เราทุกคนต่างมีความฝัน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อย หรือฝันยิ่งใหญ่ ก็ล้วนมีความหมายในตัวเองเสมอ แต่จะมีสักกี่คน ที่มีโอกาสได้วิ่งตามความฝันนั้น Dream Catcher เพลงนี้ จะเป็นตัวแทนของผู้ที่มีฝัน และผู้ที่ออกเดินทางไล่ล่ามัน แม้ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดระหว่างทาง บางคนแบกสัมภาระหนักอึ้ง บางคนพบเจอกับขวากหนามมากมาย แต่ความฝันก็ยังคงขับเคลื่อน และผลักดันให้ใครหลายคนออกเดินทางต่อไป
Dream Catcher เป็นไตเติ้ลแทร็คของอัลบั้ม
C สตูดิโออัลบั้มเต็มลำดับที่ 7 ของ NELL (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้) ออกวางเมื่อปี 2016 เป็นอัลบั้มแรกภายใต้สังกัด
SPACE BOHEMIAN ค่ายเพลงที่วงได้ก่อตั้งขึ้น ความเปลี่ยนแปลง สิ่งใหม่ ๆ มากมายเกิดขึ้นที่อัลบั้มชุดนี้ และ
Dream Catcher ก็เป็นหนึ่งในงานเพลงชูโรงของอัลบั้ม C ที่ให้ความรู้สึกถึงการเริ่มต้น บรรยากาศของความรีเฟรชที่ห้อมล้อม ความฮึกเหิมที่ตัวเพลงมอบให้ กลายเป็นจุดสตาร์ทที่แข็งแรงและน่าตื่นเต้น ในอีกสเตปการก้าวเข้าสู่ความเป็น NELL ในช่วงเวลาถัดมา
สิ่งที่ง่ายสำหรับบางคน
แต่สำหรับฉันมันยากเสมอ
แม้ว่าฉันจะอยู่ตรงนั้น แต่ก็เหมือนไม่อยู่
โลกนี้ช่างเหมือนภาพลวงตา
ฉันเหงา และอ้างว้าง
ทุกสิ่งอย่างรอบตัว
ยิ่งทำให้ฉันโดดเดี่ยวมากขึ้น
ฉันทุกทน และเจ็บปวด
ความจริงที่อยู่ตรงหน้าฉัน
เหมือนอยู่ในหนัง เสียยิ่งกว่าหนัง
But I'll hold on ช่วงเวลานี้
จงคว้ามันไว้และอย่าปล่อยไป
คุณและฉัน
ถึงเราจะต่างกัน แต่มันไม่ผิดเลย
ฉันตะโกนออกไป แต่ไม่มีเสียงก้องกลับมา
โลกนี้ช่างเหมือนห้องไร้เสียงสะท้อน *
ฉันเหนื่อย และท้อ
ความฝันของฉัน
ยิ่งทำให้ตัวเองตัวเล็กลงเรื่อย ๆ
ความเยือกเย็น และหนาวเหน็บ
แม้หัวใจของฉันจะอบอุ่น
แต่ความจริงแล้วมันคือก้อนน้ำแข็ง
But I'll hold on ช่วงเวลานี้
จงคว้ามันไว้และอย่าปล่อยไป
คุณและฉัน
ถึงเราจะต่างกัน แต่มันไม่ผิดเลย
Just hold on ช่วงเวลานี้
จงคว้ามันไว้และอย่าปล่อยไป
คุณและฉัน
ถึงเราจะต่างกัน แต่มันไม่ผิดเลย
*무향실 ห้องไร้เสียงสะท้อน คือห้องที่ปิดทึบด้วยอุปกรณ์และวัสดุซับเสียง
ที่ป้องกันทั้งเสียงภายในและภายนอกไม่ให้เล็ดรอดได้
คือเป็นห้องที่เงียบมากๆ ไร้เสียงก้อง เสียงสะท้อน และเสียงรบกวนใดๆ
Dream Catcher เป็นเพลงที่อยู่ในกระบวนการทำที่ยาวนานพอสมควร เพราะมันถูกพัฒนามาจากเพลง Hold On แทร็ค Unreleased ของวงที่เคยเล่นในงานคอนเสิร์ตปี 2007 จากเนื้อเพลงประโยคสุดท้ายของท่อนฮุค "우린 달랐을 뿐 잘못되진 않았어" "ถึงเราจะต่างกัน แต่มันไม่ผิดเลย" ประโยคอิมแพคที่เหมือนกันของทั้งสองเพลง ซึ่งเดิมทีเพลง Hold On มีแผนกำหนดวางไว้ในอัลบั้ม วงเลยเล่นเป็น sneak preview ในปีนั้นก่อน (ถ้าดูจากทามไลน์ ก็น่าจะเป็นอัลบั้ม Separation Anxiety) แต่ทำออกมายังไงก็ไม่ถูกใจสักที เพลงนี้เลยถูกพับเก็บไว้ จนต่อมา วงได้นำมาปัดฝุ่น แต่งเรียบเรียง บันทึกใหม่จนสำเร็จ และถูกบรรจุไว้ใน TRACK 4 กลายเป็นแทร็คโปรโมทของอัลบั้ม C ที่เราได้ฟังกัน
Hold On : CHRISTMAS IN NELL'S ROOM V (2007)
แม้ว่า Hold On จะมีถ้อยคำและกลิ่นอายความหม่นมัว ในงานดนตรีดั้งเดิมแบบของ NELL อยู่อย่างแนบแน่น แตกต่างจาก Dream Catcher ที่ให้สีสัน เต็มไปด้วยลูกเล่นของซาวด์ดนตรีแพรวพราว แต่เนื้อหาโดยรวมของทั้งสองเพลงยังคงคล้ายคลึง นั่นคือ ความโดดเดี่ยวของคนที่รู้สึกแปลกแยกจากโลก ซึ่งเพลง Dream Catcher ได้เน้นใจความสำคัญให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการพูดเรื่องของความฝัน อันตามมาด้วยความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับระหว่างทาง
มีความหมายของเพลงในหลาย ๆ ประโยคที่เราชอบมาก อย่าง "สิ่งที่ง่ายสำหรับบางคน แต่สำหรับฉันมันยากเสมอ" / "ฉันตะโกนออกไป แต่ไม่มีเสียงก้องกลับมา" / "ความฝันของฉัน ยิ่งทำให้ตัวเองตัวเล็กลงเรื่อย ๆ" มันคือเนื้อเพลงที่ให้ภาพความรู้สึกชัดเจน มีความเข้าอกเข้าใจมาก ๆ และโคตรรีเลท Dream Catcher ในความรู้สึกของเรา จึงเป็นเพลง NELL ที่พูดถึงความโดดเดี่ยว แต่ไม่ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว พูดถึงความเหนื่อยล้า แต่ไม่ให้ความรู้สึกเหนื่อยล้า เพราะตัวเพลงมันทำให้สัมผัสได้ว่า ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวบนโลกที่ struggle เพื่อความฝัน นี่ยังไม่รวมไปถึงท่อนฮุกที่ปลุกพลังใจ ฟิลแบบจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน ไม่ว่าโลกรอบตัวจะกดทับความฝันของพวกเราไว้แค่ไหน ฉันจะอดทน และผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เธอก็เหมือนกัน
NELL : Dream Catcher
ประกอบกับ Music Video ที่เล่นกับแสงสีสันหลากหลาย ภาพลวงตาซ้อนทับ ซึ่งมีทฤษฎีน่าสนใจจากแฟนเพลง ที่ตีความไว้ว่า MV ของเพลงนี้สอดแทรกเส้นทางดนตรีของวงเข้าไป เริ่มจากภาพขาวดำของคิมจงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเพลงทั้งหมดของ NELL) ที่แตกกระพริบ ตามด้วยสมาชิกวงที่เล่นดนตรีอยู่แยกจากกัน เต็มไปด้วยภาพความไม่ชัดเจน แตกเลือนลาง ซ้อนทับ กระจัดกระจายไปทั่ว จนทุกอย่างเริ่มก่อร่าง และเมื่อจงวานได้เดินเข้ามาในเฟรม ก็เหมือนกับการได้พบเจอสมาชิก จนพวกเขาได้ทำวงและเล่นดนตรีด้วยกัน ภาพก็เริ่มแจ่มชัด ให้สีสัน และสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งหมดลงล็อคกันอย่างพอดี เหมือนที่คิมจงวานเคยเล่าเสมอ ว่าการมีวงดนตรีเป็นความฝันของเขาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่เขาย้ายโรงเรียนบ่อย เมื่อได้กลับมาเรียนที่เกาหลีอีกครั้ง จนพบเจอกับเพื่อนกลุ่มนี้ และได้ฟอร์มวงดนตรี มันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก เขาคิดในตอนนั้นเลยว่า ฉันจะต้องปรับตัวอยู่ที่นี่ให้ได้ จนเกิดเป็นวง NELL และเริ่มต้นทำงานดนตรีด้วยกัน ตระเวนเล่นดนตรีด้วยกัน เจ้าตัวยอมรับอีกว่า ในช่วงวัยยี่สิบต้น ๆ เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะคนอื่นมักจะบอกว่าคุณทำไม่ได้* เขาต้องแบกรับกับความรู้สึกเหล่านี้ จนเกือบยอมแพ้และทิ้งความฝันไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีอะไรให้ทำมากมายนัก เลยพยายามทำในสิ่งที่ชอบต่อไป บวกกับที่วงมักพูดอยู่เสมอว่า การทำเพลงเป็นงานที่โดดเดี่ยวและเหนื่อยยากมาก เหมือน Dream Catcher กำลังบอกเล่า และพูดคุยกับเราอยู่กลาย ๆ ว่า NELL จะยึดมั่นและทำงานดนตรีต่อไปเรื่อย ๆ
" จงคว้ามันไว้และอย่าปล่อยไป "
NELL : Dream Catcher @ CHRISTMAS IN NELL'S ROOM 2017
Dream Catcher มีความเป็น theme song ที่แข็งแรงมาก ทำให้มันเป็น Title Track ที่สมบูรณ์แบบสุด ๆ สำหรับอัลบั้ม C ด้วยเนื้อหาและพาร์ทดนตรีที่เข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นอิเล็คทรอนิกส์ป็อปกรุ๊งกริ๊ง เมโลดี้ติดหู ท่อนเวิร์สเบา แต่ลงน้ำหนักที่ท่อนฮุค (ยังคงคล้ายกับ Hold On) ซึ่งเป็นพาร์ทที่เราเซอร์ไพรส์และตื่นเต้นมาก ๆ ตอนฟังครั้งแรก เพราะจู่ ๆ ก็มีการลงบีทกลองที่ชัดเจน มีการร้องลงคำแบบเน้น ๆ บวกกับท่อนคอรัส ที่ให้ความรู้สึกฮึกเหิม บิ้วท์มากจนอยากออกไปไฟท์กับอะไรสักอย่าง ซึ่งคิมจงวานได้จับสมาชิกวงบันทึกเสียงร้องท่อนคอรัสร่วมกัน เป็นอีกหนึ่งความพิเศษ เหมือนคนที่มีฝันเดียวกันร่วมร้องเพลงนี้ไปพร้อมกัน
NELL : Dream Catcher @ NELL'S SEASON 2019 'Quiet yet Loud'
NELL ดีไซน์เพลงนี้ไว้สำหรับการแสดงสดเป็นหลัก แม้แต่เนื้อเพลงท่อน "우린 달랐을 뿐 잘못되진 않았어" "ถึงเราจะต่างกัน แต่มันไม่ผิดเลย" ที่คนแต่งเองยังยอมรับว่า ประโยคมันจะแปลกหน่อย ๆ ถ้าจู่ ๆ ก็ร้องออกมา แต่มันดันเข้ากันและไปได้ดีกับเพลง โดยเฉพาะใน Live Performance ที่เต็มไปด้วยเอเนจี้ และบรรยากาศของความเป็นหมู่มวล เมื่อกลุ่มคนร่วมร้องตะโกนไปพร้อมกัน เหมือนพลังของความฝันได้ถูกส่งต่อจนฟุ้งกระจายไปทั่ว รวมกับอีกหนึ่งอิมเมจหลักของ Dream Catcher ที่วงนำเสนอใน live เสมอ นั่นคือความคัลเลอร์ฟูล ความแตกต่างของสีสันหลากหลาย แต่ก็สามารถสาดฟุ้งรวมกันได้อย่างสวยงาม ทั้งหมดขับเคลื่อนเพลง และส่งต่อพลังบวก ทำให้มันกลายเป็น fighting song ที่สมบูรณ์แบบ
NELL : Dream Catcher @ Pentaport Rock Festival 2022
นอกจากนี้ Dream Catcher ยังมีอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ งาน Re-arrange ที่วงใช้แสดงสดในงานอะคูสติกคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2018 'Home' ที่แม้จะมีการใช้กีตาร์ไฟฟ้าอยู่ แต่วงได้ปรับโทนดนตรีให้โปร่งขึ้น โดยเฉพาะโทนของเสียงกลองในคอนเสิร์ตนี้ที่โดดเด่นมาก ๆ ซึ่งในท่อนพีค เราก็ยังเห็นการลงน้ำหนักของเครื่องดนตรีทุกชิ้น สอดประสานเข้ากันอย่างแนบแน่น แต่นุ่มนวล เป็นความพุ่งทะยานแบบคลีน ๆ ที่ให้พลังงานและความฮึกเหิมไม่แพ้เวอร์ชั่นออริจินอลเลย
อีเวนท์ Acoustic Concert หรือ Acoustic Version ของวง NELL โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ
จะเห็นว่าไม่ได้เป็นเพียวอะคูสติกแบบ unplugged ซะทีเดียว แต่วงจะใช้คำว่า Acoustic
ให้ง่าย เพื่อแทนงานที่มีการเรียบเรียงใหม่ในเวอร์ชั่นที่ต่างจากเดิม
NELL : Dream Catcher (Acoustic Version) @ NELL'S SEASON 2018 'Home'
Dream Catcher (Acoustic Version) เป็นหนึ่งในงานรีอเรนจ์ของวง ที่แฟนเพลงชื่นชอบกันมากกก ด้วยมูดแอนโทนที่ดีงามอย่างที่บอก แต่เวอร์ชั่นนี้กลับไม่ถูกบรรจุลงในอีพีอัลบั้มอะคูสติก "행복했으면 좋겠어"* ที่วงปล่อยออกมาภายหลังคอนเสิร์ตในปี 2018 ทั้งที่มีการคาดการและเรียกร้องจากแฟนเพลงก็ตาม ซึ่งวง NELL ได้ให้เหตุผลว่า แม้พวกเขาจะชอบเวอร์ชั่นนี้มากเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถใส่ลงไปในอีพีชุดดังกล่าวได้ เนื่องจากอารมณ์ของเพลงนี้โดดเด่นเกินไป ทำให้มันหลุดโทนโดยรวมของอัลบั้ม พวกเราก็ได้แต่พยักหน้า ยิ้มแห้งด้วยความเจ็บปวด ฮ่าาาา แต่เราก็นับถือวงตรงนี้ เพราะอัลบั้มของ NELL จะมีความเป็นกลุ่มก้อนเสมอ ด้วยคอนเซปเนื้อหาหรือแนวทางดนตรีใด ๆ ก็ตาม วง NELL ไม่เคยออกอัลบั้มเต็มในแนว Compilation Single ไม่เคยเก็บรวมเพลงที่เคยออกมาแล้ว ยัดเข้าไปดื้อ ๆ นี่ต้องมีคลังเพลงเก็บไว้เยอะขนาดไหน* ถึงคัดออกได้อย่างเลือดเย็นปานนี้
*คิมจงวานเคยบอกว่า พี่แกมีเพลงที่แต่งเก็บไว้ยังไม่ได้ปล่อย อีกประมาณ 800 เพลง
NELL : Dream Catcher @ ONSTAGE
เพลงของ NELL หลายเพลง อาจเต็มไปด้วยแง่มุมดาร์คไซด์ และการมองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะเพลงที่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ และความเศร้า รสของมันยังคงขมปร่าติดปลายลิ้น แม้ว่าเราจะกล้ำกลืนมันลงไปแล้วก็ตาม
แต่พอเป็นเพลง NELL ที่พูดถึงเรื่องความฝัน เราจะเห็นแสงเล็ก ๆ ของคนตัวเล็ก ๆ ที่เปล่งประกายเสมอ ความฝันในเพลงของ NELL จึงมักให้เซ้นส์ในด้านบวก เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังใจ แม้ตัวเพลงอาจไม่ได้บอกว่าปลายทางสำเร็จสมใจหวังหรือไม่ แต่เราจะสัมผัสได้ถึง พลังของความฝัน ที่หล่อเลี้ยง ชุบชีวิตชีวาของใครหลายคนให้ชุ่มชื่น เพียงแค่ได้ฝัน
" Keep on Dreaming, boy "
" จงมีความฝัน ขอให้นายปกป้องมันเอาไว้ "
.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in