‘ไกลเกินเอื้อม’ คุณไม่เคยเข้าใจความหมายของคำคำนี้ บางครั้งก็ยิ้มเยาะให้กับความคิดพวกนั้น คุณไม่เห็นว่าการชอบใครสักคนจะมีอะไรมากไปกว่าแค่เราชอบกัน กระทั่งตอนนี้คำคำนั้นกลับค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ต่อเรื่องราวของคุณกับใครคนนั้น คุณเริ่มเอาใจตัวเองไปผูกไว้กับอีกฝ่าย
อยากคาดหวังแต่ก็ตระหนักแล้วว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะหวัง
ในตอนแรกที่เริ่มรู้สึกตัวว่ามีความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นเวลาที่คุณกับใครอีกคนสนทนาพูดคุยกัน คุณมั่นใจว่าไม่มีอะไรมากไปกว่ามิตรภาพดี ๆ ในฐานะเพื่อน นัยหนึ่งคุณห้ามใจตัวเองด้วยคำว่า
‘ไร้สาระ’ และ ‘มันไม่มีอะไร’ ความใกล้ชิดคงไม่มีผลอะไรถ้าเราไม่คิดอะไร
แต่คุณก็คิด
รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบตัวคุณกับเขามันแตกต่างจากคุณกับคนอื่น เขาทำให้คุณยิ้มได้ตอนคุณรู้สึกแย่ เขาทำให้คุณคิดถึงในเวลาที่เจออะไรบางอย่างที่เขาชอบหรือเคยพูดถึงมัน ตอนแรกทั้งหมดนั้นคุณก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะเขาก็คือเพื่อนคนสำคัญเหมือนกับใครหลายคนรอบตัวคุณ
จนกระทั่ง...
มีคนเข้ามาใกล้เขา ใกล้จนคุณรู้สึกว่ากำลังถูกผลักออกไปจากวงโคจรของเขา เรื่องของเขาที่เป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ที่มีแค่คุณเท่านั้นที่รู้ คนอื่นก็เริ่มรับรู้ขึ้นมา
‘หวง’
ใช่...คุณหวง คุณยอมรับ แต่ก็ทำได้แค่นั้น ยิ้มรับเหมือนไม่สนใจ ไม่รับรู้อะไร จนนานวันความใกล้ชิดที่มีสั่นคลอนความรู้สึกภายในใจมากขึ้นเรื่อยๆ
‘ชอบแต่ทำอะไรไม่ได้’
ผลลัพธ์นั้นคุณมองเห็นมันแต่แรกแล้ว ไม่ใช่ว่ายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่เพราะ...
‘ไม่คู่ควร’
ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม...มันฟังดูงี่เง่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ความคิดพวกนี้ก็แค่นิยายหรือ
หนังน้ำเน่าทั้งหลายที่มีมากจนเกร่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วกับตัวคุณเอง ซึ่งในความเป็นจริงมันซับซ้อนมากกว่าในหนังหรือนิยายพวกนั้นมาก ไม่ใช่เรื่องสถานะทางสังคมหรืออะไรอื่น หากแต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย บทสรุปของความคิดต่าง ๆ มากมายถูกกลั่นกรองออกมาเป็นความวูบโหวง
อยู่ภายในใจ
รู้เพียงว่าใครอีกคนนั้นห่างไกลเกินกว่าคุณจะคว้าเอาไว้ได้
ไกลจนต่อให้พยายามอย่างสุดกำลังก็ไม่อาจไล่ตามทัน
หลายครั้งที่คุณเคยคิด เคยนึกวาดหวังด้วยคำว่า ‘ถ้า’
ถ้าหากว่า...บางสิ่งบางอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย
ถ้าหากว่า...ระยะทางที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นใกล้กว่าที่เป็น
ถ้าหากว่า...ไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นใดมากไปกว่าคำว่า‘ชอบ’
ถ้าหากว่า...เพียงแค่คุณดีกว่านี้...
ดีพอที่จะเดินเข้าไปบอกใครคนนั้นว่าคุณรู้สึกอย่างไร
ถ้าหากว่า...
...
..
.
แต่ทั้งหมดนั้นก็แค่ความคิดเพ้อเจ้อของคุณ ไม่มีอะไรเลยที่คุณจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงมันได้
ทำได้แค่หัวเราะให้กับความไร้สาระนั้นขณะที่ใจถูกทิ่มแทง คุณถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าให้กับ
ความงี่เง่าของตัวเอง ไม่ใช่แค่ข้ามกำแพงไปไม่ได้ แต่เป็นตัวคุณเองที่กักขังใจของตัวเองเอาไว้
ขีดเส้นกั้นของสายสัมพันธ์นั้นเพื่อตอกย้ำว่าอย่าก้าวข้ามไป
อย่ารู้สึกอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ ถึงที่สุดแล้วทุกอย่างมันก็แค่ผ่านมาเพื่อผ่านไป สักวันความรู้สึกนี้ก็คงจะจางหายไปตามกาลเวลา สำหรับตอนนี้ที่ต้องทำก็แค่กดความรู้สึกพวกนั้นให้จมลงไป
ให้มันจมหายไปยังก้นบึ้งของหัวใจ
จมหายไป...ตลอดกาล
----------------------------------------------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in