เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2AM Book Club: รีวิวหนังสือตามอารมณ์memiann
Jane Eyre | ชีวิตสุดสตรองของนางสาวเจน
  • ตอนอายุ 16 อ่านไม่รู้เรื่อง กลับมาอ่านอีกทีตอน 23 .. ก็ใช่ว่าจะเข้าใจหมดอยู่ดี (เอ้า?!?!!!?) - - เล่มแรกของปี 2017 ขอประเดิมด้วย Jane Eyre ที่นับว่าเป็น unfinished business ของเรา อ่านมันไม่จบตอนม.3 ... ตอนนี้เรียนจบแล้ว ลองอีกสักรอบจะเป็นไรไป?!

    เรามีความคึก อยากเริ่มต้นปีด้วยการอ่านหนังสือที่ท้าทายตัวเอง ถ้าเป็นแต่ก่อนคงไม่เชื่อแน่ๆว่า วันดีคืนดีเราจะตั้งใจหยิบหนังสือ Classic เล่มหนา ศัพท์โหด อย่าง Jane Eyre ขึ้นมาอ่านเองโดยไม่มีใครบังคับ 

    และเพราะตอนเรียนต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษ เราเลยกลับมาหามันด้วยฉบับ original แรกสุดไม่มีเสริมเติมแต่งปรับคำใดๆ ด้วยความคิดที่ว่า "ฉันต้องพูดได้เต็มปากว่าอ่าน 'Jane Eyre' โดย Charlotte Brontë ไม่ใช่ 'เจน แอร์ รักแท้ชั่วนิรันทร์' หรือ 'ความรักของเจนแอร์' !!"  

    มุ่งมั่นมากว่าต้องพิชิตมันให้ได้

    และค้นพบว่า
    .
    .
    .
    ผ่านมา 7 ปี ก็ยังอ่านรู้บ้างไม่รู้เรื่องบ้างอยู่ดี (55555+ หัวเราะขมขื่นให้ตัวเองดังๆ) 

    แต่ก็ดันทุรังอ่านจบจนได้! หนักหนาเอาการเลย ไหนๆก็สำเร็จแล้วต้องจารึกความภูมิใจด้วยการเขียนรีวิวซะหน่อย 

    เรื่องย่อ
    (แปลมาจากภาษาอังกฤษอีกที ถ้าผิดขออภัยนะคะ) 

    “Jane Eyre” เด็กสาวผู้เกิดมาในครอบครัวยากจนและถูกรับเลี้ยงโดยคุณป้าใจร้าย ได้ตัดสินใจไปเป็นครูพี่เลี้ยงที่ Thornfield เพื่อหนีจากชีวิตเก่าของเธอ ที่นั่นเธอได้เจอกับ Mr. Rochester เจ้านายที่เต็มไปด้วยปริศนา ผู้ซึ่งชอบต่อปากต่อคำกับเธอเป็นประจำ 

    ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากความไม่ชอบพอในตอนแรก กลับค่อยๆพัฒนาเป็นความรักอย่างช้าๆ แต่ Jane กลับต้องเจออุปสรรค์เมื่อความลับจากอดีตของ Rochester ตามกลับมาหลอกหลอนและอาจทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องสั่นคลอน ..ถึงเวลาที่ Jane จะต้องตัดสินใจเลือก ว่าจะทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้อง หรือเดินจากไปและเสียคนที่เธอรักไปตลอดกาล

    .. เอาภาษาบ้านๆ หนังสือ Jane Eyre ก็คือเรื่องเล่าชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของนางสาวเจนแหละค่ะ :D


  • ว่ากันตรงๆ... โอ้ยยย หนังสืออะไรศัพท์แสงแรงกล้ามาก แทบจะยอมแพ้กลางทาง แค้นจริงๆที่เวลา 7  ปีผ่านไป เราก็ยังงงกับมันอยู่ดี!! คือเราเข้าใจเนื้อหาโดยรวมและตีความได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีรายละเอียดที่เรามึนตึ้บอยู่ (นี่ขนาดเราอ่านใน kindle ยังกดความหมายศัพท์มือระวิง ถ้าอ่านหนังสือเป็นเล่มนี่มีปวดสมองแน่นอน)

    นอกจากศัพท์แล้วสิ่งที่สร้างความลำบากลำบนในการอ่านของเราคือ การพูดถึงศาสนาที่แฝงอยู่อย่างหนักหน่วงมากกกกมากกกกกกกก คือมันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่เราไม่ค่อยถูกจริตเท่าไหร่ เลยพาลทำให้เบื่อ ผลคือเราอ่านข้ามๆบางตรงที่ลงลึกเรื่องพระเจ้า ศาสนา แสงแห่งธรรม สวรรค์ หรือบาป ไปเลย.. ไม่ใช่ว่าลบหลู่นะ ที่จริงแล้วเรานับถือในความเลื่อมใสของ Jane Eyre ด้วยซ้ำ แต่คือเราไม่อินจริงๆค่ะ 

    บางช่วงของเนื้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนก่อนจะมีปริศนาจาก Mr.Rochester ค่อนข้างเวิ่นเว้อ ช้าเนิบและน่าเบื่อ ถ้าไม่ได้คาแร็คเตอร์ที่แข็งแรงของ Jane ช่วยฉุดเอาไว้ เราคงเลิกอ่าน 

    และพูดถึงคาแร็คแล้ว Charlotte Brontë ผู้เขียน สร้างตัวตน Jane Eyre ออกมาได้ดีมาก ความรับผิดชอบชั่วดี ศีลธรรม ความถูกต้อง การใช้เหตุและผล รวมไปถึงความรู้สึก ทั้งหมดนี้ถูกชั่งอยู่ในตัวเจนและปล่อยออกมาได้ดี สิ่งที่เราปลื้มเกี่ยวกับตัวเจนมากๆเลยคือ นางมีความคิดและอุดมคติเป็นของตัวเอง อาจจะมีสับสนหลงทางไปบ้าง แต่ถ้าได้ตัดสินใจแล้วนางก็มั่นคงมาก จนถึงขั้นหัวแข็ง 

    คำพูดแรกเลยที่ทำเราต้องอึ้งในตัวตนของนาง คือตอนที่ 

    **Spoiler... possibly ALAERT?!? จริงๆก็ไม่สปอยเท่าไหร่หรอก**


    Jane ในวัยเด็กถูกถามว่า มีญาติคนอื่นนอกจากคุณป้าใจร้ายไหม? ถ้ามีโอกาส อยากไปอยู่กับญาติคนนั้น(ที่ยากจน) หรือเปล่า?

    นางตอบว่าไม่ นางไม่อยากอยู่กับคนจน 
    สำหรับนางซึ่งเป็นเด็กในตอนนั้น ความยากจนดูแย่มาก เสื้อผ้าขาดๆ อาหารไม่มีกิน มรรยาทไม่ดี ไม่มีบ้านอุ่นๆให้อยู่ คือต่อให้ครอบครัวจนๆใจดีกับนาง นางก็จะไม่ไปและขออยู่ในบ้านป้าใจร้ายที่มีอันจะกินต่อ เพราะ "I was not heroic enough to purchase liberty at the price of caste" .. นางไม่กล้าพอ ที่จะยอมแลกอิสระกับชนชั้นทางสังคม 


    ซึ่งเราแบบว่า อุ้ววว นี่คือความคิดของนางเหรอ เป็น realist มากๆ ปกติแล้วนางเอกที่ถูกเลี้ยงแบบรันทดจะดูจิตใจดีจนน่าสงสาร แบบว่า ชั้นจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อไปจากครอบครัวใจร้ายนี้ให้ได้!! แต่เจนไม่เลย ขอสบายไว้ก่อน นางรู้ตัวว่าต้องอยู่ต้องกิน




    **Spoiler ENDS**


    เราโอเคมากกับการที่คาแร็คเตอร์นางดูน่าสงสาร แต่ไม่ได้รันทดจนน้ำเน่า เราชอบที่นางทนได้กับการโดนกดขี่ ..ถ้าไม่ไหวจริงๆก็สู้กลับ แต่ไม่ไฟ่ว์พร่ำเพื่อจนกร้าวร้าว เวลาโดนใครว่าก็หาโอกาส redeem ตัวเองกลับมาจนได้ นี่ทำให้เราสนใจในตัวของเจนและพอจะเข้าใจเลยว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ขึ้นหิ้งในฐานะหนังสือที่ดี คือมันแหกกฏการวางตัวของผู้หญิงในสมัยนั้นไปประมาณนึงเลย มันแสดงออกถึงความจริงใจต่อตัวเอง และการมี self-respect 

    นับว่า Jane Eyre เป็นผู้หญิงที่สตรองมาก ไม่ว่าจะผ่านอะไร นางก็ยังมีสติที่จะคิดและเลือกใช้ชีวิตตามแนวทางของนาง 

    ในขณะที่ความรักในเรื่อง ระหว่าง Jane และ Mr.Rochester เป็นอะไรที่เราคงไม่เข้าใจถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตอนอายุ 16 มันเป็นความสัมพันธ์ที่หน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ (เพราะทั้งสองคนถูกย้ำบ่อยมากๆว่า not handsome) แต่มันเป็นการรักคนที่สามารถ fulfill เรา emotionally ได้ เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดจากการยอมรับและเข้าใจตัวตนของกันและกัน ทั้งสองคนทันเกมกัน ต่อปากต่อคำกันฉาดๆๆ รับส่งกันดีมากกกกก เราสนุกกับการอ่านเวลาสองคนนี้เค้าคุยกันนะ ถึงแม้ว่าในตอนแรก Mr.Rochester จะพูดบ้าไรออกมาไม่รู้ เราโคตรจะไม่เข้าใจ ขนาดเจนยังบ่นออกมาเลยว่าไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเราในฐานะคนอ่านนี่ไม่เก็ทก็ไม่แปลกเลย 
    (อดคิดไม่ได้ว่าถ้า Jane Eyre ถูกเซ็ตอยู่ในยุคปัจจุบัน ช่วงสนทนานี่น่าจะมันส์หยดน่าดู เหมือนมองดูลูกเทนนิสถูกตบข้ามไปข้ามมา)

    เราแอบคิดว่ามันผิดพลาดนิดหน่อยที่หนังสือ Jane Eyre ถูกเน้นย้ำ (โดยเฉพาะในชื่อเรื่องภาษาไทย) ว่ามันเป็นเรื่องราวรักๆของเจน ทั้งที่จริงๆแล้วเราเห็นว่าความรักมันเป็นแค่ส่วนนึงในชีวิตนางมากกว่า เนื้อเรื่องทั้งหมดถูกสร้างอยู่บนทัศนคติ ความคิด และการยึดมั่นในความเชื่อของนาง มากกว่าความเพ้อฝันหรือหลงไหลในความรัก น้ำหนักถูกทิ้งไปที่ตัวตนของเจน และศาสนาที่นางยึดมั่น สิ่งที่เด่นชัดคือการตัดสินใจของนางต่อเรื่องราวต่างๆในชีวิต ซึ่งมันลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ว่า เอ๊ะ ฉันรักเขาไหม ฉันอยู่กับเขาได้ไหม ฉันคู่ควรกับเขารึเปล่า อะไรแบบนั้นเลย 

    น่าเศร้านิดหน่อยที่หลายครั้ง Jane Eyre ถูกมองว่าเป็นนิยายรักเพียงอย่างเดียว ทั้งที่มันคือหนังสือชีวิตที่สุดสตรองของนางสาวเจน :')
  • ปากก็บอกว่าอ่านไม่เก็ต แต่ก็เข้าใจขนาดมาบ่นได้แหละน่าาา นี่คือสิ่งที่เราชอบและไม่ชอบโดยรวมของหนังสือเล่มนี้

    The YESSS
    • ตัวตนและความนึกคิดของ Jane Eyre น่าสนใจ และน่านับถือมากๆ
    • ช่วงที่ Jane & Rochester อยู่ด้วยกัน ความทันกัน ทำให้บางครั้งก็เพลินและมีฟินจิกหมอนบ้าง ไม่น่าเชื่อเลยว่าก็มี swooning moments เหมือนกันนะเนี่ย โดยเฉพาะฉาก Rochester สารภาพรักกับตอนง้อค่ะคุณขาาาา ... "I was vexed with you for getting out of my sight."  โอย ยอม
    • ข้อคิดในเรื่อง เค้าบอกกันว่า Jane Eyre เป็นหนังสือที่ 'make a girl into a woman' ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ
    • "Dear reader" เราชอบมาก เวลา Jane address ถึงผู้อ่านแบบนี้ มันกึ่งๆคล้าย breaking fourth wall หน่อยๆแต่ก็ไม่เชิง พวกความคิดนางในวงเล็บก็ทำให้เราเข้าถึงตัวตนนางดี
    • ตอนจบ สรุปให้หมดเลยว่าใครไปทำไรต่อ เป็นยังไงหลังจากนั้น ซึ่งดี ไม่ค้างคา

    The NAHHH
    • ศัพท์และภาษา โอโห อ่านไปอยากเอาหัวกระแทก dictionary ไป จะเป็นบ้า ทั้งยาก ทั้งงง อะไรกัน?!?!?!!!
    • ความเนิบ เวิ่น ช้า และเพ้อในบางครั้ง 
    • หนักศาสนา อันนี้เราไม่อินเองแหละ แต่ถ้าใครชอบก็ไม่ว่ากัน


    **SPOILER ALERT!!**
    **SPOILER ALERT!!**

    • ชีวิตของ Rochester ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะเราเกิดในคนละยุค ความเคร่งของศาสนาก็ไม่เหมือนกันด้วยมั้ง ส่วนตัวเราว่าความรันทดที่ชีวิตเค้าเจอมันมากเกินไปสักหน่อย เรารู้สึกว่าเค้าก็ไม่ได้บาปหนาอะไรมากมาย จะโดนเยอะถึงขนาดนั้น (....โดนพ่อบังคับแต่งเมีย เมียคนแรกบ้า มีกิ๊ก กิ๊กก็มีชู้อีก พอจะแต่งเมียใหม่ เอ้า เมียหนี ยังไม่ทันหยุดหายใจ เฮ้ย บ้านไฟไหม้ ตาบอด มือโดนตัด) เฮ้ยยยยยย 
    • ตัวละครชื่อ John Rivers เอ่อ ตี poker face อยู่นั่นแหละ ตอนแรกก็ดี ตอนหลังนี่กดดันกันจ๊างลำไยมาก



    **SPOILER ENDS**
    **SPOILER ENDS**

  • สรุปแล้วววว.... ?
    ในฐานะผู้หญิง เราแนะนำว่า Jane Eyre เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต ตามประสานิยายเก่า Classic แน่นอนว่ามันมีจุดที่เนิบช้า น่าเบื่อ ชวนง่วง ไหนจะภาษาที่ยากจนปวดสมองกับเรื่องศาสนาที่หนักอึ้ง ซึ่งอาจจะทำให้พาลเลิกอ่านได้ง่ายๆ แต่ถ้ามองผ่านมันลึกลงไป ก็จะเจอข้อคิดหลายอย่างแฝงอยู่ 
    คาแร็คเตอร์ของ Jane เป็นสิ่งที่ชักจูงเราให้อ่านต่อ เพราะนางทำให้เราสนใจว่าการตัดสินใจครั้งต่อไปของนางจะนำพาชีวิตนางไปยังจุดไหน ความรักของนางมีจุดฟินนิดหน่อยพอประมาณ ก็มีช่วงที่เพลินบ้างสลับกับอาการคลั่งอยากหยุดอ่านนี่แหละ

    สำหรับ Rate คะแนนของ Jane Eyre ให้ยากอยู่เหมือนกัน ใจเราค่อนข้างกลางๆกับมันนะ ไม่รักไม่เกลียด แต่ดีใจที่ได้อ่าน
    • เนื้อหา แบบตัดเรื่องศาสนาและความไม่เข้าใจเพราะลำไยศัพท์ทิ้งไป - 3.6 / 5
    • แต่ถ้าไม่ตัดอะไร เอาเนื้อหาทั้งหมดเพียวๆ - 2.5 / 5
    • ความแหวกในความ classic - 3.8 / 5
    • ความง่ายของศัพท์ (5 = ง่ายที่สุด) - 0.5 / 5 .....
    • รูปเล่ม - ? / 5 ให้ไม่ได้เพราะอ่านเป็น e-book

    เพราะเป็น Classic หนังสือเล่มนี้เลยมีหลาย edition ทั้งปกสวยและไม่สวย โบราณบ้างโมเดิร์นบ้าง เท่าที่ดูมาเราถูกใจปกนี้มากสุดเลย เป็นของ Penguin Classic รุ่น 200th Anniversary Edition 

    | ภาพจาก penguin.com.au |
    นอกจากนี้ Jane Eyre ยังมี retelling เย้อะแยะเต็มไปหมด แอบสารภาพว่าเหตุผลนึงที่เราหยิบฉบับ original มาอ่านเพราะเราสนใจเรื่อง "Jane Steele" โดย Lyndsey Faye มากๆ เป็น retelling ของ Jane Eyre ที่เจนฉบับนี้เป็นฆาตกรที่ฆ่าป้าของตัวเอง! เห่ยยย น่าอ่านมากกกกกก


    - - - - - - - - - -

    และแน่นอนว่า Jane Eyre ถูกสร้างเป็นหนังหลายต่อหลายหนแล้ว เราเองก็ไม่เคยดู แต่ที่เห็นล่าสุดแล้วนอยมากคือของปี 2011 
    | ภาพจากเว็บ impawards.com |

    ส่วนไหนในตัว Rochester หรือ Jane ที่มัน 'not handsome' เนี่ย ถามจริง?! คือทั้งสองคนไม่หล่อไม่สวยในหนังสือ ไหงในหนังงี้มาซะปิ๊งเลยยย


    - - - - - - - - - -

    ข้อมูลหนังสือปิดท้าย
    ฉบับภาษาอังกฤษ
    ชื่อหนังสือ: Jane Eyre 
    ผู้แต่ง: Charlotte Brontë

    ครั้งนี้เราอ่านเป็น e-book ซึ่งโหลดฟรีมาจาก amazon
    หนังสือ classic ถ้าจับจังหวะดีๆ amazon เค้าจะปล่อยให้โหลดฟรี มีเยอะเลย ลองเช็คดูนะ 

    อีกคำแนะนำคือ ด้วยความหนาของหนังสือและภาษาที่เข้าถึงยาก เราว่าอ่านเป็น e-book น่าจะสะดวกที่สุดแล้ว หรือไม่ก็ลองหา edition ของเด็ก หรือรุ่นที่ศัพท์ถูกปรับให้ง่ายขึ้นก็ได้ คงทำให้ประสบการณ์การอ่าน Jane Eyre ไม่สาหัสเท่าเรา :D 

    - - - ขอให้อ่านให้สนุก - - -

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
tidachan (@tidachan)
สุดยอดเลยค่ะ นับถือมาก ๆ ที่อ่านจนจบ
เรารู้จักเรื่องนี้มานานแล้ว เพิ่งมาเริ่มอ่านจริง ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว แต่อ่านได้ไม่กี่บทก็ถอดใจและวางทิ้งไว้ค่ะ เริ่มกลับมาอ่านจริงจังอีกทีปีนี้ พออ่านได้ประมาณ 150 หน้าจาก 400 กว่าหน้า ก็เริ่มถอดใจอีกแล้วค่ะ แต่พออ่านรีวิวนี้แล้วรู้สึกฮึกเหิมอยากอ่านต่อให้จบเลยค่ะ!
ป.ล. เราอ่านฉบับ original แบบเป็นเล่มเลยค่ะ เห็นด้วยว่าศัพท์แสงที่ไม่คุ้นตามีเยอะจริง แถมเล่มที่เราอ่าน ตัวหนังสือก็เล็กเหลือเกิน อ่านย้ากยากกก
memiann (@MeMiann)
@tidachan ตัวช่วยหลักๆที่ทำให้เราอ่านจบคือเพราะอ่านบน kindle เลยค่ะ 55 เวลาเจอศัพท์คำไหนไม่รู้จัก (ซึ่งเยอะมาก.....) ก็กดหาความหมายได้เลยแบบเร็วสุดๆ ถ้าอ่านเป็นเล่มคงจะถอดใจเหมือนกันค่ะเพราะตอนมัธยมก็โดนบังคับให้อ่านเป็นเล่มละไม่สำเร็จ มันหนาและน่ากลัวมากกกกจริงๆ เปิดไปกี่หน้าๆก็ไม่ถึงไหนสักที...

ยังไงก็สู้ๆนะคะ ขอให้อ่านให้จบบบบบ :D