ฉันมีเพื่อนข้างห้องที่คอนโด น้องเค้าทำงานทางด่วน ลูกชายตัวเล็กเพิ่งขึ้น ป.1 และแม่ของน้องเค้าอีกคน เป็นครอบครัวสามคนที่น่ารักมาก
ตอนฉันย้ายมาอยู่ที่นี่วันแรก แม่ของน้องเค้าเอากับข้าวมายื่นให้ฉันที่หน้าห้อง แล้วบอกว่า ลองชิมดูฝีมือแกเอง เป็นแกงเขียวหวานไก่ที่ทำให้ฉันประหลาดใจ ไม่คิดว่ากลางใจเมืองหลวงแบบนี้ จะมีน้ำใจแบบบ้านใกล้เรือนเคียงที่หาได้เฉพาะตามชนบทเท่านั้น ฉันเกรงใจแต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธคนแก่ยังไง ฉันรับไว้และมิตรภาพก็เกิดตั้งแต่วันแรก
ฉันยิ้มและทักทายกับน้องเค้าเมื่อเจอกันในคอนโดหรือในลิฟท์ น้องเค้าอ่อนกว่าฉันสองปี บ่อยครั้งฉันไปเที่ยวกลับมาและซื้อขนมมาฝากเจ้าตัวเล็กข้างห้องด้วย คุณยายมักจะให้เจ้าตัวเล็กนำกับข้าวฝีมือแกมายื่นให้ที่หน้าห้องบ่อยๆ เจ้าตัวเล็กไม่ชอบขนมที่มีงาสีขาว มีครั้งหนึ่งฉันซื้อขนมคอเป็ดมาฝาก คิดว่าเด็กๆคงชอบ แต่น้องเค้ามาบอกทีหลังว่า เจ้าตัวเล็กกินได้คำเดียวแล้วโยนทั้งกล่องทิ้งถังขยะเลย
ฉันไม่เสียใจที่เจ้าตัวเล็กไม่ชอบ กลับชอบใจความไร้เดียงสาแบบเด็ก ชอบก็เอา ไม่ชอบก็ทิ้ง ไม่ต้องคิดอะไร เอ่อ ง่ายดี ฮ่าๆ แต่ก็นับเป็นเพื่อนบ้านที่มีมิตรภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
เป็นเวลาสามปีมาแล้วที่ฉันย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันไม่เคยเห็นพ่อของเจ้าตัวเล็กข้างห้องเลย และก็สงสัยอยู่เสมอว่า พ่อเจ้าตัวเล็กไปไหน
เจ้าตัวเล็กหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม และก็เหมือนกับแม่ของเจ้าตัวเล็กที่นับว่าหน้าตาดี ถือว่าสวยเลยทีเดียว แต่ทำไมน้องเค้าเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว พ่อเจ้าตัวเล็กทำไมทิ้งไป? หรือไม่ได้ทิ้ง? หรือตายไปแล้ว? หรือมีเหตุใด? ฉันสงสัยแต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยปากถามน้องเค้า คำถามก็คงเก็บไว้ในใจแบบนั้น แต่ก็ไม่สำคัญอะไรหรอก
ฉันอาศัยอยู่ที่คอนโดนี้ส่วนมากจะคนเดียว แต่ชื่อเจ้าของห้องมีสองคน ฉันกับสามี เราแต่งงานกันได้สามปีแล้ว ยังไม่มีลูก เขาทำงานต่างจังหวัด ไปๆ กลับๆ อยู่เสมอ เมื่อก่อนฉันเช่าอพาท์เม้นท์ ตอนแต่งงานใหม่ๆก็มาซื้อที่นี่กะว่าจะมาอยู่ด้วยกัน แต่เขาก็โดนย้ายไปอีก โชคดีที่ที่เขาไปอยู่ไม่ไกลกันมาก
เสาร์อาทิตย์คือวันหยุดของฉัน แต่สำหรับเขา วันหยุดไม่แน่นอน เราจึงมีวันว่างไม่ค่อยจะตรงกัน แต่ฉันก็เข้าใจเพราะภาระหน้าที่ของเขาบังคับ แต่เราก็ยังคงรักกัน ถ้ามีเวลาตรงกันก็จะออกไปเที่ยวด้วยกันเสมอ
วันนั้น เขากลับมาที่คอนโด ฉันเพิ่งเลิกงาน กำลังจะจอดรถ เห็นเขากำลังเดินออกจากลานจอดรถมุ่งหน้าเข้าไปในคอนโด ฉันจอดรถแล้วเดินตามหลัง เห็นเขาหิ้วถุงอะไรมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด น่าจะเป็นขนมและของฝาก ดีจังเลยที่เขากลับมา กำลังมีเรื่องที่ต้องการที่ปรึกษาอยู่พอดี
เขาเดินเข้าไปในลิฟท์ ฉันเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทัน แต่ไม่ทัน ประตูลิฟท์ปิดก่อน ฉันต้องกดลิฟท์อีกตัวเพื่อขึ้นไป ระหว่างโดยสารลิฟท์ ฉันคิดว่าจะแบ่งขนมที่เขาซื้อมาไปให้เจ้าตัวเล็กข้างห้อง ถ้ามันไม่มีงานะ ฮ่าๆ
เมื่อลิฟท์เปิด ฉันก้าวออก เดินตรงมาที่หน้าห้อง เห็นหลังเขากำลังเดินไหวๆ แล้วเขาก็ไขกุญแจห้องเข้าไป
มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันปะหลาดใจ ห้องที่เขาเข้าไปไม่ใช่ห้องฉัน แต่เป็นห้องข้างๆ ห้องน้องเค้า!
ฉันหยุดเดิน ยืนอื้งอยู่สักพัก แล้วก็รีบวิ่งไปไขกุญแจเข้าห้องของตัวเอง ทิ้งของทุกอย่างลงบนเตียง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉันพึมพำ ฉันงงไปหมด จิตตก ไม่หรอกน่า เขาคือพ่อเจ้าตัวเล็กเหรอ? ไม่หรอกน่า ฉันตาฝาดรึเปล่านะ? ใช่เขาจริงๆใช่มั้ย? แต่จิตสำนึกก็บอกว่าใช่เขาแน่ๆ ฉันจำเขาได้ดี ไม่น่าจะจำผิด ถ้างั้นเขาเข้าไปทำอะไรในห้องข้างๆ?
น้ำตาฉันเริ่มล้นออกมาเป็นสาย ฉันเริ่มฟูมฟาย ไม่คิดว่าคนที่อยู่กินกันมาสามปี จะมีลูกมีครอบครัวแล้ว ฉันรู้สึกเป็นคนโง่ขึ้นมาในบัดดล ก่อนแต่งงานเขาบอกว่าเขาไม่เคยมีลูกไม่เคยแต่งงานมาก่อน เป็นหนุ่มบริสุทธิ์ ทำไมเขากล้าหลอกฉันขนาดนี้นะ ฉันคิดถึงอนาคตนับจากนี้ น้องเค้า? เจ้าตัวเล็ก? แม่น้องเค้า? เพื่อนบ้านที่ดี? ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันคิดถึงแม่จังเลย
ขณะนั้นเองฉันได้ยินเสียงเอะอะหน้าห้อง เสียงเริ่มดังขึ้น ฉันเช็ดน้ำตาแล้วเปิดออกไปดูว่าข้างนอกเกิดอะไร
พบว่าหน้าห้องมีน้องเค้า เจ้าตัวเล็ก แม่น้องเค้า สามีฉัน และรปภ. ยืนคุยกันเสียงดัง นั่นทำให้ฉันประหลาดใจอีกรอบ ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเค้าบอกว่า เมื่อกี้กลับมาเปิดห้องเข้าไปเห็นผู้ชายคนนี้อยู่ในห้อง ฉันถามว่า ไม่รู้จักกันเหรอ? กับสามีฉันน่ะ น้องเค้าบอกว่า ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักเลย นึกว่าโจรจึงโทรตาม รปภ.ให้ขึ้นมาดู
สามีฉันอธิบายว่า ตอนมาคอนโดก็ไขกุญแจเข้าห้องได้ปกติตลอด แต่วันนี้ไขเข้าไปแล้ว งงนิดๆว่าทำไมห้องมันไม่เหมือนเดิม กำลังไล่ดูข้าวของด้วยความสงสัย คิดว่าฉันจัดห้องใหม่ จู่ๆก็มีคนไขกุญแจเปิดประตู ตอนแรกนึกว่าเป็นฉัน แต่ไม่ใช่ พอเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างตกใจ น้องเค้าคิดว่าสามีฉันเป็นโจร โทรเรียก รปภ. มา แต่เขาก็คิดว่าเขาเข้าห้องถูก เพราะมีกุญแจ เปิดเข้ามาได้ แต่เมื่อ รปภ. มาถึง ถามถึงเลขที่ห้อง กลับทำให้เขาอื้ง เพราะเขาเข้าห้องผิดจริงๆ จึงพากันออกมาคุยกันหน้าห้อง
จากนั้นก็ลองเอากุญแจเขามาไขห้องของฉัน ปรากฏว่าก็ไขได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่คอนโดได้มาขอโทษ และบอกว่ากุญแจดอกซ้ำกันกับห้องข้างๆ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 1 ใน ล้าน เจ้าหน้าที่คอนโดทำการเปลี่ยนกุญแจในวันรุ่งขึ้นทันที
เป็น 1 ในล้านที่น่าประหลาดใจอย่างที่สุด ฉันคิดว่าจะได้มีข้ออ้างหาสามีใหม่อยู่แล้วเชียว แต่ก็ปรากฏว่ายังเป็นเขาอยู่ ไปๆมาๆอยู่เหมือนเดิม ในสถานะเดิม แต่พวกคุณก็เข้าใจใช่ไหมว่ามันเป็นแค่เพียงสถานะ
ในบางคืน อยู่คนเดียวน่ะมันเหงาะนะ หวังว่าพวกคุณคงเข้าใจ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in