ติดต่อกับซูซานมาหลายวัน เพราะเขาวุ่นวายจากการซ้อมเวิร์กช็อปและการแต่งเพลง โดยเธอต้องการคำตอบว่าในอนาคตจอห์นจะเลือกความรักของทั้งคู่หรือทุ่มเททั้งชีวิตให้กับหน้าที่การงานของเขา
“ถ้าหลังเวิร์กช็อปไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายไม่ได้ไปบรอดเวย์ นายยังเป็นเด็กเสิร์ฟ อยู่ในอาพาร์ทเมนต์เดิม ยังถังแตก แล้วไงต่อโจนาธาน ” ซูซานพูดกับจอห์นถึงความไม่แน่นอนในเส้นทางสายนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรมาการันตีว่าการเวิร์กช็อปจะออกมาเป็นอย่างไร แต่จอห์นได้เลือกแล้วว่าจะตั้งใจให้ซูเพอร์เบียออกมาให้ดีที่สุด เขาเลือกความรักที่ไม่ใช่ความรักแบบชู้สาวแต่เป็นความรักและแพชั่นอันแรงกล้าในการทำละครเวที
เวลาและชีวิตในวัย 30
การแสดงจบลงจอห์นได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว แต่เขาก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากโปรดิวเซอร์ จอห์นเริ่มรู้สึกว่าเวลาที่เสียไปเปล่าประโยชน์ เขาทุ่มเทให้ละครเวทีไปทำไมกัน ในเมื่อเขาไม่ได้อะไรกลับมา เขากลับไปหาเพื่อนสนิทอย่างไมเคิล และของานทำที่เอเจนซี่โฆษณา เพราะคิดว่าบรอดเวย์คงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่เพื่อนสนิทของเขาบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันดีมากและจอห์นควรทำมันต่อไป
แต่ถ้าหากเวลาของเขาหมดลงล่ะ เขาไม่ใช่วัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว พ่อแม่ของเขามีลูก 2 คน มีบ้าน มีรถ ตอนอายุ 30 แม้แต่สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ (นักแต่งเพลงละครเวทีอาทิ Company, Follies และ Sweeney Todd) ก็ได้ทำละครเวทีเรื่องแรกตอนอายุ 27 ปี ซึ่งอายุน้อยกว่าจอห์นตั้ง 3 ปี แต่ไมเคิลก็ตอบกลับไปว่า
“ก็นายไม่ใช่สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ รออีกนิด”
จริง ๆ แล้วเวลาที่เราควรจะภาคภูมิใจในตัวเองหรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัว ไม่มีใครรู้ว่าเวลาที่เหมาะสมคืออายุเท่าไร ไม่มีใครตอบได้ว่าชีวิตในวัย 30 ของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร แต่หากจอห์นหยุดเพียงแค่นั้น โลกก็จะไม่ได้รู้จัก “โจนาธาน ลาร์สัน” ในวันนี้
เนื้อเรื่องในภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครเวทีอัตชีวประวัติของเขาเองที่มีชื่อว่า Tick, Tick... Boom! ในช่วงที่ชีวิตกำลังสับสนวุ่นวายใจกับการเขียนบทละครเรื่อง Rent ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าชมการแสดง เพราะเขาได้จากโลกนี้ไปเพียงวัย 35 ปี ก่อนการซ้อมแสดงรอบสุดท้ายจากภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด
แต่บางทีการทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสิ่งที่เรารักก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับใครบางคนแล้วก็ได้
ส่วนคนที่กำลังพยายามทำอะไรสักอย่างและยังไม่ประสบความเร็จก็ขอให้คุณรออีกนิดบางทีเวลาที่เหมาะสมและโอกาสอาจกำลังรอคุณอยู่ข้างหน้า
เรื่อง: Novemberrest
ภาพ: ภาพยนตร์ Tick, Tick... Boom!
ที่มา
https://www.nytimes.com/2021/09/16/movies/andrew-garfield-tick-tick-boom.html
https://www.youtube.com/watch?v=fWzdML3y0dc
https://www.esquire.com/entertainment/movies/a38293018/jonathan-larson-tick-tick-boom-rent-true-story/
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in