ในศตวรรษที่19
ยังมีบ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่ในแถบชนบทที่ห่างออกมาจากความวุ่นวายของตัวเมืองรอบด้านเต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวชะอุ่มอากาศเย็นสบายและความเงียบสงบที่หาไม่ได้จากที่ไหน ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้ แจ็คลาวเดน เจ้าของบ้านไม้หลังใหญ่รักสงบไปโดยปริยาย เขาจะไม่เข้าเมืองหากไม่จำเป็นและจะไม่ออกงานหากเป็นไปได้เขาเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในบ้านไม้หลังใหญ่นี้ จะมีก็แต่สาวใช้คนจัดสวนและคนเลี้ยงม้าเพียงสามคนเท่านั้น
ดั้งเดิมบ้านหลังนี้เป็นสมบัติของผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเพียงแต่ก่อนท่านจะเสีย ท่านได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้และมอบให้เขาผู้ซึ่งเป็นหลานคนโปรดแจ็คเองก็เต็มใจที่จะรับบ้านหลังนี้มาดูแลต่อเขารู้ว่ากว่าย่าของเขาจะสร้างมันขึ้นมาได้ ต้องใช้น้ำพักน้ำแรงมากพียงใดจึงไม่แปลกใจที่ท่านจะส่งต่อให้กับคนที่ท่านรัก
แจ็คเอนตัวอยู่บนเก้าอี้นวมมือหนึ่งถือแก้วที่มีเครื่องดื่มสีอำพันอยู่ในห้องทำงานพลางนึกถึงเหตุการณ์ในอาทิตย์ก่อนเมื่อคนเลี้ยงม้าประจำบ้านขอลาออกเพื่อไปดูแลแม่ที่ล้มป่วยอยู่ต่างแดนเขาจึงอนุญาตให้อีกฝ่ายได้กลับบ้านพร้อมมอบเงินให้อีกหนึ่งถุงก่อนจะจากไปวันนี้เขาจึงวางแผนจะเข้าเมืองในช่วงเย็นเมื่อเพื่อนสนิทของเขาเรียกตัวไปพบที่บาร์ใจกลางเมืองเพื่อคุยเรื่องงานและคนที่จะมาดูแลม้าคนใหม่ให้เขา
“เอมี่!” ถึงแม้แจ็คจะเป็นคนรักความเงียบและสงบเพียงใดแต่อารมณ์ของเขาไม่ได้เหมือนกับบรรยากาศรอบบ้าน เขาไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนโยนนัก
“ค่ะ มิสเตอร์ ลาวเดน” สาวใช้เพียงคนเดียวที่อยู่ในบ้านรีบสาวเท้าเข้ามาในห้องทำงานของผู้เป็นนายก่อนค้อมศีรษะหนึ่งครั้งเพื่อแสดงความเคารพถึงแม้ชายหนุ่มจะนั่งหันหลังให้เธออยู่ก็ตาม
“เย็นนี้ไม่ต้องทำอะไรไว้นะฉันจะออกไปข้างนอก เธอก็กลับบ้านได้เลย แล้วก็เตรียมรถม้าไว้ด้วย” ชายหนุ่มพูดจบก็กระดกเครื่องดื่มราคาแพงเข้าปากรวดเดียวจนหมดก่อนจะวางตึงลงบนโต๊ะ
“เข้าใจแล้วค่ะมิสเตอร์ลาวเดนดิฉันจะไปบอกอัลเฟรด” พูดจบก็ค้อมตัวให้ผู้เป็นนายอีกทีก่อนจะค่อยๆออกไป
เขาเองก็ควรจะเตรียมตัวได้แล้วคงใช้เวลาไม่น้อยก่อนไปถึงที่นั่น
"วุ่นวายจริงๆ"
.......
เสียงคุยจ้อกแจ้กฟังไม่ได้ศัพท์ของลูกค้ากระเป๋าหนักดังอยู่ภายในบาร์สี่ดาว แจ็คนั่งอยู่ตรงมุมร้าน บนโต๊ะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วโตวางอยู่เขายกขึ้นมาจิบก่อนจะชายตามองคนพวกนั้นและภาวนาขอให้เพื่อนของตนมาไวๆจะได้รีบคุยและกลับเสียที เพราะไม่อย่างนั้นความอดทนของเขาอาจจะขาดลงได้และมันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดหนักกว่าที่มีคนเข้ามาทักทายและชวนเขาคุยกันไม่ขาดสายเขาทำได้เพียงตอบกลับและตัดบทคนพวกนั้นไป
ต้องให้เครื่องดื่มสีทองในแก้วใหญ่ค่อนลงไปครึ่งแก้วนั่นแหละคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาจึงจะมาถึงใบหน้าที่มีเคลาขึ้นแซมยกยิ้มจนเห็นฟันขาว แขนข้างหนึ่งหนีบหมวกทรงสูงสีดำเอาไว้ส่วนอีกข้างถือกระเป๋าเอกสารมาด้วยชุดสูทสีดำเรียบหรูบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งออกมาจากงานสังสรรค์มีการหันไปทักทายคนในร้านบ้างประปรายก่อนจะเดินมาทางเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มซึ่งผิดกับเขาที่หน้าถอดสีตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้านแล้ว
"โอ๊ะทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิมิสเตอร์ลาวเดน เดี๋ยวสาวจะไม่แลเอานะ" เขารู้สึกขันทุกครั้งที่เห็นแจ็คทำหน้าอมทุกข์เวลามาอยู่ในที่ที่มีเสียงดังเห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะล้ออีกคน
"หยุดพูดมากแล้วนั่งลงได้แล้วทอม" เมื่อเห็นว่าอีกคนทำหน้ายักษ์ ทอมก็หัวเราะชอบใจก่อนจะหย่อนกายลงตรงข้ามแจ็คและเริ่มคุยเรื่องงานที่ว่ากันไว้ก่อนหน้านี้
.
.
.
"...แล้วก็ตรงนี้อีกฉันว่าอีกนิดเดียวก็น่าจะเสร็จแล้วล่ะ"
"อืม งั้นเหลือแค่ตรงนี้สินะเดี๋ยวฉันจัดการให้"
ทอมพยักหน้าเข้าใจเมื่อแจ็คบอกว่าจะจัดการงานที่เหลือให้ก่อนจะเก็บเอกสารที่เกลื่อนกลาดบนโต๊ะลงในกระเป๋า พอดีกับที่แจ็คจุดไป๊ป์ทอมจึงชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องที่บ้านของแจ็ค
"แล้วเรื่องคนเลี้ยงม้าที่บ้านนายน่ะไปถึงไหนแล้วบ้าง" ทอมพูดพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มเข้าไปอึกใหญ่
"ก็ไม่ถึงไหนยังหาคนมาแทนไม่ได้ก็เท่านั้น ช่วงนี้อัลเฟรดเลยต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ" อัลเฟรดคือคนสวนมีอายุที่ทำงานให้บ้านลาวเดนมานานแล้วทุกครั้งที่ทอมไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้าน จะเห็นคนสวนคนนี้ทำงานอยู่ตลอดนั่นคงสร้างความรักและความเชื่อถือให้กับแจ็คอัลเฟรดจึงเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งเจ้าตัวถึงไม่อยากให้คนสวนคนนี้เหนื่อยมากนัก
"ฉันมีเด็กเข้ามาใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อนเผื่อนายอาจจะสนใจ หน่วยก้านดูใช้ได้เลย" ทอมเสนอ
"ฉันกลัวนายจะเอาโจรมาให้ฉันน่ะสิ" แจ็คพูดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาจนคลุ้งไปทั่วบริเวณโต๊ะ
"ไม่หรอกน่าฉันเป็นคนเลือกเขามาเองกับตัวเลยนะ!!"
"แล้วนายไปเอาเด็กที่ไหนมาล่ะ" พูดพร้อมยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม ตอนนี้คนในร้านเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นนั่นทำให้การพูดคุยของพวกเขาสะดวกขึ้นมากกว่าตอนแรกและทำให้อารมณ์ของแจ็คเย็นขึ้นด้วย
"ที่บ้านเด็กกำพร้าน่ะพอดีฉันไปทำธุระที่นั่นพอดี ถูกชะตาก็เลยอุปการะมาน่ะ" ทอมตอบอย่างภูมิใจ
"ไม่ต้องเอามาเลยนะ" แจ็คตอบแทบจะทันควันเมื่อทอมพูดจบ เวรกรรมจริงๆ
"เชื่อฉันสิถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเองและนายจะส่งเขาคืนมาแล้วหาคนใหม่นั่นมันก็แล้วแต่นายเลยเพื่อน"
"แล้วทำไมนายไม่เก็บเอาไว้ใช้เองเลยล่ะ" มันน่าคิดไหมละ
"เพราะว่านายกำลังต้องการคนอยู่ไม่ใช่หรือไง" และนั่นก็คือความจริง
"เห้อ...เอาตัวมาให้ดูพรุ่งนี้ที่บ้านฉันย้ำ!ที่บ้านฉัน" แจ็คไม่อยากมาเจอความวุ่นวายสองวันติดจึงย้ำกับเพื่อนของตนอย่างจริงจัง
"รับทราบครับมิสเตอร์ลาวเดน" พูดก่อนจะกระดกเบียร์รวดเดียวหมด
"แล้วเด็กนายชื่ออะไรล่ะหรือฉันต้องตั้งชื่อให้ใหม่ไหม?" แจ็คถามอย่างไม่จริงจังนัก
"ก็ต้องมีชื่อสิถามแปลกจริงคุณชาย" เขาอยากรู้จริงๆว่าในหัวของแจ็ค ลาวเดนคนนี้คิดอะไรอยู่
"เออน่า แล้วตกลงชื่ออะไรเล่า" แจ็คไม่สนใจเสียงบ่นของทอมแล้วพยายามเค้นเอาคำตอบ
.
.
.
"ทอม กลินน์ คาร์นีย์"
TBC.
#เลี้ยงม้ากับทอม
ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณเข้ามาอ่านกันค่า
มีอะไรสามารถพูดคุยได้เน้อ~
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in