เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#เกิดใหม่เป็นนางเอกเกมจีบหนุ่ม เดี๋ยวๆนางเอกก็ต้องเป็นผู้หญิงสิไม่ใช่ผู้ชายแบบนี้!?SolitaryRabbit
แม้แต่คนรับใช้ก็ดูจะเป็นคนแปลกๆเหมือนกัน
  • "ริอาเนี่ยทั้งทำตัวไร้เดียงสาแต่ก็ดูสูงศักดิ์ เหมือนอาสึกะเลยเนอะ" เสียงของเด็กสาวดังเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหู ในมือของเธอถือเครื่องเกมสีหวานเอาไว้ หน้าจอมีเด็กสาวผมทองคนหนึ่งยืนอยู่ เป็นเด็กสาวที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาจริงๆ ทว่าเธอกลับดูสดใส ไม่เหมือนกับอาสึกะที่ดูเงียบๆและไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์เท่าไหร่

    "เป็นอย่างนั้นเหรอ?" 

    "ใช่เลย เหมือนกันขนาดนั้น ฉันเลยอยากเห็นอาสึกะเล่นดูน่ะ ยืมเครื่องของฉันไปก็ได้"

    เธอหัวเราะคิกคัก อาสึกะไม่เข้าใจ แต่เห็นอีกฝ่ายมีความสุขเธอจึงยิ้มบางเบาให้โดยไม่รู้ตัว

    พอมานึกถึงตอนนี้แล้ว บางทีนั่นคงเป็นคำสบประมาทเราสินะ ทำไมถึงไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้...

    ...ตอนนั้นเธอคิดยังไงกับฉันกันแน่ โฮมุระ...

    ทั้งสงสัย ทั้งคาดหวัง แต่ก็กลัวเหลือเกิน ไม่อยากจะเจ็บปวดเพราะความเชื่อใจอีกแล้ว ทว่าความหอมหวานของคำว่ามิตรภาพก็ทำให้หลงอยู่ในวังวนนั้นไม่จบสิ้น สุดท้ายแล้วก็ยังคงเชื่ออยู่ลึกๆ แม้ว่าจะบอบช้ำสักแค่ไหนก็ตาม...





    นี่ผมสลบไปเหรอ?

    พอมองไปรอบๆก็รู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่รู้จัก บางทีอาจจะเป็นห้องนอนในหอก็ได้ เพราะมันก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ห้องพยาบาล

    ตอนแรกมีแผนจะแกล้งเป็นลม แต่พอล้มเลิกแผนสำรองกลับเป็นลมไปจริงๆ นี่ผมอ่อนแอแค่ไหนกันแน่ อยู่ๆก็เริ่มกลับมากลุ้มใจกับร่างกายตัวเองอีกแล้ว

    ไอ้เจ้าตัวตนที่ชื่อริออสเนี่ย ถึงจะเป็นตัวเอกชายที่มาแทนตัวเอกหญิง แต่พลังกายและอะไรหลายๆอย่างทำไมถึงไม่ได้ต่างจากผู้หญิงสักนิดเลยล่ะ มีแค่หน้าตาและไอ้นั่นที่เป็นผู้ชายหรือไงกัน? ไม่รู้ว่าเป็นที่อาสึกะหรือเป็นที่ตัวเองกันแน่ เพราะริออสก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั่นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากอาสึกะเลยสักนิด เขาควรจะเหมือนกับริอาที่เป็นตัวเอกหญิงในต้นฉบับบมากกว่า แต่นี่กลับเหมือนเป็นอาสึกะมาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ตกลงว่าโลกนี้มันเป็นยังไงกันแน่นะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

    "คุณหนูฟื้นแล้วเหรอครับ?" คนที่ส่งเสียงเรียกก็คือเอซ ที่ตอนนี้มาเป็นคนรับใช้ให้ชั่วคราว

    จะว่าไปทำไมแม้แต่คนในบ้านก็เรียกผมว่าคุณหนูนะ นั่นมันไม่ได้เอาไว้เรียกผู้ชายอายุ 17 ปี สักหน่อย... ถ้าเด็กกว่านี้ก็พอกล้อมแกล้มเรียกไปได้ แต่ตอนนี้โตขนาดนี้แล้ว ถ้าไปเรียกข้างนอกกับคนไม่คุ้นเคย มิอายแย่เหรอ? ไม่สิ ดูเหมือนจะไม่อายจริงๆ เอซเคยเรียกต่อหน้าไคลด์ไปแล้วนี่นา ผมคงจะชินที่ถูกเรียกแบบนี้ไปแล้วล่ะ...

    "เอซ...ที่นี่ที่ไหนน่ะ? ในหอพักเหรอ?" จริงๆก็อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พูดแค่นี้อีกฝ่ายก็น่าจะรู้ว่าควรเล่าอะไรบ้างแล้วละนะ

    "ใช่ครับ ที่นี่คือห้องพักของคุณหนู เอ่อ...ท่านคริสถือวิสาสะค้นตัวคุณหนูเอากุญแจมาให้น่ะครับ"

    คริส...ถึงเป็นนายก็ห้ามลวนลามผมนะ...ผมหน้าซีดหวังว่าเขาแค่หากุญแจจริงๆ

    "ข้ารอคุณหนูอยู่ที่รถม้าที่เดิม ก็ถูกท่านคริสที่อุ้มคุณหนูมาเรียก ท่านคริสเล่าว่าคุณหนูเป็นลมระหว่างงานพิธีจึงจะให้ข้าพากลับไปนอนพักที่ห้อง ข้าเลยพาท่านมาที่นี่แล้วก็จัดการนำสัมภาระขึ้นมาไว้ในนี้หมดแล้วครับ"

    ผมพยักหน้า เอซเป็นถึงมือขวาของท่านพี่จัดการอะไรๆได้เรียบร้อยอยู่แล้วจึงไม่ต้องไปตรวจสอบอะไรมากมายนัก และเขาก็คงไม่โกหกผมด้วย

    "แล้วคริสล่ะ?" ผมถามต่อ

    "ท่านคริส...กับเอ่อ...ฝ่าบาท..." แน่นอนว่าคริสไม่มีทางทิ้งไอร์ไว้ในพิธีคนเดียวแน่ๆ ก่อนผมสลบไปเขาก็บอกเองด้วยว่าไอร์จะมาด้วย ยิ่งเอซพูดถึงเขาขึ้นมาก็แสดงว่าเขาตามมาด้วยจริงๆ

    "ทั้งสองคนขอตามมาด้วย แต่นี่เป็นห้องพักส่วนตัว แม้จะเพิ่งมาถึงก็ไม่สามารถให้ทั้งคู่เข้ามาเฝ้าคุณหนูตามอำเภอใจได้ ความจริงต้องให้รอที่ส่วนห้องรับแขกด้านนอก แต่ข้าต้องดูแลคุณหนูด้วยไม่สามารถรับรองแขกให้ได้ ทั้งคู่ก็เลยไปรอที่ห้องพักที่อยู่ติดกันแทน ท่านคริสยังกำชับด้วยว่าหากคุณหนูฟื้นก็ให้ไปเรียกท่าน"

    ไม่รู้ว่าควรช็อกเรื่องที่คุณเอซคนนี้กล้าไล่ฝ่าบาทออกจากห้องก่อน หรือเรื่องที่ห้องพักอยู่ติดกันก่อนดี สรุปว่าห้องพักเราอยู่ติดกันจริงๆเหรอเนี่ย? ต้องมีการวางแผนไว้ก่อนแหงๆ

    ส่วนเอซ นายไม่กลัวว่าฝ่าบาทจะโมโหแล้วสั่งประหารนายบ้างเหรอ ถึงเขาจะเป็นไอร์ แต่เขาก็เป็นเจ้าชายเชียวนะ นายจะเห็นว่าเขาดูยิ้มแย้มเป็นมิตร เลยน่าจะไล่เขากลับไปง่ายๆโดยไม่เป็นไรก็ด่วนสรุปเกินไปแล้ว ถ้าอยู่ๆเขาดันเปลี่ยนบุคลิกขึ้นมากะทันหันนายไม่แย่หรอกเหรอ พี่ลูอิสสั่งอะไรนายไว้กันแน่เนี่ย?

    "ข้าว่าเราน่าจะหาคนรับใช้มาช่วยอีกสักคนสองคนดีไหม" ผมเหงื่อไหลพรากๆ ไม่ใช่ด้วยอากาศร้อน แต่เป็นด้วยความหวั่นวิตกของตรรกะคนด้านหน้า

    เอซยิ้มหวานให้ เขาไม่ได้ตอบรับใดๆกับข้อเสนอของผม นั่นมันน่ากลัวชะมัด...

    "ตอนนี้ข้าฟื้นแล้ว คริสบอกให้ไปเรียกเขาใช่ไหม?" 

    "คุณหนูไปอาบน้ำ และทานข้าวก่อนสักหน่อยดีไหมครับ?" เขามองผมแล้วเสนอขึ้นมา ท่าทางผมคงยังดูสภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่

    "ไม่เป็นไร คุยให้เสร็จก่อน ข้าจะได้พักผ่อนยาวๆ ไม่มีอะไรกวนใจ" ผมพูดจริงๆนะ ถ้าไม่คุยให้รู้เรื่องก่อนผมคงทำอย่างอื่นอย่างสบายใจไม่ได้

    "งั้นเดี๋ยวข้าจะไปเรียกท่านคริสมาก่อน คุณหนูอยู่ในห้องก็จริงแต่ก็ระวังความปลอดภัยนะครับ ข้าจะรีบกลับมา"

    ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าตัวเองดูอ่อนแอแค่ไหน...ผมเพิ่มเป้าหมายที่ต้องทำไปอีกข้อหนึ่ง...จะต้องทำให้ตัวเองดูแข็งแรงจนน่าพึ่งพาให้ได้...

    อา...แต่ตอนนี้ขอพักก่อนนะ...ไว้ค่อยเริ่มพรุ่งนี้แล้วกัน...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in