สองชั่วโมงกว่าๆ ใน เอดินเบอระ ได้อะไรบ้าง .....
แน่นอนว่าได้ความเมื่อยขา
แน่นอนว่าได้ความล้า
และ ได้ความคิดที่ว่า อยากย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่
เพราะทีนี่ค่อนข้างมี
ความฮิสตอรี่
ตั้งแต่สถานีรถไฟ....
.....ไปจนถึงนอกสถานีรถไฟ
พูดเอง งงเอง
***************************
อ่ะๆ มาถึงสาระกันดีกว่าค่ะ
จาก GLASGOW ถึง EDINBURGH ใช้เวลา 45 - 50 นาที
(โรงแรมจะพูดแบบนี้ค่ะ แต่เอาเข้าจริงมันกินเวลาประมาณชั่วโมงเศษๆ)
เดินทางโดยใช้ ScotRail เริ่มจาก สถานี Glasgow Central Station*
ที่ต้อง*ไว้ เพราะเหมือนจะมีหนึ่งสถานีที่ชื่อคล้ายๆกันค่ะ
ดูตารางเวลาได้จากลิ้งค์ด้านล่างนี่เลยค่ะ
เลื่อนลงมาเรื่อยๆจะเจอตรงที่ทำสี่เหลี่ยมครอบไว้อยู่ เป็น route ทั้งหมดจาก กลาสโกลว์ถึงเอดินเบอระ
(เด๋วอ่านไปเรื่อยๆจะมีคำอธิบายไว้อยู่ค่ะ)
ซึ่ง ตอนแน็ตซื้อตั๋ว เราก็ตามสไตล์ เดินงงๆไปหน้าสถานีแล้วก็ไปดูตารางตรงนั้น
จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วจากตู้กดเหมือนซื้อตั๋วรถไฟทั่วไปค่ะ
เลือก Round trip Glasgow-Edinburgh-Glasgow
ได้ตั๋วมาสองใบ
ใบแรกคือขาไปเอดินเบอระ
ใบที่สองคือขากลับมากลาสโกลว์
ใช้ได้ทั้งวัน ราคาประมาณ 25 ปอนด์
ขอย้ำว่า ต้องเก็บตั๋วไว้ดีๆ เพราะถึงจะไม่มีที่ให้แปะบัตรเข้า-ออก
แต่เค้าจะมีคนเช็คตั๋วตรงทางเข้าplatform
เพราะตอนเดินออกมาเผอิญเจอคนทำตั๋วหาย คือไม่รู้หายจริงหรือแกล้งหายตีเนียนหรืออะไรยังไง
แต่คนเช็คตั๋วก็ไล่กลับไปซื้อตั๋วอีกรอบแล้วถึงจะให้ผ่านออกไปค่ะ
พอซื้อตั๋วเสร็จยืนก่งก๊งมองหา platform ซึ่งบอกเลยว่าแอบงงพอสมควร กลัวเดินไปผิดอัน
(แต่ไม่มีอะไรงงเท่าสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น :p)
เลยถามเจ้าหน้าที่แถวๆนั้นดูดีกว่า พี่แกก็บอกเลขแล้วก็ชี้ๆไป
พอลงไปถึง platform ก็คิดในใจ
"เอาล่ะไง มันมีสามล้านขบวนบนจอที่เขียนว่า ทู เอดินเบอระๆๆๆ ยังไงดีล่ะทีนี้"
ก็ไม่อะไรมา สไตล์เดิม ถามคุณป้าที่นั่งคอยข้างๆนี่แหละค่ะ
ได้ความว่า
"ทุกขบวนก็ไปเอดินเบอระหมดอย่างที่เห็นป้ายขึ้นตรงหน้าขบวน แต่ที่มันมีหลายอันเพราะมันมีบางอันที่สต๊อปเยอะ สต๊อปน้อย แล้วแต่ขบวน มันก็แค่ใช้เวลามากน้อยต่างกันแค่ไหน"
พอได้ยินแบบนั้นก็เลยชี้ไปที่จอแล้วถามป้าว่า แล้วขบวนไหนเร็วสุด
ป้าเลยบอกว่า ขึ้นขบวนต่อไปก็ได้นะ
นั่นก็คืิอ Glasgow-Edinburgh via Falkirk High
ตารางเดินรถตามด้านล่างเลยค่า
ขาไปก็ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีนิดๆ
บนรถไฟมี Wifi ให้ใช้เก๋ๆ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามอัพโหลดหรือดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่
เพราะต้องแบ่งคนอื่นใช้เนอะ
และก็มีคาร์ทกาแฟแซนด์วิชขาย อารมณ์เหมือนกำลังนั่งเครื่องบิน low-cost airline
ราคาก็ มองบน เนอะ ตามค่าครองชีพบ้านเค้า
แนะนำว่าหิ้วท้องไปทานที่จุดหมายปลายทางดีกว่าค่ะ
***************************
ละสายตาจากโทรศัพท์
เงยหน้าดูวิวไปพลางๆ
มีความหมู่บ้านชนบทสไตล์อังกฤษ
เห็นล่ะอยากมาลองอยู่แบบนี้ซักอาทิตย์นึง
จริงๆแล้วมีวิดีโอในตอนอยู่บนรถไฟที่อยากลงมาก แต่โพสวิดีโอไม่ได้ -_-"
และก็
ถึงแล้วค่าาาาาาาาาา
Edinburgh-Waverly Station
ทำไมเรียกแบบนี้ อืมมม ไม่รู้เหมือนกัน 555
เป็นสถานีที่ใหญ่และดูขลังมาก
เวลา departure - arrival ของแต่ละขบวนก็ดูได้จากสกรีนจอยักษ์กลางสถานี
นึกว่าอยู่ แอร์พอร์ต ซะอีก
และสถานที่แรกที่เราจะไปก็คือ Edinburgh Castle ค่ะ
วิธีไป ง่าย นิดเดียว บริหารขากันไปค่ะ เดินไปเนอะ
อันนี้จำทางออกไม่ได้จริงๆ
แน็ตเดินเข้าไปถามใน tourist information centre อยู่ในสถานีเลยค่ะ
จำได้ว่าออกมาจากสถานีเลี้ยวขวาตรงอย่างเดียวรูปบนนี่จากสามแยกแรก
นึกว่าเดินอยู่ในตรอกไดแอกอนงี้
ทาดาาาาาาา ยังไม่ถึงค่ะ
ตอนถึงแยกนี้มีความงงเล็กน้อยว่าเอ๊ะปราสาทอยู่ไหน
ตอนระหว่างเดินก็ลองถามคนข้างๆทางดู เค้าก็ชี้ไป
"It's over thereeeeeeeeee"
เสียงสูงๆยาวๆ เติมสำเนียง Scottish ชอบๆ
มองไปข้างหน้าลิบๆ นั่นแหละค่ะ
จากแยกนั้นมีสองทางเดินไปถึงปราสาทได้
เดินตรงไปผ่านหน้าตึกที่มีธงแดงๆคาดอยู่จะมีทางขึ้นเนินที่ชันมาก
และ
หันไปทางซ้ายขึ้นบันไดร้อยกว่าขั้น ตามภาพด้านล่าง
ในรูปที่เห็นนั่นแค่ พาร์ทแรก มันยังมีพาร์ทสองจำนวนขั้นพอๆกันให้ออกกำลังขากันต่อ
ให้ทายว่าแน็ตไปทางไหน
ทางขึ้นเนินจ้าาาา บริหารน่องลดสะโพกกันเลยทีเดียว
ตอนหลังเพิ่งจะเก็ทว่า อ๋ออออ บันไดที่เห็นตอนแรกนี่เดินขึ้นไปแปปเดียวถึงเลย
พอไปถึงปราสาท หอบแฮ่กมาก
สิ่งที่ตะลึงกว่านั้นคือ คิวซื้อบัตรเข้ายาวมากกกกกกกกกก
ฮืออออออ แล้วคือ ไม่มีอินเตอร์เน็ตเลยไม่สามารถซื้อจากหน้าเว็บได้
ยอมแพ้ เพราะมีเวลาจำกัด เป็นอันว่า ไม่ได้เข้าไป ได้แค่ถ่ายรูปอยู่ด้านหน้าค่ะ
รอบหน้าเจอกันนาจาาา Edinburgh Castle
จากนั้นก็เลย งงๆ กะตัวเองนิดนึงว่า เอ๊ะทำไรต่อดีน้าาาา
ไหนๆก็ไหนๆล่ะ หิวข้าว หาข้าวกินดีกว่า
ประจวบเหมาะว่า แถวๆนั้นมีร้านอาหารไทยพอดี ชื่อ Thai Orchid ค่ะ
เป็นไรไม่รู้ พอไปยุโรปจะโหยหาอาหารไทยตลอด
แต่โชคก็ไม่เข้าข้างค่ะ ร้านยังไม่เปิด
ส่วนใหญ่ที่นี่ร้านอาหารจะเปิดเที่ยงเป็นต้นไป
สิ่งตอนนั้นยัง 10 โมงอยู่เลย :(
เลยถือโอกาสถามทางพี่คนไทยในร้านซะเลย
พี่เค้าน่ารักมากๆ บอกทุกอย่างที่ควรจะรู้ ชอปปิ้งที่ไหน sight seeing ตรงไหน
อัธยาศัยดีมากๆ
ชอบคนไทยที่น่ารักๆแบบนี้ค่ะ แบบอื่นเราขอไม่พูดถึง hehe
แต่ก็เพราะพี่เค้านั่นแหละค่ะ ถึงได้รู้ว่ามีบันไดลับตรงนั้น
จากนั้นก็เดินหิ้วท้องหิวๆไปชมเมืองแทนค่ะ
อย่าถามแน็ตเลยว่ามันคือโบสถ์อะไร
รู้แต่คนจีนยืนถ่ายรูปเยอะมาก กอไก่ล้านตัว
เดินเล่นชิวๆในเมือง
จากสามแยกตึกธงแดง ถ้าเลี้ยวขวาจะเจอ Scottish National Museum ค่ะ
ซึ่งไม่ได้เข้าไปดูเพราะมีเวลาจำกัดเหมืิอนเดิม
เลยเดินลงไปดูบรรยากาศรอบๆแทน
จริงๆคือได้ยินเสียงปี่สก๊อตมาจากทางนั้น
นี่ก็เป็นสายพื้นเมือง มีความแฟนคลับของ Authentic อะไร ประวัติศาสตร์จะอินมาก
เดินตามเสียงไปจ้า
และเราก็เจอต้นเสียงในที่สุดค่ะ มันดีมากขนาดว่า ให้ตังไปแบบไม่ได้มองว่ากี่ปอนด์ เพราะจริงๆก็ยังไม่ชินเงินปอนด์อยู่ดี
ผู้ชายใส่กระโปรงในรูปนี่เอาไปเลยเต็มสิบ :D
ถ้ามองผ่านรั้วด้านหลังของพี่สองคนนั่นแล้วจะเจอกับวิวด้านล่างค่ะ
น่าอิจฉาคนที่นี่มาก บอกแล้วว่าทำไมถึงไม่อยากกลับ
มีชิงช้าด้วยน้าาา ไม่ใช่เล่นๆ
พอเดินลงมาอีกฟากนึงก็จะเจอกับร้านกาแฟเล็กๆตามรั้วค่ะ
สำหรับแน็ตแล้ว เอดินเบอระ ถือว่าจะ sight seeing ทั้งเมืองเลยก็ได้
หรือ จะมองว่าเป็นเมืองตากอากาศก็ได้เหมือนกัน
เพราะมีความ สโลว์ไลฟ์อยู่เยอะพอสมควรค่ะ
ผู้คนน่ารัก อยากเปลี่ยนสามชั่วโมงเป็นสามเดือน
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันนะค่ะ :))
เขียนผิดเขียนถูกใช้คำพูดผิดยังไงต้องขออภัยด้วยค่า
แน็ตยังมีอีกหลายทริปที่ยังเก็บรูปไว้ ไว้จะทยอยๆเอามาเล่าให้ฟังนะค่ะ
IG: ptnv_
B777-300ER
EK025
DXB-GLA
EK026
GLA-DXB
(13-15 July 2016)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in