The Paper Magician | เวทมนต์คนคุมกระดาษ - 2AM Book Club: รีวิวหนังสือตามอารมณ์

โลกเวทมนต์ในอังกฤษยุคเก่า เป็นที่ๆทุกคนมีสิทธิ์เรียนรู้เพื่อจะควบคุมวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ ไม่ว่าจะกระดาษ แก้ว เหล็ก หรือเส้นใยสังเคราะห์ .. ถ้าเราเลือกได้ จะเป็นนัทเวทย์ด้านไหนดี?
The Paper Magician ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าตัวเอกของเราเป็นนักเวทย์กระดาษ หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในซีรี่ย์ The Paper Magician Trilogy โดย Charlie N. Holmberg หน้าตาของหนังสือทั้งสามเล่มเป็นแบบนี้...

เรื่องย่อ
(แปลมาจากภาษาอังกฤษอีกที ถ้าผิดขออภัยเนอะ)
Ceony Twill เดินทางมาที่กระท่อมของ นักเวทย์ Emery Thane ด้วยใจที่แตกสลาย เพราะเธอเป็นถึงนักเรียนหัวกะทิจาก Tagis Praff School for the Magically Inclined แต่กลับถูกมอบหมายให้มาเป็นนักเวทย์กระดาษฝึกหัด ทั้งๆที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากฝึกเวทมนต์โลหะ และเมื่อเธอผ่านพิธี bonding กับกระดาษแล้ว มันจะเป็นเวทมนต์แขนงเดียวที่เธอใช้ได้.. ตลอดกาล
แต่แล้ว Ceony ก็ต้องอึ้งกับความมหัศจรรย์ที่เธอได้เรียนรู้จาก Thane นักเวทย์กระดาษที่ทั้งแปลกประหลาดและใจดี เขาสอนเธอให้สร้างสิ่งมีชีวิตจากกระดาษ นำเรื่องราวจากหนังสือออกมาเป็นภาพ หรือแม้กระทั่งทำนายโชคชะตา ทว่าในขณะที่เธอค้นพบสิ่งเหล่านี้ Ceony ก็ได้เรียนรู้ถึงอันตรายที่เหนือความคาดหมายจากเวทมนต์ต้องห้าม
เมื่อ Excisioner - ผู้ฝึกเวทมนต์ดำจากเลือด - ได้บุกมากระชากหัวใจออกจากอกของ Thane .. Ceony ต้องช่วยชีวิตครูฝึกของเธอ ทั้งต้องเผชิญหน้ากับเวทมนต์ชั่วร้ายและเจอกับการผจญภัยที่จะพาเธอออกเดินทางสู่ใจกลางหัวใจของ Thane ซึ่งนั่นจะเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของผู้ชายคนนี้
เราตื่นเต้นที่ซื้อ e-book มาในราคาพิเศษ หมดทั้งซีรี่ย์ 3 เล่ม 196 บาทเอง แล้วหลังอ่านจบขอบอกเลยว่า เราดีใจมากที่ไม่ได้ซื้อราคาเต็ม ..... เพราะคงแอบเสียดายเงิน

คือ ฟังเผินๆแล้วเนื้อเรื่องดูน่าสนใจและมี potential สูง แต่พออ่านแล้วเรากลับรู้สึกเฉยๆและเสียดายในความเป็นไปได้ของพล็อตซะอย่างงั้น สาเหตุอ่ะเหรอ.. มา ขอไล่ให้ฟังเป็นข้อๆละกันเนอะ
1. The Paper Magician ถูกจัดว่าเป็น Young Adult, fantasy, historical, romance fiction แต่เรารู้สึกเหมือนเจอแค่ YA + fantasy เท่านั้น Romance ออกมาน้อยนิดมาก ส่วน Historical ในเรื่องแทบไม่เคยพูดถึงช่วงเวลาชัดเจนด้วยซ้ำ
2. และจากความ Romance ที่แทบไม่มา (คาดว่าเพราะเป็นเล่มแรกด้วย ความสัมพันธ์เลยยังไม่ลงลึก) เราไม่รู้สึกถึงเคมีระหว่าง Ceony และ Thane เลย ไม่มี spark และมีโมเม้นน่ากรี๊ดกร๊าดที่ไม่ชัดมาก แค่ไม่กี่ฉาก เราไม่อินไปกับความสัมพันธ์เท่าไหร่ พระเอกเป็นคนใจดีนะ แต่เค้าเหมือนคนใจดีโดยธรรมชาติ ไม่ใช่มีอะไรพิเศษแต่กับนางเอก
3. Ceony นางเอกเหมือนจะสตรอง แต่เรียกหาพระเอกบ่อยเกิน อาจจะเป็นเพราะส่วนตัวเราชอบ strong female lead ด้วย คือตัว Ceony เองก็มีส่วนกล้าตัดสินใจอยู่บ้างจากการไปช่วยกู้หัวใจของพระเอกคนเดียว แต่! แต่ระหว่างนั้น นางเรียกร้องหาและภาวนาขอความช่วยเหลือจากพระเอกแทบจะตลอด เรารู้สึกว่าทัศนคติของนาง น่าจะเป็นไปในเชิง 'nothing can save me but myself' อะไรแบบนี้มากกว่า เลยค่อนข้างผิดหวังที่บ่อยครั้งนางต้องการพึ่งพาพระเอกซึ่งไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย
4. คาแร็คเตอร์ตื้นไปหน่อย ทั้งหมดของเรื่องถูกบรรยายในด้านสิ่งที่มองเห็น มากกว่าสิ่งที่ตัวละครนึกคิดหรือรู้สึก เจตนารมณ์ของตัวร้าย เบื้องลึกของนางเอกมาน้อยมาก ซึ่งอันนี้ก็อาจจะต้องรอดูในเล่มต่อไปของซีรี่ย์นี้ด้วยแหละ เพราะปริศนาทั้งหลายก็ถูกทิ้งไว้เพื่อให้คนอ่านติดตามในเล่มถัดไป แต่ถึงอย่างงั้น..
5. วิธีการวางเรื่องมันไม่ค่อยน่าตามเลย การตัดจบแต่ละบท หรือแม้กระทั่งตอนจบของเล่ม เราไม่รู้สึกว่ามันเป็น cliffhanger เท่าไหร่ เนื้อเรื่องเดาได้ค่อนข้างง่ายด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เราปลื้มในระบบเวทมนต์ที่ดูสร้างสรรค์ของเรื่องนี้ ชอบการจำกัดความที่คนเราถึงจะมีเวทมนต์ แต่ก็ควบคุมได้แค่ man-made material เท่านั้น เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่ายังไงมนุษย์ก็ไม่สามารถอยู่เหนือธรรมชาติได้ แม้กระทั่งในโลกที่มีสิ่งมหัศจรรย์อย่างเวทมนต์ก็ตาม

Excisioner หรือผู้ฝึกมนต์ดำต้องห้าม เป็นอีกจุดที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีสีสันขึ้นมาหน่อยสำหรับเรา มันมีความ creepy แฝงอยู่ เพราะนักเวทย์ประเภทนี้ต้องใช้เลือดและเนื้อของคนหรือสัตว์ มันเลยจะมีฉากน่าขนลุกอยู่บ้าง ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อจนเกินไป

เราอ่านรีวิวของคนอื่นใน goodreads เค้าบอกกันว่าหนังสือเล่มนี้เหมือน The Night Circus + Daddy's Long Legs + มีกลิ่นอายของ Harry Potter หน่อยๆ ซึ่งเราไม่เถียงเลยว่ามันก็มีเจืออยู่อย่างละนิดละหน่อยจริงๆ setting ของเรื่องที่อยู่ในอังกฤษชวนให้นึกถึง Harry ได้ง่ายๆ (จะว่าไป โลกเวทมนต์ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งอังกฤษแทบทั้งนั้นเนอะ) แต่ก็แค่แรกๆเท่านั้นเอง ช่วงกลางถึงท้ายเรื่องไปคนละทางเลย

ส่วนการเขียนของ Charlie N. Holmberg เรียบง่าย ใช้ศัพท์ไม่ยาก ทั้งเรื่องถูกอธิบายจากมุมมองของนางเอกเพียงคนเดียว และเน้นการบรรยายให้เห็นภาพชัดเจน แต่ละบทไม่ยาวมาก ทำให้อ่านจบไวสุดๆ เราอาจจะไม่ได้ปลื้มปริ่มกับเล่มนี้มาก แต่ก็อ่านจบในเวลาแค่แป๊บเดียวเอง

บ่นหนังสือไปซะเยอะ เอาจริงๆเราคิดว่าจะยังอ่านเล่มที่สองของซีรี่ย์นี้ต่อไป สาเหตุหลักๆคือเรายังเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ของระบบเวทมนต์และความสร้างสรรค์ของเวทมนต์กระดาษที่คนเขียนใส่ลงไป เรายังหวังว่าความ historical + romance จะเพิ่มขึ้นด้วย เพราะอ่านจากรีวิวใน goodreads แล้ว เล่มสองกับสามคะแนนสูงกว่าเล่มแรกอยู่แหละ เราอาจจะด่วนตัดสินใจไปนิด ก็เลยยังอยากให้โอกาสมันอยู่
เน้นๆอีกที สิ่งที่เราชอบและไม่ชอบใน The Paper Magician ก็คือ...

The YESSS
- Magic system - มันสร้างสรรค์ดีนะ ทำให้เราอยากเห็นมันมากกว่านี้ ในเล่มหนึ่งนี่มีแค่ Paper magic ที่ถูกอธิบาย เราเลยรอที่จะอ่านเกี่ยวกับ glass, metal magic หรือแขนงอื่นๆอีก
- ความเป็นไปได้ของพล็อต - มาจาก Magic system ที่ดีนั่นแหละ มันมีโอกาสที่จะกอบกู้ตัวเองหลังจากนี้ (หวังว่านะ T_T)
- เห็นภาพชัดเจน - วิธีเขียนเน้นอธิบายภาพให้เห็นละเอียดๆ
- ศัพท์ง่าย
The NAHHH
- นิสัยนางเอก - อันนี้ค่อนข้างจะส่วนตัว แต่เราไม่ค่อยถูกจริตกับนางเอกเพราะทัศนคตินางไม่คงที่ สลับไปสลับมา (แล้วก็ใจง่ายด้วย..) นางอาจจะค่อยๆพัฒนาขึ้นในเล่มสอง ไม่รู้เหมือนกัน ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
- เคมีระหว่างพระ-นาง น้อยมาก - เทียบกับ The Night Circus แล้วที่พระนางอยู่ด้วยกันนิดเดียว แต่คนเขียนสามารถทำให้เรารู้สึกถึง spark .. เล่มนี้สอบตกอย่างรุนแรง เพราะทั้ง Ceony + Thane มีโอกาสใกล้ชิดกันเยอะมาก เรากลับไม่รู้สึกถึงความเข้ากันได้หรืออารมณ์อะไรเลย
- เนื้อเรื่องคาดเดาได้ง่าย - ช่วงกลางๆนี่แอบน่าเบื่อเลยเพราะใช้มุขซ้ำๆ ดำเนินเรื่องไปในทิศทางเดิมๆ
- Cliffhanger น้อย - การจบบทแต่ละบท หรือกระทั่งตอนจบเล่มไม่ได้ชวนให้อ่านต่อไปเท่าไหร่
สรุปแล้วววว.... ?
เป็นหนังสือที่เราคาดหวังไว้ ด้วยพล็อตที่น่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องและตัวละครกลับถูกวางออกมาไม่ดีเท่าที่ควร (อาจจะเพราะเป็นเล่มแรกของซีรี่ย์ด้วย) .. เรื่องถูกอธิบายจากมุมมองของนางเอกแต่เรากลับได้รู้จักพระเอกมากกว่า ช่วงกลางๆใช้มุขซ้ำจนคาดเดาเรื่องได้ง่าย ถ้าไม่ได้ระบบเวทมนต์ที่น่าสนใจหรือความพี้คของมนต์ดำ เราอาจพาลเลิกอ่านไปแล้ว หนังสือกอบกู้ตัวเองขึ้นมาหน่อยด้วยตอนจบที่เหมือนจะตื่นเต้นขึ้นมานิดนึง ถึงอย่างงั้นก็ยังทิ้งท้ายได้ไม่น่าติดตามเท่าไหร่
มันออกแนวเป็น pleasure read แบบไม่หนักสมองหรืออารมณ์ (ถ้าไม่นับความขุ่นมัวกับอินางเอก...) เราแนะนำว่าอย่าซื้อหนังสือราคาเต็มเลยค่ะ ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ รูปเล่มก็ไม่ได้สวยมากอะไร

เอาล่ะ เรทคะแนนครั้งนี้ไม่ยากเลยเพราะมีในใจตั้งแต่กลางเล่ม
- เนื้อเรื่อง - 2.7 / 5
- เนื้อเรื่อง - สำหรับคอนิยายรักแฟนตาซี 1.8 / 5
- ความสร้างสรรค์ของเวทมนต์ - 3.9 / 5
- ตัวละคร - 2.5 / 5
- ความง่ายของศัพท์ - 4.3 / 5
- รูปเล่ม 2.5 / 5
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างในรีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆค่ะ ถ้ามีใครอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วชอบ, คิดต่าง หรือ คิดเหมือน อะไรยังไง ก็คอมเม้นท์บอกความเห็นกันได้นะ :) ยินดีรับฟังทุกอย่างเลย

แล้วก็..มีข่าวแว่วตั้งแต่ปี 2016 ว่า Disney ได้ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์หนัง The Paper Magician ไปแล้ว แต่ยังไม่มีอัพเดทอะไร ถ้าเป็นหนังเราก็คงไปดูแหละ เพราะมันก็ไม่ได้มีฉากร๊ากกกกรักแบบที่ดิสนี่ย์จะรับไม่ได้ คงจะเน้นผจญภัย กับภาพสวยๆ มากกว่า

- - - - - - - - - -

ข้อมูลหนังสือปิดท้าย อ้าย อ้ายยยยย
ชื่อเรื่อง: The Paper Magician
ผู้แต่ง: Charlie N. Holmberg
ISBN: 9781477823835
ราคา: | ร้าน Kinokuniya | 535 บาท
| ร้าน Asiabooks | 622 บาท
| e-book จาก amazon | ถ้าไม่ลดก็ประมาณ $5 = 180 บาท

ยังไม่มีแปลไทยนะคะ

- - - ขอให้อ่านให้สนุก - - -

| ภาพ Header จากเว็บนี้ |

| ภาพ Header จากเว็บนี้ |

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น