เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เขียนเล่นเป็นเรื่องอ่าน-คิด-เขียน
เราอาจต้องประคับประคองเมล็ดพันธุ์ในใจ... (2)
  • เราอาจต้องประคับประคองเมล็ดพันธุ์ในใจ ไม่ให้มันแปรเปลี่ยนไประหว่างทาง (2)


    ไม่มีใครเลยที่จะเกิดมาแล้วมี ‘ความเป็นตัวของตัวเอง’ ที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง เราทุกคนต่างเปล่งเสียงที่เหมือนกันในวันแรกที่เราได้ออกมาเผชิญสู่โลกกว้าง ไม่ว่าสถานที่แรกที่เราได้สัมผัสจะเป็นห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนใส่ชุดสีเขียว หรือจะเป็นโถส้วมบ้านใครสักคน ฉันเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเท่ากันในฐานะที่เป็น tabula rasa หรือผ้าขาวในแบบที่จอห์น ล็อกได้เคยเสนอไว้เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว แต่นับจากวินาทีนั้นเป็นต้นมา เราทุกคนก็เริ่มแตกต่างกันด้วยสภาพแวดล้อม คนรอบข้าง การบ่มเพาะ และประสบการณ์ที่เราก็ยังไม่ค่อยมีสิทธิเลือกมากเท่าไรนัก เพราะแบบนั้นฉันจึงเห็น ‘ความเป็นเรา’ ในระยะแรก ก็เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการตัดต่อดีเอ็นเอจากผู้ถือครอง และเมื่อวันหนึ่งที่เราโตพอจะเริ่มบอกว่า ‘ไม่’ กับสิ่งที่ถูกยัดเยียด หรือเริ่มตัดสินใจเดินไปทางขวาด้วยตัวเองมาถึง วันนั้นจะเป็นวันที่เมล็ดพันธุ์หรือความเป็นเราในแบบที่พื้นฐานที่สุดได้ถูกส่งต่อมาให้เรากำไว้ในมือ

     

    เราถือเมล็ดพันธุ์ไว้ในมือข้างหนึ่ง พร้อมกับถือกระถางรูปหัวใจใบเล็กไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เมล็ดพันธุ์นี้ช่างแสนพิเศษ เพราะเมื่อเรามองไปในฝูงชนที่เดินผ่านเรา เราจะพบว่าเมล็ดพันธุ์หรือความเป็นตัวเองของแต่ละคนช่างแตกต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ อาจจะคล้ายบ้าง แต่ก็ไม่เหมือนกันแบบหมดจดสักคน และเมื่อเรารู้สึกว่าเราได้ครอบครองของที่แสนพิเศษ ความรู้สึกหวงแหน ความกลัวที่จะเสียมันไปก็มักจะเข้าครอบงำจิตใจเราเสมอ ดังนั้นคนบางคนจึงเลือกที่จะเก็บความเป็นตัวของตัวเองที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวเอาไว้ในอุ้งมือ กำมันแน่นจนมือชื้นเหงื่อเพราะกลัวว่ามันจะหล่นหายไป แต่เมล็ดพันธุ์ของทุกสรรพสิ่งต่างก็มีอายุขัย ถ้าเราถือไว้นานไปมันก็ได้แต่จะฝ่อเท่านั้น เมล็ดพันธุ์จิ๋วคงน่าสงสารมากถ้าไม่เคยได้รับโอกาสให้เติบโต และคนเราก็คงไม่ยอมให้มือของตนชื้นเหงื่อตลอดไปแน่ คงจะต้องมีสักวันที่เราต้องปล่อยเมล็ดพันธุ์นี้และเช็ดมือตัวเองให้แห้งสบาย สำหรับฉันการเก็บมันไว้ในมือจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉันใช้ในการเก็บความพิเศษนี้ ฉันเลือกที่จะปลูกมันลงไปในกระถางของฉัน และคอยดูแลให้มันเติบโตไปพร้อมกับฉัน

     

    ในทุก ๆ วันที่เราถือต้นอ่อนของเราผ่านผู้คนมากมายที่ต่างก็มีต้นไม้ในครอบครอง ในบางครั้งมันก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบต้นอ่อนของเรากับไม้ยืนต้นสูงใหญ่ของคนอื่น เหตุใดต้นไม้ของเราถึงเจริญเติบโตได้ไม่เท่าไม่ทันคนอื่น เหตุใดมันถึงดูอ่อนแอและบอบบาง เหตุใดความเป็นตัวเองของเราถึงช่างดูไร้ค่าและไร้ประโยชน์ เราอาจเคยพบเจอกับคนที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน คนที่เอาความพิเศษนั้นมาสนับสนุนชีวิตและเป้าหมายของเขาได้ ต้นไม้ของเขาแข็งแรงและสูงสง่ากว่าของเรามากเหลือเกิน อาจจะมากถึงขั้นที่ทำให้มุมมองต่อความเป็นตัวเองของเราเปลี่ยนไป และเราไม่ได้มองว่ามันพิเศษอีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในบางครั้งเราก็อยากที่จะ ‘เป็นแบบเขา’ เพราะบางทีเอกลักษณ์ของความเป็นเรามันก็ใช้เวลายาวนานกว่าที่มันจะเติบโตและชัดเจนได้เท่ากับเสี้ยวกิ่งก้านของต้นไม้ที่สูงใหญ่ต้นนั้น คนบางคนถึงกับโยนเมล็ดพันธุ์ในมือของตัวเองไป เช่นเดียวกับใครอีกหลายคนที่ยอมจะถอนรากของต้นอ่อนในกระถางเพื่อที่จะให้พื้นที่กับต้นไม้ของคนอื่น แต่อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าไม่มีเมล็ดพันธุ์แห่งความเป็นตัวเองเมล็ดไหนเลยที่จะเหมือนกันไปหมดทุกด้าน อีกทั้งทุกคนก็มีเมล็ดแค่เพียงคนละหนึ่ง ดังนั้นเหล่าผู้ที่กระหายในความพิเศษของคนอื่นจึงทำได้อย่างมากที่สุดเพียงแค่ ‘ปักชำ’ เท่านั้น การปักชำนั้นทำให้ต้นไม้ที่เกิดใหม่มีลักษณะเดียวกับต้นที่เอากิ่งมาทุกประการก็จริง แต่ต้นไม้เหล่านี้ไม่มีรากแก้วที่จะช่วยยึดเหนี่ยวต้นไม้ในวันที่เจอลมพายุพัดโหมเข้ามา และต้นไม้เหล่านั้นก็คงจะโค่นล้มไปง่าย ๆ เหมือนกับเกมจังก้าที่ยิ่งสูงยิ่งโอนเอน

     

    สำหรับฉันแล้วความเป็นตัวฉันค่อย ๆ เติบโตไปเรื่อย ๆ บนโลกที่บางวันก็มีเรื่องแย่ ๆ ถาโถมเข้ามาเหมือนกับพายุไต้ฝุ่นที่ทำให้เราเปียกปอนไปทั้งตัว และในบางทีฉันก็เจอกับประสบการณ์ดี ๆ ที่สดใสราวกับแสงอาทิตย์ที่สว่างเจิดจ้า สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมความเป็นฉันทั้งในด้านการมองโลก การกระทำ หรืออาจจะเป็นนิสัยของฉันเองก็ตาม ซึ่งก็ผนวกไปกับปัจจัยอีก 2 สิ่งที่ขัดเกลาความเป็นฉันให้เป็นในทิศทางที่ตัวฉันเป็นอยู่ทุกวันนี้ หนึ่งคือกาลเวลาที่ไหลและผ่านไปเหมือนกับอากาศ การไหลผ่านของเวลามักทำให้เกิดการตกตะกอนทางความคิดในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวฉัน และช่วยพัดพาความรู้สึกบางอย่างที่ฉันเลือกที่จะปล่อยมันให้ลอยออกไปไกล อีกอย่างคือสภาพแวดล้อมที่เราอาจจะซึมซับอะไรบางอย่างมาจากแหล่งนั้นเพื่อให้เราเติบโต หรือบางทีก็อาจจะเป็นปัจจัยที่กดทับความเป็นเราไว้ไม่ให้เฉิดฉายออกมา เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกในดินที่หากเป็นดินที่ถูกชนิดต้นไม้นั้นก็จะเติบโตได้ดี แต่ถ้าหากสภาพดินนั้นไม่เหมาะสมต้นไม้ก็จะเจริญเติบโตได้ช้าเพราะได้รับสารอาหารที่ไม่ถูกกับที่ต้องการเท่าไหร่นัก ราวกับต้นไม้ ฉันสังเคราะห์ตัวตนของฉันออกมาจากสิ่งเหล่านี้ เหมือนที่ต้นไม้สังเคราะห์แสง และไม่สามารถละทิ้งปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดไปได้แม้แต่ดินที่อาจยังไม่เหมาะกับเรา ตัวตนของเราอาจมีพัฒนาการที่ช้ากว่าคนอื่นเพราะเราอาจจะเจอฝนมากหน่อย แต่ไม่เจอแสง หรืออาจจะยังไม่ได้ไปเติบโตในดินที่เหมาะกับเรา แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้ตระหนักรู้อยู่เสมอว่าเรายังคงเติบโตอยู่ตลอดอย่างมั่นคง และเราต่างก็โชคดีที่เราเป็นคนไม่ใช่ต้นไม้ เราจึงมีโอกาสที่จะขยับเปลี่ยนทิศทางเพื่อมองหาแสงที่มากขึ้นอีกนิด หรือดินชนิดที่เหมาะกับเราอีกสักหน่อย และช่วยให้ตัวตนของเราเติบโตสูงใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นจงอย่าย่อท้อกับการที่จะหาที่ที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นตัวเองในแบบที่โดดเด่นในสักวัน

     

    ถึงแม้ฉันจะคิดว่าความเป็นตัวเองของเราแต่ละคนช่างพิเศษและควรที่จะรักษาเอาไว้ แต่ฉันก็ไม่ขอปฏิเสธว่าในบางทีความพิเศษนั้นมันก็เป็นความพิเศษอย่างร้ายกาจและไม่เป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่นักตราบใดที่ทุกคนยังต้องเติบโตในผืนโลกเดียวกันนี้ ดังนั้นฉันคิดว่าบางทีเราก็สมควรที่จะตัดแต่งกิ่งก้านของเราให้เป็นไปในแบบที่จะทำให้เราสวยงามในทางที่ดีขึ้น เพราะต้นไม้ที่โดดเด่นนั้นไม่ใช่เพียงแค่เป็นพันธุ์ที่แตกต่าง แต่ควรจะต้องเป็นต้นไม้ที่สวยงามด้วย เมล็ดของเราอาจไม่ได้ดีเด่นไปทุกส่วนแต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโยนทิ้งเลย เราเพียงแค่ต้องปรับอะไรบางอย่าง ตัดแต่งกิ่งก้านบางส่วน ละทิ้งก้านที่ไปกระทบกระเทียบผู้อื่น ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนออกไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถเติบโตในแบบที่คงความเป็นเรา สวยสง่าขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองทั้งหมดแล้ว


    ฉันเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นแข็งแรงทุกต้นต้องมีจุดเริ่มต้นจากเมล็ดขนาดเล็กกว่าฝ่ามือทั้งนั้น และด้วยความเชื่อแบบนั้นฉันจึงตั้งตารอวันที่ความเป็นตัวฉันจะฝังรากหยั่งลึก แข็งแรงพอเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ผลิดอกออกผล แผ่กิ่งก้านสาขาให้หลายคนมองเห็น ในวันนี้ฉันอาจจะยังไม่เจอดินที่จะส่งให้ฉันเติบโตอย่างรวดเร็ว หรืออาจจะยังผ่านร้อนผ่านหนาวไม่มากพอ แต่ฉันก็มั่นใจว่าความเป็นฉันค่อย ๆ เติบโตอย่างมั่นคงไม่แพ้ใคร และฉันจะยังคงแตกใบใหม่เสมอตราบใดที่กาลเวลายังคงพัดผ่านตัวฉัน ในระหว่างทางกว่าจะถึงวันนั้น ฉันคงจะพบต้นไม้ที่สวยงาม และโดดเด่นอีกหลายร้อยหลายพันต้น ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในวันหนึ่งฉันก็อาจยอมแพ้ให้กับการเสาะหาดินที่เหมาะกับเมล็ดพันธุ์ เหนื่อยกับการเฝ้ารอตัวตนของฉันที่ผลิบานและเลือกที่จะปักชำต้นไม้อื่นลงในใจของฉัน ดังนั้นกว่าที่ฉันจะไปได้ถึงจุดหมายที่ฉันหวัง ฉันคงต้องประคับประคองเมล็ดพันธุ์ในใจของฉันไม่ให้เปลี่ยนไปด้วยน้ำมือของฉันเอง



    © สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 เผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้น

    ข้อเขียนนี้เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือ “เขียนเล่นเป็นเรื่อง” รวมผลงานสร้างสรรค์ของนิสิตภาควิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่ 3 ในหนังสือชุด “วิชญมาลา” รวมผลงานด้านภาษาและวรรณคดีไทย จัดทำโดย ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2563
    อ่านฉบับ E-book ได้ที่ .....

    หมายเหตุเกี่ยวกับงานเขียน:       ผลงานสืบเนื่องจากรายวิชา “ศิลปะการเขียนร้อยแก้ว”
                                                           ปีการศึกษา 2562

    ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียน:                 บุษกร บุษปธำรง

                                                          นิสิตชั้นปีที่ 4ระดับปริญญาตรีภาควิชาภาษาไทย 

                                                          คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

                                                          นิสิตทุนโครงการสู่ความเป็นเลิศด้านภาษาและวรรณคดีไทย

                                                          เติบโตมากับนิทานอีสป หนูนิด ขายหัวเราะ นิยายแจ่มใส 

                                                          ก่อนจะค่อย ๆห่างหายจากวงการนักอ่านหนังสือเล่ม

                                                          สู่นักอ่าน fanfiction ออนไลน์จนมาถึงยุคนิยายแชทปัจจุบัน

                                                          เป็นทั้งผู้สร้างและผู้เสพ fan fiction ศิลปินเกาหลี

                                                          เพราะความสนใจด้านคู่ชิปที่มีผู้ร่วมอุดมการณ์น้อยเหลือเกิน

                                                          พร้อมกับทำหน้าที่ติ่งเกาหลีแบบฟูลไทม์ 

                                                          เป็นนักฟังเพลงและออนไลน์อยู่บนโลกทวิตเตอร์

    ภาพประกอบ:                               ปุณยาพรสุข ศาลาสุข
    บรรณาธิการต้นฉบับ:                  หัตถกาญจน์ อารีศิลป
    กองบรรณาธิการ:                        ธัญวรัตม์ วงศ์เรือง บุษกร บุษปธำรง วรนุช ขาวเกตุ

                                                          ธีรศักดิ์ คงวัฒนานนท์ จุฬารัตน์ กุหลาบ                                          




     



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in