เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#เกิดใหม่เป็นนางเอกเกมจีบหนุ่ม เดี๋ยวๆนางเอกก็ต้องเป็นผู้หญิงสิไม่ใช่ผู้ชายแบบนี้!?SolitaryRabbit
ปลีกตัวออกไปได้สำเร็จล่ะ
  • "ช่วยหยุดพิธีสักครู่ได้ไหม?"

    ผมหันไปทางต้นเสียงก็พบกับไอร์ นี่เขาดื้อลุกออกมาจากที่นั่งรึไงเนี่ย?

    หลังจากที่เขาพูดออกมาแบบนั้นคริสที่วิ่งมาจากอีกทางหนึ่งก็รีบขึ้นมาตรงบริเวณพิธี เขาก้มลงใช้ผ้าเช็ดหน้าเก็บบางสิ่งขึ้นมา ตอนนั้นผมเพิ่งจะมองเห็น...มันมีเข็มขนาดเล็กตกอยู่ตรงจุดนั้นสามเล่ม

    นั่นมัน...อะไรกันน่ะ?

    คริสเก็บขึ้นมาพินิจพิเคราะห์เล็กน้อยก่อนจะหันรีหันขวางเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง

    "เอ่อ ฝ่าบาท..." สมาชิกกรรมการนักเรียนผู้ดำเนินงานและอาจารย์ที่เตรียมพร้อมบนพิธีต่างงุนงงและรีบเดินเข้ามาหาไอร์

    ตอนนั้นเองที่ผมเห็นความผิดปกติ ใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงเป็นเจ้าชายคนเดิม แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม เขาไม่ได้มีใบหน้าอารมณ์ดีชวนให้สบายใจแบบเดิม กลับเป็นสีหน้าเคร่งเครียดและดวงตาที่เย็นเยียบ ถ้าแค่มองผ่านๆผมคงจะคิดว่าเขาแค่อยู่ในโหมดซีเรียสเท่านั้น ทว่าอาสึกะเคยอ่านบทความแนะนำตัวละครนั่น ที่บอกว่าเขามีสองบุคลิก พอมาเห็นเองก็รู้สึกว่าเหมือนเป็นคนละคนจริงๆ

    "มีพิษรึเปล่า?" เจ้าชายเอ่ยเพียงสั้นๆ แต่ผมกลับตกใจ คนอื่นๆไม่ได้เห็นเข็มที่คริสเก็บขึ้นมาจึงไม่รู้ว่าเขาพูดถึงอะไร

    "มีกลิ่นแปลกๆ แต่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดกว่านี้ก่อนขอรับ" คริสตอบ หมอนี่ก็ท่าทางนอบน้อมผิดปกติเหมือนกัน แต่ก็พอจะมองว่าเป็นการแสดงบทบาทได้อยู่เหมือนกัน ยิ่งอยู่ในสถานการณ์จริงจังแล้วท่าทีแบบนี้ก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร

    "ก...เกิดอะไรขึ้นขอรับ"

    พอถูกคนอื่นๆถามขึ้นมาไอร์ก็มีท่าทีครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบปฏิเสธ "ไม่มีอะไร พวกเจ้าจัดพิธีต่อเถอะ แต่เพิ่มคนดูแลความปลอดภัยด้วยก็ดี นักเรียนในนี้มาตัวเปล่าไม่ได้พาคนดูแลมาด้วย ถ้าเกิดเหตุอันตรายจะไม่ทันการณ์เอา"

    พูดขนาดนั้นแต่กลับบอกว่าไม่มีอะไร ดูยังไงก็ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าถามเขา รุ่นพี่กรรมการนักเรียนกับอาจารย์เลยได้แต่เพียงทำตามที่เขาแนะนำ

    "คริส..." ผมเรียกคนที่อยู่ใกล้ตัว รู้สึกติดใจที่อัศวินอารักษ์อย่างเขาวิ่งมาคนละทางกับที่เจ้าชายมา ผมไม่รู้ตำแหน่งของที่นั่งชมพิเศษนั่นหรอก แต่พวกเขาสองคนควรจะอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงวิ่งมาคนละทางล่ะ? แถมยังสงสัยเรื่องเข็มในมือเขาอีก แทบไม่กล้าคิดเลยว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นมา

    "เอาไว้เสร็จแล้วเราไปคุยกันที่หอ เจ้ารีบๆทดสอบพลังเวทย์เร็วๆ ข้าจะรออยู่ด้านล่าง" แม้จะมีสีหน้าเคร่งเครียดแต่อีกฝ่ายก็พยายามคลี่ยิ้มออกมาเพื่อให้ผมสบายใจ

    "เข้าใจแล้ว..." เพราะเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่ พวกอาจารย์เลยต้องไปช่วยกันจัดแจงความปลอยภัยชั่วคราวทำให้ผมมีเวลาพักหายใจเล็กน้อย

    ผมหลับตาพยายามทำสมาธิ ไล่เรื่องเมื่อครู่ออกไปให้หมด ยิ่งมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ถ้าผมแสดงตัวว่าสามารถใช้เวทมนตร์ได้สองสายตอนนี้ คงจะต้องวุ่นวายแน่ๆ ฉะนั้นตอนนี้ยังไงก็ต้องพยายามควบคุมพลังเวทย์ให้ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะแกล้งเป็นลมแล้วจริงๆนะ เจอเรื่องแปลกๆขนาดนี้จะตกใจเป็นลม คนคงไม่สงสัยมากนักหรอก แค่มองว่าผมอ่อนแอบอบบางผิดผู้ชายไปบ้างเท่านั้นเอง แต่คุณชายชนชั้นสูงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลกสักหน่อย

    พอทำตามที่คริสแนะนำมา ผมก็เริ่มสัมผัสถึงพลังเวทย์ได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่หลับตาอยู่แต่กลับ มองเห็นแสงสีต่างๆมากมาย แสงเหล่านั้นกระจุกตัวอยู่รวมกัน กลายเป็นรูปร่างต่างๆ คน พืชพรรณ สิ่งของ เหมือนผมลืมตามองรอบๆตัวเอง แต่ทั้งหมดนั้นกลับกลายเป็นเม็ดสีเล็กๆราวทรายละเอียด ผมรู้ได้ว่านั้นคือพลังของธาตุต่างๆ

    ถึงจะสัมผัสเวทมนตร์ได้แล้ว แต่ก็ยังห่างไกลจากการแยกสายพลัง ไม่เห็นจะมีสีเงินอะไรนั่นเลย ผมเห็นเพียงแต่สีต่างๆที่แสดงออกถึงธาตุเท่านั้น จึงเพ่งสมาธิให้มากยิ่งขึ้น

    "คุณฟาไรล์" ผมหลุดจากสมาธิ พอลืมตาขึ้นก็เห็นว่าหนึ่งในพวกอาจารย์มาเรียกผม "เธอจะรีบกลับไปพักผ่อนที่หอใช่ไหมคุณอัลทิอัสแจ้งไว้ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีจริงๆ"

    "ค...ครับ" อัลทิอัส?...อ้อ หมายถึงเฟอร่าสินะ ว่าแต่ผมสีหน้าแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ?

    "ถ้าอย่างนั้นรีบมาทดสอบพลังจะได้รีบไปพักผ่อนซะ"

    ผมพยักหน้า แต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าจะสลบก็ต้องตอนนี้แหละ...

    พอเอามือแตะไปที่ลูกแก้ว สีด้านในก็ค่อยๆเปลี่ยน มันขยับหมุนวนราวกับมีน้ำอยู่ข้างใน ผมรู้สึกเหมือนกับมันเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่พยายามดูดอะไรสักอย่างออกไปจากมือของผม

    "เอ...รู้สึกสีมันจะแปลกๆนะ" อาจารย์พูดทำให้ผมสะดุ้งตกใจ แปลกจริงๆด้วยแหะ เอาไงดี...

    ผมหลับตาแล้วพยายามสัมผัสไปที่ลูกแก้ว ผมมองเห็นเม็ดสีหลากหลายถูกดูดผ่านไปยังลูกแก้วจริงๆด้วย ตอนนี้ผมสัมผัสถึงมันได้ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมหรือสั่งให้เม็ดสีเหล่านั้นขยับได้เลย อีกทั้งไม่รู้ว่าเม็ดสีไหนคือพลังสายตะวันหรือจันทราอีก ท่าจะไม่ดีแล้ว ไหนๆก็หลับตาอยู่ แกล้งล้มลงไปเลยก็ท่าจะดีนะ

    ตอนที่ฟุ้งซ่านอยู่นั้นเองก็เพิ่งจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เพราะเพิ่งถูกดูดเจ้าเม็ดสีๆนั่นเข้าไปไม่นาน จึงยังเห็นเม็ดสีเก่าของเฟอร่าอยู่ มันไม่ได้มีสีเดียวอย่างที่เห็นเป็นสีเงินภายนอก แต่มันมีลักษณะคล้ายๆกัน ผมพยายามเพ่งมอง ดูเหมือนว่าเจ้าเม็ดสีๆพวกนี้จะไม่ได้ต่างกันแค่สีเท่านั้น เม็ดสีสายจันทราของเฟอร่าเป็นเม็ดสีที่มีแสงทะแยงออกมาแหลมๆราวกับรัศมีของดวงอาทิตย์ (หรือบางทีอาจจะคล้ายๆเม็ดเกาลัดที่ไม่ได้แกะเปลือก...) แต่เม็ดสีที่ถูกดูดมาจากมือของผมมีเม็ดสีที่ดูนุ่มนวลสบายตาและกลมกลึงผสมอยู่ด้วย

    หรือว่าเม็ดสีแหลมๆนั่นคือสายจันทรา แล้วอีกแบบก็คือสายตะวัน? มันเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น แต่ผมก็ว่าน่าจะลองเชื่อแนวคิดนี้ดู เพราะคิดอะไรมากกว่านี้ไม่ออกแล้ว ที่เหลือก็แค่บังคับให้เม็ดสีสายใดสายหนึ่งไม่โดนลูกแก้วดูดออกไป...ยากแหะ

    ผมพยายามในสมาธิ แต่ก็ทำได้เพียงแยกแยะเท่านั้น ควบคุมมันยังไงล่ะทีนี้

    ผมนึกถึงคำแนะนำของคริส แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมมากนัก...ผมเลยเปลี่ยนไปนึกถึงความทรงจำของอาสึกะแทน...คาบเรียนเวทมนตร์ในเกม อาจารย์พูดว่าอะไรบ้างนะ? ควบคุมด้วยคำสั่ง? อะไรทำนองนั้น คำสั่งงั้นเหรอ? หรือผมจะลองสั่งเจ้าเม็ดเล็กๆพวกนี้ดู...

    ...หยุด... ผมคิดในใจ นึกไม่ถึงว่าเจ้าเม็ดๆที่โดนดูดไปจะหยุดจริงๆ

    พลังของตัวเอกนี่ช่างสุดยอดชะมัด ไม่ว่ายังไงริออส...ผม...ก็เป็นตัวเอกของเกมล่ะนะ...การที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นตัวเอกให้ความรู้สึกประหม่าและกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ

    จากนั้นผมก็ทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยให้สัญญาณว่ารถ เอ็ยเจ้าเม็ดสีๆนี่เม็ดไหนผ่านได้เม็ดไหนผ่านไม่ได้ นั่นใช้พลังสมาธิผมมากๆแม้ในความจริงจะผ่านไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ แต่หน้าผากของผมก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลลงมา

    ผมลืมตาขึ้นมาก็พบกับลูกแก้วสีทองสว่าง...สีแบบนี้คือผมทำถูกแล้วใช่ไหม?

    "คุณฟาไรล์ ดูเหมือนจะเป็นสายตะวันสินะ" อาจารย์บอก ทำให้ผมโล่งอก ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยถูกกับอีกสองคนสายจันทราจึงเลือกสายตะวันมาแทน

    "ดูคุณเหนื่อยมาก รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้ว" 

    "ค...ครับ"

    จบสิ้นสักที เหนื่อยชะมัด

    พอผมก้าวลงไปถึงล่างเวที ก็เห็นคริสยืนรออยู่ เขารีบส่งมือมาให้ผมทันที

    "เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปส่งที่ห้อง จากนั้นค่อยคุยกัน"

    ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ "เจ้าเป็นอัศวินของใครกันแน่"

    "เจ้าชายก็ไปด้วยน่า..." คริสแหวกลับ ตอนที่ผมส่งมือให้เขา

    "งั้นเหรอ..." แล้วผมก็วูบไปจริงๆ

    "ริออส!!!"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in