เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
80-day in South Korea เรียนภาษาเกาหลีระยะสั้นที่ Ewha Language Centerchynshj
Ewha vs Chula - เรียนที่เกาหลีกับเรียนที่ไทยต่างกันยังไง ?
  • หนึ่งในสาเหตุที่เราเลือกไปเรียนที่ Ewha Language Center (ELC) ก็คือเราเคยเรียนด้วยหนังสือของ ELC ตั้งแต่อยู่ในจุฬา วันนี้เราก็เลยจะมาเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าสไตล์การสอนของจุฬากับ ELC ต่างกันยังไง เผื่อใครกำลังตัดสินใจจะลงเรียนภาษาเกาหลี 1 - 6 ในจุฬาน้าา

    disclaimer: แต่ละเทอมก็อาจจะไม่ใช่อาจารย์คนเดียวกันสอน สไตล์ก็อาจจะต่างกันไป จะขอเล่าในสิ่งที่เราเจอมาโดยตรงในแต่ละเทอมแล้วก็เป็นคลาสสำหรับนิสิตเท่านั้น ไม่ใช่คอร์สสำหรับคนภายนอกนะคะ 

    ถ้าให้เทียบแบบเล่มตรงกันเป๊ะ ๆ กับที่ไปเรียนที่เกาหลีต้องเป็นกึบ 2 ซึ่งใช้หนังสือ Ewha Korean 2-1,2-2 ใช่มั้ยคะ ซึ่งทั้งสองเล่มนี้จะถูกใช้ในคลาส KOREAN III และ KOREAN IV ของอักษรจุฬาตามลำดับค่ะ

    สิ่งนึงที่เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆที่อาจจะทำให้การเรียนการสอนของจุฬากับที่ ELC ต่างกันมาก ๆ ก็คือจำนวนชั่วโมงการเรียนการสอนค่ะ ที่ ELC จะใช้เวลา 100 hr/เล่ม ส่วนที่จุฬาจะโดนจำกัดอยู่ที่ 36-39hr/เล่มเท่านั้น ซึ่งต่างกันมากกว่าครึ่งเลยใช่มั้ยคะ555555555 น่าจะเป็นปัจจัยหลักเลยที่อาจจะโดนตัดเนื้อหาบางส่วนออกไปบางส่วน? ซึ่งเดี๋ยวเราก็จะเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าสไตล์ของคลาสภาษาเกาหลีในจุฬาเป็นยังไง โดยเพื่อน ๆ สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับ EP.3&4 ที่เราอธิบายสไตล์การเรียนการสอนและการสอบของอีแดไว้อย่างละเอียดได้เลยนะคะะ

    หนังสือเรียนใช้เล่มเดียวกันเลย แต่จุฬาจะใช้แค่ student book ค่า
    Grammar
    CU: อาจารย์จะขึ้นสไลด์เลยว่าแกรมม่าร์ตัวนี้แปลว่าอะไร ใช้ในสถานการณ์แบบไหน บางทีก็มีเปรียบเทียบกับแกรมม่าร์ตัวที่คล้าย ๆ กันบ้าง ซึ่งส่วนมากตัวนึงก็จะใช้เวลาสัก 30-40 นาทีค่ะ มีเรียกตอบเป็นรายคนบ้าง เป็นการเช็คชื่อไปในตัว

    Writing
    CU: เท่าที่เราเรียนเล่ม 2-1 จำได้ว่าไม่มี writing เลยค่ะ แต่พอเรียนเล่ม 2-2 (Korean IV) จำได้ว่ามีงานเขียนชิ้นนึงที่ให้เราคิดเรื่องขึ้นมาโดยต้องมีแกรมม่าร์ทุกตัวที่เรียนไปในครึ่งเทอมแรก ประมาณนี้ค่ะ เป็นงานเขียนชิ้นแรกและชิ้นเดียวที่เราเจอในช่วง Korean I - Korean IV เลย 5555555555555

    Speaking (Conversation)

    พาร์ทคอนเวอร์ส่วนมากจะสอนโดยอาจารย์เกาหลี 1ชม/สัปดาห์
    CU: ตอนเรียน 1-1,1-2 จะมีให้พูดไปพร้อมกันทั้งห้องหรือพูดกับเพื่อนข้าง ๆ บ้าง แต่ตอนเกาหลี 4 รู้สึกว่าเราอาจารย์จะไม่ได้บังคับจับคู่พูดแล้วค่ะ อาจารย์ก็สอนหน้าห้องไป เราก็จดตามบ้างถ่ายรูปตามบ้าง แต่แบบไม่ค่อยได้พูดเลยค่ะ

    ส่วนตอนสอบก็คือต้องท่องไปแบบนกแก้วนกขุนทอง เขียนบทพูดเหมือนในหนังสือให้ถูก ทั้งเรียงประโยค ตัวชี้ต่าง ๆ เราทรมานมากเลย ฮือ ให้พูดตัวต่อตัวยังจะดีกว่า จำไม่ไหววว T_____T

    Listening
    CU: น่าจะตัดออก 100% เลยค่ะ ไม่ค่อยได้มีการฟังในห้องเท่าไหร่ จะมีเปิดเทปบนสนทนาให้ฟังในพาร์ท conversation แค่นี้เลยค่ะ

    Exam & Score 
    สำหรับในจุฬา วิชาภาษาเกาหลีก็เหมือนวิชาทั่วไปที่คิดเกรด A-F เลยค่ะ สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนก็จะแตกต่างไปในแต่ละเทอม แล้วแต่วิชาแล้วแต่อาจารย์เลยค่ะ ส่วนการตัดเกรดเราเคยได้ยินมาว่าตัดเกรดอิงกลุ่ม(ซึ่งมีนสูงม้ากกกกกก) แต่ถ้าลงเรียนตอนนี้วิธีการตัดเกรดก็อาจจะต่างไปก็ได้เช่นกันค่ะ แนะนำให้ถามอาจารย์ให้แน่ใจในคาบแรกของการเรียนเลยจะชัดเจนกว่า


    อ้างอิงจาก course syllabus Korean IV เทอม 2/2018

    วิชาเกาหลีส่วนมากขอลงเกรดเป็น S/U ได้นะคะ แต่ส่วนมากอาจารย์จะบอกให้ลงทะเบียนให้ติดก่อนแล้วค่อยมาขอประเมินเป็นแบบ S/U (มีแค่ผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่นำไปรวมในการคิด GPAX ค่ะ) ซึ่งการเรียนแบบนี้ก็จะชิวกว่ามาก ๆ ค่าาา :P 

    ส่วนเรื่องข้อสอบมิดเทอมกับไฟนอลก็จะมี 2 พาร์ทหลักๆคือ 
    1. อ่านเขียน -- มีทั้งการอ่าน แกรมม่าร์ แบบchoiceและแบบเติมคำ เช่น ผันแกรมม่าร์ให้ถูก บางทีก็จะให้คำที่เป็นข้อยกเว้นมาให้เรามึน ๆ เล่นในห้องสอบบ้างค่ะ ฮื้อ คนโดนหลอกประจำก็คือพ้มเอง -- พาร์ทคำศัพท์ จำได้ว่ามีทั้ง choice แล้วก็แบบเติมคำศัพท์ที่เหมาะกับบริบทนั้นๆ (แบบไม่ให้คำศัพท์มา ต้องจำมาเองT_T)
    2. ฟังพูด -- จำ conver ในหนังสือทั้งหมดที่เรียนไป แต่อาจารย์จะสุ่มออกมา 2 บท บางทีก็ให้ hint ช่วยเราบ้างว่าสถานการณ์เป็นยังไง แต่บางทีก็เป็นกระดาษเปล่าเลยค่ะ จำมาแม่น ๆ = รอด!

    ส่วนสอบย่อยก็จะเป็นควิซคำศัพท์ในห้อง ซึ่งอาจารย์จะบอกล่วงหน้าค่ะว่าจะควิซศัพท์บทไหนหน้าไหนไรงี้ ชิว ๆ เลยยย :-)

    แต่ถึงแม้จะจำนวนชั่วโมงจะห่างกันครึ่งต่อครึ่ง แต่ในคลาสในจุฬาก็ค่อนข้างไปเร็วมากๆจนสามารถ cover แกรมม่าร์ได้ทั้งเล่ม คำศัพท์เกือบทั้งหมด reading น่าจะ 60-80% conversation 50-70% แล้วแต่เทอมแล้วแต่จะอาจารย์จะเลือกมาสอนค่ะ (ตอนเราเรียนเกาหลี 6 กับอาจารย์ซอนยองคือเรียนแทบจะ100% T—T) ทำให้เรารู้สึกว่าการเรียนคลาสเกาหลีในจุฬาก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีของเราเหมือนกัน นอกจากจะฟรีแล้วก็ยังมีการสอบทำให้เราตื่นตัวและจดจำเนื้อหาได้เยอะมากๆค่ะ
     

    เราลองเทียบข้อดีข้อเสียสำหรับคลาสเกาหลีที่ Ewha Language Center กับการเรียนที่อักษรจุฬาในความเห็นเรามาให้เพื่อน ๆ เผื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจนะคะะ 

       Ewha Language Center (ELC)   

    ข้อดี 

    • มีเวลาได้ซึบซับภาษาเกาหลีได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เร่ง
    • เรียนเป็นภาษาเกาหลีล้วน ทำให้ชินไปเอง
    • สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการฝึกภาษาเกาหลี (เพื่อนในคลาส/การใช้ชีวิตในประเทศเกาหลี)
    • ข้อสอบเป็นการสอบแบบเน้นใช้งานจริง ไม่ได้เน้นข้อยกเว้นยากๆมากนัก สอบพูดก็ไม่ต้องจำมาเป๊ะๆ แค่สามารถพูดได้เรื่อยๆและไม่ออกจากบริบทมากก็โอเคแล้ว
    ข้อเสีย

    • ค่าใช้จ่ายสูง ค่าเรียนรวมค่ากินอยู่ 10 สัปดาห์ประมาณ 130k+
    • อาจยากเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนเพราะเรียนเป็นเกาหลีล้วน ต้องอาศัยการทบทวนช่วย
    • มีการบ้านทุกวันแน่ๆ  ส่วนปริมาณมากน้อยแล้วแต่วัน
    • บรรยากาศอึดอัดถ้าเป็นคนที่ไม่กล้าพูด บางทีต้องมีออกไปพูดหน้าห้องด้วย


      CHULA  

    ข้อดี
    • เรียนฟรี รวมในค่าเทอมเหมาจ่ายของแต่ละคณะแล้ว?
    • เลเวลแรกๆมีทั้งอาจารย์ไทยและอาจารย์คนเกาหลี ไม่เข้าใจอาจารย์เกาหลีก็ถามอาจารย์ไทยได้ค่ะ(แล้วแต่เทอมด้วยค่ะ ตอนเราเรียนบางทีเป็นอาจารย์เกาหลีคนเดียวทั้งเทอมเลย)
    • มีอาจารย์ช่วยแปล vocab ให้
    • ข้อสอบออกแทบทุกอย่างที่สอน ต้องจำข้อยกเว้นเข้าไปด้วยทำให้พื้นฐานเกาหลีค่อนข้างแม่นในระดับนึง
    ข้อเสีย
    • ตัวแรก ๆ ลงทะเบียนยาก เช่น KOREAN I ที่รับน้อยและไม่อนุญาตให้ลงเพิ่ม
    • ไม่ได้ฝึก speaking & listening & writing มากเท่าไหร่ แต่ก็จะมีวิชาแยกสำหรับทักษะพวกนี้เช่น KR LIST/SPK I และ KOREAN WRITING ซึ่งเราไม่เคยเรียนเลยขอไม่รีวิวน้า
    • ไม่มีเวลาให้ฝึกใช้แกรมม่าร์ที่เรียนมาเท่าไหร่ เพราะต้องรีบไปเรียนแกรมม่าร์ตัวถัดๆไป
    • ข้อสอบพาร์ท conver คือต้องจำล้วน แบบสมองแตกทุกครั้งเพราะไม่รู้ว่าอาจารย์จะออกบทไหนต้องจำไปเป๊ะๆทั้งการเรียงลำดับคอนเวอร์และตัวชี้ตั่งต่างT___T

    ใด ๆ คืออันนี้มาจากความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ แต่ละคนก็อาจจะมองสิ่ง ๆ นึงเป็นได้ทั้งข้อดีหรือข้อเสียได้ แต่หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้น้า เย่ ?


    Contact
    Twitter : @chynshj
    Instagram : chynshj

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in