ชีวิตตอนนี้รสชาติขมดี..
โรคระบาดเอย เรียนออนไลน์เอย ประเทศที่มีคนเฮงซวยเป็นใหญ่เป็นโตเอย..
จะนับถือตัวเองที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้นี่คิดแล้วคิดอีกว่ามันดีจริงๆหรอ?
ตอนที่น่ากลัวที่สุดคือตอนที่ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเต้นของหัวใจตัวเอง
ปกติเวลาแนบหน้ากับหมอนลำตัวแนบพื้นอย่างน้อยยังรู้สึกถึงมัน
ช่วงสัปดาห์หรือเดือน ไม่แน่ใจ แทบไม่รู้สึกถึงมันเลย
การอยู่แต่บ้าน ตื่นมาก็บ้าน กินอาหารที่บ้าน ออกกำลังกายในบ้าน ผ่อนคลายในบ้าน
วันหนึ่ง บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่รู้จัก แปลกแยก อยากหนี ล็อกดาวน์แม่งแย่ มาตราการเฮงซวย
กว่าจะขุดตัวเองมานั่งพิมพ์ บ่นเรื่องแบบนี้ได้ นานอยู่นะ ชีวิตห่อเหี่ยวเป็นส่วนใหญ่
ขม อี๋ ขม เป็น teenage ที่หดหู่จัดๆอะค้าบ~
พิมพ์ซะลืมไปเลยว่าเคยจิตตกทะลุปรอท ดิ่งลงเหวติดลบทะลุทะลวงโลก
ความฝัน? ถ้าเป็นในช่วงมัธยมเล่าได้เป็นฉาก พากย์เป็นชั่วโมง หลากหลาย
เต็มไปด้วยความสว่างไสว
ตอนนี้หลบอยู่ตรงไหนไม่รู้ มันเหี่ยถิ่มไสบุ๊..
แต่ก็บอกกับตัวเองนะ ตื่นมายังพบว่ามีชีวิตอยู่ ถ้าไม่เบื่อหน่ายหรือเหนื่อยล้าก็รับผิดชอบชีวิตตัวเองไปให้รอดตลอดวัน มีแรงขึ้นมาหน่อยก็หาอะไรฮีลลิ่งจิตใจให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกนิด
กับจิตใจ เดี๋ยวพุ่งแตะความสุขขีดสุด ดิ่งลงแตะก้นเหวลึก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเข้มแข็ง
พยายามใจดีกับตัวเอง อะไรสบายใจทำ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ต้องเข้มงวด จริงจังหน่อย (เช่น การสอบ (อยู่ในวัยเรียน)) ถ้าทุกวันตั้งใจเรียน(?) ทำการบ้าน เหมือนชีวิตประจำวัน
ถึงจะรู้สึก わくわく เตรียมตัวมาดีแล้ว พบว่า..ออกอิหยังมาให้เฮ็ด ถ้าทำได้ดีที่สุดแล้ว
ผลจะออกมายังไง...
ความจริงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับให้ได้ ฝืนหน่อยแต่มันก็ต้องกัดฟันยอมรับ
ไม่ติด F ลัคกี้~ (บอกตัวอิฉันเองด้วย)
ชีวิตมันเครียด กดดัน ขมปี๋อีก
ถ้าควบคุมปัจจัยภายนอกไม่ได้ ปัจจัยภายในเป็นสิ่งที่พอจะควบคุมได้และสามารถทำให้ดีได้อีก
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกให้ใช้ชีวิตยังไงจะไม่เครียด
อย่างน้อยๆการโยกหัวแรงๆใส่เพลงบีทหนักๆหรือร็อคระเบิดคอ เต้นแร้งเต้นกา มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น
นิดนึง :)
//ขออนุญาตกอดทุกคนที่หลงจิ้มเข้ามาอ่าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in