เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Love Over รักจบเรื่องไม่จบTheScarletNails นักเขียนเล็บแดง
บนหลังมอเตอร์ไซค์เวลาสามทุ่ม
  •       ตอนนั้นเป็นเวลาสามทุ่มนิดๆ ตอนที่ฉันกระโดดขึ้นหลังมอเตอร์ไซค์เพื่อน ปล่อยตัวไปกับสายลม แล้วร้องตะโกนจนสุดเสียง ปลดปล่อยความโมโหที่สะสมไว้ออกมาให้เป็นอิสระในอากาศ ระดับความเร็วที่หน้าปัด70กว่า กับลมเย็นที่ปะทะหน้าฉันจนชา ไม่ได้ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีเหมือนอย่างเคย หรือมันอาจปะทะไม่แรงพอที่จะเข้าไปถึงหัวใจของฉันล่ะมั้ง

    ความหนาวเย็นของสายลมหน้าฝน หอบเอาหยดน้ำบางเบาปลิวมาตามลมด้วย แต่บางหยดกลับชื้นอุ่น เพราะมันมาจากขอบตาร้อนผ่าวของฉันเอง

    เรา เคยรักกัน… ฉันยังจำได้ดี ว่ามันเคยหวานชื่นแค่ไหน ในตอนที่เขายังยิ้มทะเล้น กุมมือฉันไว้ หอมแก้มทีเผลอในยามเช้า และชมว่าฉันน่ารักขนาดไหนแม้จะนั่งหน้าสดอยู่หน้ากระจก ในวันที่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร เพียงแต่เขารักฉันไม่มากพอเท่าอีกคน

    “รัก” งั้นหรอ? พูดออกมาได้ ช่างเป็นคำที่นิยามความหมายได้ยากเย็นและมีรูปแบบที่ซับซ้อนหลากหลายเหลือเกิน ผู้ชายที่ชอบอะไรง่ายๆและไม่ซับซ้อนแบบเขา คงไม่เคยนิยามมันเป็นความรักหรอก หากแต่ผู้หญิงคนหนึ่งกลับให้ค่ามันมากไปเสียจนไม่อาจถอนรากของความรู้สึกออกจากใจได้

    ฉัน“รัก”เขา

    ฉันยังจำได้ดีอีกว่า ความรู้สึกโลกดับวูบเป็นอย่างไร ก็ตอนที่ฉันเห็นคำว่าขอโทษจากเขาในแชทไลน์วันนั้น โลกยิ่งมืดไร้แสงกว่าเก่า เมื่อเขาร้องขอความเป็นเพื่อนที่มีอำนาจพอที่จะฆ่าฉันตายได้ เขากำลังขอให้ฉันทำใจกว้างยืนมองตัวเขากับคนของเขาที่เพิ่งหวนมาไม่นานจากอดีต ฉันจึงขว้างปาถ้อยคำใส่เขาด้วยหัวใจบิดเบี้ยวที่ยังพยายามคงรูปไว้ให้ดูปกติ แน่นอน หลังจากนั้น โลกของฉันก็ดับสนิท
    น่าเสียดายที่ต้องบอกว่า ฉันน่ะ แข็งแกร่งพอจะก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงอันปวดร้าวนี้มาได้ ฉันยิ้มกว้าง ฉันชนะเขา ดังนั้นเขาจึงทำร้ายฉันไม่ได้มากอย่างที่ควรจะเป็น

    จนกระทั่งวันนี้ที่ฤทธิ์อำพันอันหอมหวานที่ฉันดื่มเข้าไปได้ช่วยกล่อมเกลาใจฉันให้เห็นภาพความจริงชัดเจนขึ้น จอมือถือในมือยังคงฉายภาพคู่ชายหนุ่มหญิงสาวอิงแอบกัน เป็นรูปใหม่เพิ่งอัพเดท ฉันยิ้มอย่างเมามายให้เงาสะท้อนของตัวเองในจอและยิ้มให้รูปนั้นที่เริ่มเลือนลางเพราะหยดน้ำตามาขวางกั้น ยิ้มให้กับความจริงที่ว่า ฉันยังรักเขาอยู่หมดใจ

    ตอนนั้นเป็นเวลาสามทุ่มนิดๆ ตอนที่ฉันกระโดดขึ้นหลังมอเตอร์ไซค์เพื่อน ปล่อยตัวไปกับสายลม แล้วร้องตะโกนจนสุดเสียง ปลดปล่อยความเศร้าที่สะสมไว้ออกมาให้เป็นอิสระในอากาศ ความโมโหในตอนต้นนั้นจอมปลอม ลึกๆแค่อยากให้มันได้ลองเป็นผู้นำบ้างเผื่อจะช่วยลดทอนความรู้สึกดีๆที่มีลง แต่ฉันรู้ดี ว่าจริงๆแล้ว แค่เพราะฉันยังไม่พร้อมที่จะเผชิญความจริง ฉันไม่เคยชนะเขาได้เลย ฉันแสร้งทำเป็นชนะในศึกที่ฉันเป็นผู้แพ้มาตลอดตั้งแต่ต้น

    ฉันเพียงแต่หวังว่าสักวัน มันจะเจือจางลง และเหือดแห้งไปเหมือนหยดฝนยามระเหย และลมเย็นนี้จะปลอบโยนฉันอีกครั้งหลังฤทธิ์อำพันในใจหมดลง ฉันคิด ตอนเวลาสาวทุ่มกว่าบนหลังมอเตอร์ไซค์ในคืนนั้นเอง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in