เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Log Book ที่รัก♡ployapha.j
ล่องเรือลงใต้ ข้ามเส้นศูนย์สูตร ตะลุย Deep South Maldives


  • 8 February 2020




    สวัสดี Log book ที่รัก♡


    ในที่สุดเราก็ได้กลับมาสานต่อความตั้งใจเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับการมาเยือน มัลดีฟส์ อีกครั้งหนึ่ง จากความประทับใจกับทริป Liveaboard ครั้งแรกในชีวิตที่ลัดเลาะกุ๊กกิ๊กดำน้ำอยู่ใน Standard Route เราก็ปฎิญาณกับตัวเองว่าจะกลับมาที่นี่ให้ได้!

    ในคราวนี้ เรากำลังนั่งเครื่องบินใบพัดลำเล็กจาก Male เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์ มุ่งสู่เกาะ Kooddoo เพื่อล่องเรือลงใต้ ข้ามเส้นศูนย์สูตร และลัดเลาะไปตาม Deep South Route เป็นเวลา 7 วัน 6 คืน บนเรือ MV Princesa Luluka เพื่อไปที่จุดดำน้ำชื่อดังระดับโลก! และแน่นอนว่าเราจะไปกับใครอื่นไม่ได้นอกจาก LET's Dive Thailand คนดีคนเดิมทีมนี้นี่เองงงงงงงง
























    บินสบาย ๆ กับ Maldivian
    ซึ่งนี่คือการนั่งเครื่องบินใบพัดครั้งแรกของเราค่ะ
    ตื่นเต้นดีเหมือนกันแหะ


















    สนามบิน Kooddoo เป็นสนามบินเล็ก ๆ ติดทะเลค่ะ
    หยิบกระเป๋าปุ๊บก็เดินไปขึ้นเรือได้เล้ย











    พอขึ้นมาบนเรือ MV Princesa Luluka แล้ว Humpack, Rey และ Musa ไดฟ์หลีดของเราในทริปนี้ก็มาแนะนำตัวและบรีฟเกี่ยวกับกฎระเบียบของเรือ ก่อนที่พวกเราทุกคนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อตื่นมา check dive ในวันพรุ่งนี้เช้าค่ะ







    Humpack, Rey และ Musa ค่าาาา
    ซึ่งเราเป็นทีม Rey เย้เย้เย้




















  • 9 February 2020




    Dive 1 - Vilingili Beyru | Gaafu Alif

    Depth: 30.8 m. | Time: 52 mins










    เสียงกระดิ่งที่คุ้นเคยปลุกเราให้ฟื้นคืนชีพมารับแดดอันสดใสยามเช้าและฟังบรีฟเกี่ยวกับไดฟ์ไซต์แรกของเรา นั่นก็คือ Vilingili Beyru ค่ะ

    คำว่า Beyru ในภาษามัลดีเวียน แปลว่า ด้านนอก (outside) ดังนั้นจุดที่เราจะลงไปจะเป็นด้านนอกของเกาะ Vilingili ที่มีลักษณะเป็นกองหินแล้วก็ค่อย ๆ เป็นทางลาดลงไป Humpack บอกกับเราว่าในไดฟ์นี้ทุกคนจะต้องหัดยิง SMB ให้ได้ เพราะสิ่งนี้จำเป็นมาก ๆ ไดฟ์เวอร์ทุกคนต้องมีติดตัวไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉิน ฉะนั้นไดฟ์นี้ก็ถือว่าเป็นไดฟ์เตรียมความพร้อม จัดการอุปกรณ์ และลองกล้องให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปตะลุยกระแสน้ำในไดฟ์ต่อ ๆ ไป














    ลักษณะก็เป็นกองหินแล้วก็มีทางลาดลงไปค่ะ
























    ตรงนี้คืออะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน
    แต่เหม็นกลิ่นกำมะถันมากๆเลย :(
















    Dive 2 - Vilingili Kandu

    Depth: 27.8 m. | Time: 53 mins






    ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ Pre-Deep South กันแล้ว เพราะเราจะมาดำน้ำในจุดที่เป็น Channel Dive กัน โดยลักษณะของไดฟ์ไซต์ที่เป็นแบบนี้จะอยู่ระหว่างช่องเขาใต้ทะเล เราจะลอยบุ๋งไปตามกระแสน้ำพัดเข้าหาเกาะหรือพัดออกจากเกาะ ประกอบกับกระแสน้ำของมหาสมุทรด้วย เนื่องจากที่นี่เป็นทะเลเปิดค่ะ (อธิบายเกี่ยวกับกระแสน้ำและทิศทางของลมมรสุมในมัลดีฟส์ไว้ที่บล็อก Standard Route EP1 นะคะ ตามไปอ่านกันได้)


    ที่เราบอกว่าไดฟ์นี้คือ Pre-Deep South เพราะประมาณ 90% ของการดำน้ำต่อจากนี้จะเป็นแบบนี้ทั้งหมดเลย ฉะนั้นไดฟ์นี้ก็เหมือนกับการเตรียมตัวนั่นเองค่ะ



    อยากเพิ่มเติมไว้เล็กน้อยว่าควรฟังบรีฟบนเรือก่อนไปเปลี่ยนชุดด้วยความตั้งใจ และฟังอีกรอบนึงตอนก่อนจะลงน้ำ เผื่อว่ากระแสน้ำมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันความสับสนและอาจพลัดหลงจากกลุ่มได้ค่ะ











    หวัดดีพี่มอเรย์















    เจอ Whitetip Reef Shark ด้วย เย่



































    คุณเต่าสายชิวววว















    บุ๋งไปบุ๋งมาแล้วก็โอ๊ะะะ ขอโทษทีคุณปลาลิ้นหมา
















    พี่เห็นหนูด้วยหรอ?















    Dive 3 - Kooddoo Shark Point

    Depth: 13.8 m. | Time: 34 mins



    ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์เด่นประจำวัน เนื่องจากเราจะไปดู Spinner Shark กัน โดยวิธีการก็คือเมื่อเราดำลงไปใต้น้ำประมาณ 5 - 10 เมตร ให้รักษาระดับการลอยตัวไว้อยู่ประมาณนี้แล้ว ให้ยิง SMB ขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อบอกพิกัดกับเรือด้านบน จากนั้นทางเรือจะโยนเศษปลาต่างๆที่ได้มาจากรีสอร์ทและโรงงานปลากระป๋องลงมาเพื่อล่อฉลามค่ะ










    บริเวณนี้เคยเป็นโรงงานทูน่าเก่าซึ่งทิ้งเศษปลาที่เหลือๆจากโรงงานลงน้ำทุกวั๊นทุกวัน จนพวกปลาต่างๆรู้ว่าอ้อออ ตรงนี้มีอาหารนี่นา เลยเป็นที่มาของจุดดำน้ำนี้ค่ะ และเจ้าพวก Spinner Shark ก็เป็นหนึ่งในนั้นนั่นเอง


    และเจ้า Spinner Shark นี้เป็นฉลามชนิดที่จะต้องว่ายน้ำอยู่ตลอดเวลา หยุดเมื่อไรตายเมื่อนั้น เพราะฉลามไม่มีถุงลมเก็บอากาศไว้สำหรับแลกเปลี่ยนก๊าซเหมือนปลาชนิดอื่นแต่อย่างใด พวกมันหายใจได้เพราะการเคลื่อนที่ เมื่อมันว่ายไปข้างหน้า กระแสน้ำก็จะไหลผ่านปากเข้าเหงือก ออกซิเจนก็จะถูกเก็บเอาไว้ และปล่อยน้ำส่วนที่เหลือออกมา

    แต่ในฉลามบางกลุ่มสามารถหยุดนิ่งได้เป็นเวลานาน สังเกตจากเวลาที่เราไปเจอพวก Reef Shark ทั้งหลายที่แอ้งแม้งอยู่ในซอกหิน หรือ Nurse Shark ที่มานอนแปะนิ่งอยู่ข้างๆ เนื่องจากฉลามเหล่านี้หากินด้วยการซุ่มอยู่นิ่งๆ จึงมีการพัฒนากล้ามเนื้อแก้มที่สามารถดึงน้ำให้ไหลเข้าเหงือได้โดยเฉพาะนั่นเองค่ะ





















    ตอนที่ลอยอยู่กลางน้ำก็ตื่นเต้นมาก
    อู้ววว ฉลามเต็มไปหมดเล้ย ไม่รู้จะถ่ายตรงไหนดี
    (และถึงถ่าย ก็ไม่ชัด ไม่ทันอีก เลยแชะๆไว้นิดหน่อยแล้วก็ยืนถือกล้อง มองเฉยๆเอาค่ะ)















































    มีนโปเลียนมาทักทายด้วยหนึ่งตัว แต่ไม่มีใครสนใจเท่าไร ฮาาา
















    หน้าตาเต็มๆของเจ้า Spinner Shark ค่ะ
    ขอบคุณรูปจากครูแมททิวเด้อออออ
















    จบวันด้วยความประทับใจจ้า












    ยัง! ยังไม่จบ!!








    หลังจากไดฟ์สุดท้าย เราก็นั่งเล่น กินข้าว นอนเล่น นั่งชิว จิบเบียร์เย็น ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงดนตรีที่ท้ายเรือ ระหว่างที่พี่ ๆ คนเรือเขาเอาไฟมาตั้งเพื่อล่อแพลงตอน เผื่อว่าจะมีสัตว์ใหญ่แวะเวียนมาให้เราชมเชยกันบ้าง ซึ่งเราก็เฮฮาปาจิงโกะ รอดูว่าเอ๊ะะะ จะมีอะไรโผล่มาเซอร์ไพร์สรึเปล่าหนอ จนเวลาล่วงเลยไปถึงสี่ทุ่มนิด ๆ ก็แยกย้ายไปนอน




    แหม่... เรายังเหลืออีกหลายไดฟ์ที่จะต้องดำน้ำ
    จะมาสกิปไดฟ์เช้ากันตั้งแต่วันที่สองของทริปไม่ด๊ายยยย





    เราก็กลับเข้าห้อง จัดแจงล้างหน้า แปรงฟัน กำลังจะเปิดกระปุกควักครีมมาทาหน้า ก็มีเสียงคนวิ่งตึ่งๆๆๆๆ แล้วก็เคาะประตูปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตามด้วยเสียงตะโกนว่า




    Whale Shark! Whale Shark!!

    WHALE SHARKKKKKKKKKK!!!



    ทีแรกก็คิดว่าแกล้งกันเล่น ๆ แน่เลย แต่ใจตื่นเต้นตึกตักไปแล้ว เราเปิดประตูไปก็เห็นว่า โจนี่ คนเรือเป็นคนมาเรียก เขาทำหน้าตาจริงจังมากและบอกว่า "Whale Shark at the back!"







    อิเชี่ยยยยย ของจริงว่ะ!







    ตอนนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้ตัวเองจะเปลี่ยนชุดว่ายน้ำอย่างไวว่องเหมือนองค์เดอะแฟลชเข้าสิงขนาดนี้ เราโดดแผล่วจากชั้นล่างสุด โดดขึ้นบันได พุ่งตัวไปที่ท้ายเรือซึ่งทุกคนกำลังมุงกันอยู่






    ฉลามวาฬฬฬฬฬฬฬ
    ครั้งแรกกกกกกกกก
    ในชีวิตตตตตตตตต




    (อ๊ากกกกกกกกกก)






    เราโดดลงไปเรือเล็กที่เก็บอุปกรณ์ดำน้ำ ใส่ฟิน และค่อย ๆ หย่อนตัวเองลงน้ำด้วยความเงียบที่สุด ทั้ง ๆ ที่ในใจเต้นตึงตังโครมครามจนแทบหลุดออกมาจากอก จากนั้นค่อย ๆ ว่ายดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยความปริ่มใจ








    "Achievement Unlocked - Whale Shark"









    ขอบคุณภาพจากคลิปของพี่เฟรนด์ค่า

















    อันนี้ได้มาจากกล้องใครไม่ทราบค่า
    (หนูลืม แง้ - น่าจะกล้องพี่โจรึเปล่าคะ?)
    ครูแมททิวถ่ายอีกเช่นเคย











    และนี่คือหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเราอีกหนึ่งเรื่องค่ะ มันไม่ใช่ความรู้สึกดีใจและตื้นตันที่ได้เจอฉลามวาฬที่เราเฝ้าฝันอยากพบมานานแสนนานเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือเสี้ยววินาทีที่เราได้เจอ ได้พบ หรือได้ลองทำอะไรซักอย่างเป็นครั้งแรก แล้วมันเป็นจุดประกายกลายเป็นแรงผลักดันให้เราอยากทำสิ่งอื่นอีกหลายต่อหลายอย่างตามมา





    เราอยากลงเรียน free diving อย่างจริงจัง
    เราอยากเก็บเงินไปดำน้ำที่อื่น ๆ รอบโลก
    เราอยากออกไปค้น ไปพบ ไปเจอ
     และไปทำสิ่งที่ทำให้หัวใจลิงโลดแบบนี้อีกหลาย ๆ ครั้ง





    ขอบคุณฉลามวาฬที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนกันในวันนี้
    ที่ทำให้ประกายไฟในดวงใจกลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

    และขอบคุณตัวของเราในวันนั้นที่นึกอยากมาเรียนดำน้ำ
    และยังคงมีความฝันว่าจะเอาสองเท้าออกไปเกาโลก
    ไปพร้อม ๆ กับสำรวจใต้ทะเล :)









    เราผู้ท่าประหลาดเหลือเกิน ตื่นเต้นจนฮุบอากาศได้น้อย
    แถมจัดระเบียบร่างกายไม่ได้เลย แง้
















  • 10 February 2020







    Dive 4 - Villingili Beyru

    Depth: 28.8 m. | Time: 52 mins


    เช้านี้เรากลับไปที่ Villngili  Beyru กันอีกครั้งนึงเพื่อไปเก็บตกด้านที่ยังไม่ได้ไปในไดฟ์ไซต์แห่งนี้ค่ะ :)




































































    Dive 5 - Kuredhdhoo Kandu

    Depth: 24.5 m. | Time: 51 mins



    เจอคำว่า Kandu ทีไร ใจก็คิดว่าต้องตีฟินสู้กระแสน้ำอีกแล้วแหะ เพราะนี่เป็น Channel Dive อีกแล้วค่า ซึ่งบริเวณนี้เราชอบมาก ๆ เลยนะ มีปะการังและสัตว์น้ำปุ๊กปิ๊กให้ดูเยอะแยะเลยค่ะ













































































































































    Dive 6 - Nilandhoo Kandu

    Depth: 25 m. | Time: 41 mins



    นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Channel Dive ที่น่าสนใจของเส้น Deep South ค่ะ เพราะว่าเราจะเอาฮุกไปเกาะอยู่บนขอบของหน้าผาหินใต้น้ำเพื่อดูฝูงฉลามว่ายไปในบริเวณนั้น และด้วยความที่มันเป็นทะเลเปิดเลยมีกระแสน้ำผ่านช่วงขอบผาค่อนข้างแรงมาก ต้องสับฟินสู้กับกระแสน้ำพอสมควรเลยค่ะ








    กระเบนนกแวะมาทักทาย














    จุดที่ฮุกตัวเองไว้กับโขดหินค่ะ

    ต้องเอามือปัด ๆ ดูให้ดีก่อนว่านี่เป็นหินหรือปะการังกันแน่
    ทุลักทุเลพอสมควรเลยเพราะว่าน้ำพัดเข้ามาแรงมากกกกกกกกก





















    กว่าจะจัดระเบียบร่างกาย ฮุกตัวเองกับหินและ bcd เรียบร้อยก็ทำเอาเหนื่อยเลยค่ะ

    ทริปนี้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนใช้อากาศเปลืองมากๆ
    เพราะปกติเราจะเหลืออากาศ 100 บาร์++ ตลอด
    แต่นี่คือหอบแห่กสูดอากาศเข้าออกเยอะมาก











    หลังจากดูฉลามเสร็จเราก็ปล่อยตัวเองไหลไปตามน้ำพัดมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่กระแสน้ำเบาบางลงมา ก็ถ่ายรูปเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนจบไดฟ์ค่ะ
























































  • 11 February 2020




    Dive 6 - Vodamula Kandu

    Depth: 24.2 m. | Time: 49 mins



    เช้ามาก็เจอกับ Channel Dive อีกแล้วครับผ้มมมม ตีฟินกันขาสั่นหน้าสั่นกันตั้งแต่ไดฟ์แรกของวันเลยทีเดียวล่ะเน้ออออ































    ไดฟ์นี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร เหมือนมายืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายยามเช้าแหละ :3











    Dive 7 - Kondey Kandu

    Depth: 30.3 m. | Time: 65 mins



    ไดฟ์ที่สองของวันนี้ เรานั่งเรือเล็กฝ่าคลื่นที่ซัดตู้มมมมมมเข้าเรือแบบไม่ยั้งเพื่อไปที่จุดดำน้ำค่ะ ระหว่างนั่งเรือไปใจก็คิดว่าโอ้โหหหหหหห คลื่นแรงมากกกกกกกกกกกก โยกเหมือนเล่นไวกิ้งเลย ถ้าโดดลงน้ำไปแล้วต้องรีบลงไปที่ห้าเมตรข้างล่างแล้ว ไม่งั้นอ้วกแน่นอน แถมจะโดนน้ำพัดไปไกลด้วย





    ก่อนลงไปก็คิดงี้แหละค่ะ มีการวางแผนชีวิตเรียบร้อย












    พอดำน้ำลงมาแล้วก็พบว่าใต้น้ำนั้นนิ่งมาก เหมือนคลื่นด้านบนที่โหมกระหน่ำนั้นไม่มีอยู่จริง ดำน้ำเริงร่าลัลลามาก ๆ ไม่ได้เซฟพลังงานไว้สำหรับตอนหลังไดฟ์แต่อย่างใด













































































    พอจบไดฟ์เท่านั้นแหละ ความบันเทิงก็เกิดขึ้น!

    (หากคุณแม่เปิดมาอ่านถึงตอนนี้ก็เลื่อนผ่านไปยาว ๆ เลยนะค้าาาาา)




    ตอนเราทำ safety stop อยู่ที่ 5 เมตร ไดฟ์หลีดก็ส่งสัญญาณสั่งให้รออยู่ใต้น้ำก่อน ซึ่งเราก็รอนะ รอจนเริ่มจะหายใจไม่ค่อยออกเพราะในแท็งค์เหลืออากาศอยู่นิดดดดดดดดเดียวแล้ว เลยตัดสินใจค่อย ๆ กระดึบ ๆ ตัวขึ้นมาที่ผิวน้ำ ปรากฎว่าทะเลตอนนั้นเป็นเหมือนเพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่งเลยครับ ซัดตู้มมมมมมมมไปก็ตู้มมมมมมมมมมมมา พวกเราเลยเกาะตัวกันเป็นกลุ่มไว้เพื่อรอให้เรือวนมารับ


    ตอนนั้นมันเริ่มจะเวียนหัวเพราะเมาคลื่น แถมเริ่มจะหมดแรงเพราะต้องพยุงตัวอยู่ในน้ำตลอดเวลา (หันไปถามพี่โจว่าหนูควรเอา SMB ออกมามั้ย แบบว่าเป่าให้เป็นทุ่นจะได้เกาะไว้ แต่พี่โจก็ยัด SMB ใส่มือมาให้เราแทน ก็โอเค 55555) แล้วก็รอไปเรื่อย ๆ ให้เรือวนมารับ (หันไปบอกพี่อาร์มว่า พี่ หนูไม่ไหวแล้วว)



    และในที่สุดเรือก็มา! เรา ณ ขณะนั้นคือหมดแรงแล้วจ้า แต่ก็เอาวะ กระเสือกกระสนตัวเองให้อยู่ในกลุ่ม แล้วตอนนั้นเหมือนทุกอย่างเป็นภาพสโลว์โมชั่นอะ ทางเรือเค้าโยนเชือกมาให้จับ แต่ปลายเชือกมันมาไม่ถึงเว้ยยย แขนข้างนึงเราหนีบ SMB อยู่ มืออีกข้างเอื้อมไปคว้าคอแท็งค์ของคนข้างหน้า (น่าจะพี่บรีซ) คือเอื้อมเหยียดแขนไปแบบแบบอีกแค่ 3 เซนต์ มือจะจับได้แล้วอะ






    วืดดดดดดดดดดดดดดดด


    ไอ่สัสสสสสสส
    คลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาพอดี๊



    ข้าพเจ้าก็ปลิวหลุดออกจากกลุ่มไป




    เราได้ยินเสียงคนกรี๊ด แล้วก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกชื่อดังมากกกก แต่ตอนนั้นขาซ้ายเป็นตะคริวไปแล้วจ้า คือซีกซ้ายเกร็งจนปวดแล้ว และตอนนั้นเราในใจคิดว่า ไม่! กูต้องตีขากลับไป!! แล้วก็ฮึบตีขา แต่ตอนนั้นเหมือนทุกอย่างมันไร้ประโยชน์ เราเตะขาสองสามครั้งก็ต้องหยุดเพราะปวดเกร็งมากแถมโดนคลื่นซัดเข้าหน้าเข้าปาก สำลักน้ำค่อกแค่ก เลยถูกพัดลอยออกไปไกลดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก พออับโชคตกลงกลางทะเลใจจจ



    สุดท้าย Humpack เป็นฮีโร่ว่ายน้ำมาช่วย เขาก็ปลอบบอกว่า It's ok now ให้ใจเย็น ๆ หายใจนะ ไม่เป็นไรแล้วนะยู ตอนนั้นเราก็คือพะงาบ ๆ หายใจรวยริน มีจังหวะที่เหมือนวูบไปแล้วอะ และจังหวะที่เราก้าวขาขึ้นเรือคือแรงเฮือกสุดท้ายที่ใช้ปีนขึ้นบันไดสามขั้น พอขึ้นมาบนเรือได้ปุ๊บคือทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเลย

    จำได้ว่าพี่วินกับพี่เอ็กซ์อุ้มเรามาวางแปะไว้แล้วพี่หม่อนเข้ามาชาร์จ เอาผ้ามาห่มให้ ทุกคนเอาน้ำมาให้จิบก้บล้างหน้าแล้วก็ช่วยถอดเอา wet suit ออกให้ พอถึงที่เรือก็ประคองพาเข้ามานั่งในห้องน้ำ ชงโกโก้มาให้ดื่ม พอเราดีขึ้นก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่มานั่งให้ออกซิเจนค่ะ









    ให้ออกซิเจนคนอื่นบนเครื่องบินมาเยอะแล้ว ถึงคราวตัวเองมานอนแปะหายใจเข้าลึกออกยาวกับเขาบ้างแล้วล่ะ ฮาาาาาาาา



    ก็ต้องขอบคุณไดฟ์หลีดทุกคน โดยเฉพาะ Humpack ที่เป็นฮีโร่โดดลงมาช่วยในครั้งนี้
    และทุก ๆ คนบนเรือที่ช่วยดูแลหนูนะคะ ซึ้งในน้ำใจของทุก ๆ คนมาก ๆ เลยค่า




    ก็ถือเป็นเรื่องเล่าสนุก ๆ  ก็แล้วกันเนอะ
    ว่าครั้งหนึ่งได้โดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล ลมพัดลมเพไปตามกระแส
    จนต้องมานั่งดมออกซิเจนนี่แหละจ้า














    Night Party - BBQ Dinner on the beach




    ไดฟ์ต่อมาเราข้ามค่ะ (เขาไปไดฟ์ไซต์น่ารัก ๆ เป็น House Reef ดูปะการังกัน) ขอนอนยาวในห้องไปตลอดบ่ายจนตื่นมาตอนเย็นก็รู้สึกแข็งแรงแฮปปี้ดีขึ้นมาก มานั่งกินบาบีคิวปาร์ตี้ริมหาดด้วยความสดใส























    เป็นค่ำคืนที่ดี อบอุ่น น่ารัก และเป็นกันเองมาก ๆ เลยค่ะ :)













  • 12 February 2020





    Dive 8 - Maareha Kandu

    Depth: 27 m. | Time: 39 mins


    เราข้ามไดฟ์เช้าไปอีกไดฟ์นึงเพราะยังไม่รู้สึกว่าร่างกายพร้อม 100% เลยมาลงน้ำในไดฟ์ตอนเที่ยงวันอีกทีค่ะ เหล่าไดฟ์หลีดก็มาทักว่ายูพร้อมนะ โอเคแน่แล้วนะ เราก็เยสสสส สบายมากกกกกกก กลับมาซู่ซ่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานแล้วจ้าาาาา
























































    Dive 9 - Kaisidhoo House Reef | Gaafu Dhaalu

    Depth: 30.7 m. | Time: 46 mins




    ตอนนี้เราย้ายเรือมาอยู่ในจุดของเกาะ Gaafu Dhaalu กันแล้วซึ่งตรงจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีปะการังขึ้นกันอยู่หนาแน่นค่ะ
























    น้ำนิ่งมาก ใสมาก ทางเราก็แฮปปี้มาก ๆ ค่ะ





















































    จากนั้นเราก็เดินเรือข้ามเส้นศูนย์สูตรเข้าสู่ซีกโลกใต้เพื่อไปที่เกาะ Gnaviyani Atoll ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ South Maldives ตอนกลางค่ะ














  • 13 February 2020


    Dive 10 & 11 - Fuvahmulah Plato | Gnaviyani Atoll

    Depth: 32 m. | Time: 42 mins

    Depth: 38.5 m. | Time: 42 mins




    เช้าวันนี้เป็นวันที่เราตื่นเต้นม๊ากมากเพราะเราจะไปกันที่ Fuvahmulah หนึ่งในจุดดำน้ำชื่อดังระดับโลกนั่นเองค่าาาาาา 



    จุดตรงนี้เป็นเหมือนลานทรายกว้างขนาดใหญ่มากมากมากมากมากที่อยู่ลึกลงไปใต้ทะเล จากที่เราเห็นภาพคนนู้นคนนี้ที่เคยมาที่นี่ก็เจอฉลามวาฬบ้าง ฉลามหัวฆ้อนบ้าง หรือแม้กระทั่งโมลาโมลาก็มาโผล่ให้เห็นกับเขาด้วย เราก็ได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้เจอในสิ่งที่อยากพบอยากเจอด้วยเถิ๊ด สาธุ๊ มาตั้งไกล ให้เราเห็นด้วยเถ๊อะะะะ เพี้ยงงงงงงงงงงง








    มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก สู่แสงแรกแห่งดวงอาทิตย์
    (ไดฟ์นี้ต้องตื่นเช้านะจ๊ะ ยิ่งเช้า โอกาสเจอนู่นนี่จะเยอะตามไปด้วย)























    ตอนลงไปแล้วรอบตัวเป็นสีฟ้าไปหมดเลยค่ะ ฟ้าแบบฟ้ามากกกกกกกก และน้ำใสมาก ๆ จนเห็นพื้นทรายด้านล่างเลย เราสอดส่ายสายตาตลอดเวลา เผื่อจะไปป๊ะเจออะไรบ้าง แต่ก็ว่างเปล่า จ๋อยกันไปตามระเบียบ...






    ในไดฟ์ที่สองเราลงไปแบบทำใจไว้ว่า เออ ปลามีหางอะแก ปลาว่ายน้ำได้เว้ย วันนี้อาจจะว่ายไปที่อื่นแล้วก็ได้ ก็ตีขานุ้งนิ้งทิงนองนอยไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ จนทันใดนั้นเอง เราก็เห็นว่ามีเงาตะคุ่มอ้วนกลม ตัวใหญ่มาก ๆ ว่ายฟาบบบบบบผ่านไปที่ด้านล่าง ห่างจากเราไปไกลพอควร ซูมกล้องถ่ายไม่ได้แล้วเพราะฟ้าไปหมด ขึ้นมาถึงรู้ว่า เฮ้ยยยย นั่นมัน Tiger Shark หรือเจ้า ฉลามเสือ นั่นเอง!








    ส่วนสิ่งที่ถ่ายได้มาในไดฟ์นี้คือเจ้านี่ค่ะ Tresure Shark หรือ ฉลามหางยาว ที่เราเคยพบหน้าค่าตากันมาก่อนแล้วตอนที่ไป ตามหาฉลามหางยาว ณ เกาะมาลาปัสกัว พอมาเจอที่นี่อีกก็ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ :)







    ได้เห็นฉลามหางยาวแบบมุมมอง bird eyed view ด้วยวู้ยยยย













    เจ้าตัวนี้ก็เจอยากเหมือนกันนะคะ ปลื้มใจจจจจจ














    Dive 12 - Tiger Zoo

    Depth: 34.7 m. | Time: 37 mins



    เจอเงาตะคุ่มของฉลามเสือแล้วรู้สึกติดค้างในใจว่าอยากเห็นใกล้กว่านี้ ไดฟ์ต่อมาเราเลยมากันที่ Tiger Zoo จุดชมฉลามเสือกันค่ะ (แหะ...แน่นอนว่า feeding แหละน้าาาา)





















    Humpack ช่วยแบกเอาถังใส่ทูน่าที่ใช้เป็นเหยื่อล่อฉลามขึ้นเรือมาให้พวกเรา














    เจ้าหน้าที่ไดฟ์หลีดประจำ Tiger Zoo
    ขึ้นเรือมาบรีฟให้เราฟังเกี่ยวกับข้อปฏิบัติและสภาพของไดฟ์ไซต์ค่ะ























    จากภาพจะเห็นว่าบริเวณ Tiger Zoo เป็นเนินทรายที่ไล่ระดับกันตั้งแต่ 3 - 8 เมตร และพ้นจากนั้นไปจะเป็นเนินลาดลงไปเรื่อย ๆ ซึ่ง เราจะนั่งล้อมเป็นวงกลมสวยๆ กันอยู่ตรงจุด 5 เมตร เจ้าหน้าที่จะโยนทูน่าจ๋อมลงไปตรงกลาง และเราก็จะพับกบพบกับฉลามที่เฮละโลกันเข้ามา ซึ่งก็จะมีทั้งฉลามเสือและพวก Blacktips / Silvertips ต่าง ๆ



    ซึ่งทุกคนจะมีกระบองท่อแป๊ปอะลูมิเนียมประจำตัวกันหนึ่งหน่วยที่จะต้องถือปักทรายไว้ด้านหน้า เวลาฉลามที่สงสัยว่าเรากินได้มั้ยนะมางับกระบองนี้ มันก็จะโอ๊ยเจ็บฟันจัง กินไม่ได้หรอกเนอะ และจากไปค่ะ









    และนั่นคือการบรีฟในอุดมคติ
    ที่เราจะนั่งกันสวย ๆ ถ่ายรูปดูฉลามเสือว่ายผ่านไปมา







    แต่เรื่องจริงก็คื๊อออออออออ....







    พอเราแล่นเรือออกไปปุ๊บ คลื่นมาปั๊บ คุณเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ได้การแล้วทู้กโค๊นนน เปลี่ยนแผนใหม่ นั่งกันตรงจุด 5 เมตรไม่ได้แล้วแหละ ต้องลงไปลึกกว่านี้นะจ๊ะ พร้อมมั้ย ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยจ้า

















    พอลงเราก็เห็นว่ามันเป็นทางลาดที่ชันมาก ๆ แบบสุดปลายขอบตรงนี้ไปคือทะเลที่ว่างเปล่า ทุกคนทุลักทุเลพยายามเอาไม้กระบองประจำตัวปักให้อยู่กับที่ แต่คือทรายมันถล่มลงมาตลอดเวลา เราก็ปักตัวเองไว้ได้แล้ว พอมีคนใกล้ ๆ ขยับ เราก็ต้องเอี้ยวตัวหลบฟิน ก็เอ๋า ร่วงอีกแล้วกู๊ ฝุ่นก็คลุ้งไปหมด แล้วไหนฉลามเสืออ้ะ?









    รู้สึกว่าอย่างน้อย ๆ ก็ได้ถ่ายภาพทากปุ่มไว้ก็แล้วกันวะ









    พอเขาโยนเหยื่อมาปุ๊บ ฉลามก็มาปั๊บ แต่ไม่ใช่ฉลามเสือที่ตามหา (จ๋อย) เอาวะ ถ่ายไว้หน่อยละกัน ก็ตามนี้ฮะทุกคน






























    ทีนี้ไดฟ์หลีดก็เริ่มมูฟให้พวกเราไปจุดที่ตื้นขึ้น เราก็อะ ไปก็ไป ฉลามเสือซักตัวก็ยังไม่ได้เห็นเลย แต่ No decompression time ใกล้จะหมดแล้ว ขึ้นไปที่ตื้นกว่านี้ก็ได้ว้า เซ็งจังเล้ยยยยย


    และระหว่างที่กำลังคิด ๆ อยู่นั่นเอง ก็มีกระแสน้ำดันกดให้เราวูบลงไป ไอ้เราก็เฮ้ยยย เอื้อมมือจะไปกด BCD และพยายามจะไต่ตัวเองขึ้นไปข้างบน แต่ก็โอ้โห เงยไปมีแต่ฟินทั้งน้าน เอาไงดี๊ เวลาจะหมดแล้ว






    และจังหวะที่ No decompression time เหลือแค่ 1 นาที
    อยู่ ๆ ก็มีของปลาขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหา




    TIGER SHARK !





    ตี๊ดดดดดดดดดดดด เสียงไดฟ์คอมเตือนว่าหมดเวลาแล้วจ้า ในใจตอนนั้นของเราคือ เอาวะ ติดก็ติดโว้ย กูขอดูฉลามเสือซักครั้งให้เห็นเป็นบุญตา!









    ว่ายพุ่งเข้ามาแบบ out of the blue จริง ๆ ค่ะคุณขา
    ตกใจมากพูดเลย!















    พี่ฉลามเสืออาจจะคิดได้ว่าก้อนอิรุงตุงนังนี่กินไม่ได้ก็เลยหักเลี้ยวไป
















    เห็นลายข้าง ๆ ชัดเจนมากว่าเหมือนปลาซาบะ










    "Achievement Unlocked - Tiger Shark"















    ไต่ขึ้นมาจากจุดตรงนั้นก็พยายามแก้ decom มาตลอดค่ะ
    หายใจเข้าลึกออกยาว ค่อย ๆ ขึ้น ค่อย ๆ แก้มาตามลำดับ
    ตอนทำ safety stop ตอน 5 เมตรก็ปกติดี ไม่ได้มีทดเวลาเพิ่มแต่อย่างใด
    อาจเป็นเพราะอยู่ตรงนั้นไม่นาน พี่เสือไปปุ๊บก็ตั้งหน้าตั้งตาตะกายตัวขึ้นมาเลย
    แบบชั้นเจอแล้ว ตอนนี้ชั้นต้องจัดการกับสิ่งนี้ก่อนนนนน














  • 14 February 2020



    Dive 13 - Maakandli Manta Point | Addu Atoll

    Depth: 28 m. | Time: 39 mins



    และแล้วเราก็ล่องเรือกันมาจนถึงตอนใต้ของ South Maldives เรียบร้อย ซึ่งเช้านี้เราจะไปที่ Cleaning Station ของเจ้าแมนต้าที่เราแสนรักม๊ากมากนั่นเองค่า


    จุดนี้เป็น Cleaning Station แห่งเดียวของมัลดีฟส์ทางตอนใต้ ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในพื้นที่นี้เป็นอย่างมาก จึงมีกฎว่าห้ามเข้าไปในกองหินเด็ดขาด ต้องรออยู่รอบกองเท่านั้น ซึ่งไดฟ์หลีดจะดูกระแสน้ำว่าพัดอยู่ในทิศทางใดและพาเราไปนั่งที่ปลายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ฟองอากาศเข้าไปในกองหินซึ่งเป็นการรบกวนแมนต้าค่ะ















    สังเกตว่าฟองอากาศของทุกคนจะพัดไปด้านหลังเน้อ















    ถามว่าเจออะไรมั้ย ก็บอกเลยว่าไม่ค่ะ จางในจางไปอี๊ก แอบเสียใจนิดนึงเพราะเราชอบแมนต้ามาก ๆ อยากเจออีกกกกกกกกกกกก♡







    Dive 14 - British Loyalty Wreck

    Depth: 26.2 m. | Time: 43 mins


    ปิดท้ายทริปนี้กันด้วยไดฟ์ไซต์เรือจมเพียงแห่งเดียวของมัลดีฟส์ตอนใต้ค่ะ เรือนี้ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นของเมืองผู้ดีอังกฤษนั่นเอง ตัวเรือมีความยาว 134 เมตร นอนจมแบบตะแคง ลึก 33 เมตร สามารถเข้าไปดูภายในเรือได้นิดหน่อยด้วย






    ไดฟ์หลีดบอกว่าจุดนี้โดยปกติแล้วน้ำจะใสกิ๊ง เหมาะแก่การถ่ายภาพหมู่ปิดทริปม๊ากมาก เวรี่กู้ด! แต่นั่นแหละค่ะ ทริปนี้มีอะไรที่บรีฟแล้วตรงเป๊ะบ้าง ไม่มี๊ เพราะฉะนั้นผลก็คือน้ำขุ่นมากคร้าบพี่น้องคร้าบ









    ได้บรรยากาศขลัง ๆ มาแทน ก็ชอบนะ















































































































































































    จบไดฟ์สุดท้ายแล้วทางเรือก็เอาผาจำลองมาให้ปีนเล่นกันข้างเรือ เปิดอ่างลงไปแช่น้ำเล่น โดดน้ำกันตู้มต้ามกันสนุกสนาน




    คำเตือน : ห้ามโดดน้ำลงมาด้วยท่าปลาดาว
    (ค่ะ... ดิฉันโง่โดดผิดจังหวะ ผิดท่า ผิดทาง ตกลงมาด้วยท่าปลาดาว จุกมาก เจ็บมาก จ๋อยมาก)
























    และแล้วเรื่องราวของเราในทริป Deep South Maldives ก็จบลงเพียงเท่านี้ค่ะ


    ขอขอบคุณ

    LET's Dive Thailand - พี่โจ ครูแมท ที่จัดทริปสนุก ๆ นี้ขึ้นมา

    เรือ MV Princesa Luluka - Humpack / Musa / Rey และ Joni 
    รวมถึงลูกเรือทุก ๆ คนสำหรับการบริการทุกระดับประทับใจ (แถมช่วยชีวิตไว้ด้วย!)

    พี่ณเอก พี่ฝน
    พี่ส้ม พี่ยุ้ย พี่บรีซ
    พี่ไวน์ พี่อาร์ม
    พี่นุ่น พี่นุ้ย
    พี่เอ็กซ์ พี่วิน
    พี่แคช พี่เฟรนด์
    พี่ใบหม่อน พี่ต้อม
    โอม หมิว
    สมาย ต้องตา เจ้แนท

    สำหรับความสนุกสนานและความทรงจำที่ดีในทริปนี้นะคะ
    หวังว่าจะได้เจอทุกคนอีกในทริปหน้าหน้าหน้าหน้าต่อไปค่ะ เย้!














    สำหรับทริปหน้าเราจะพาไปดำน้ำที่ไหน
    โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ


    ด้วยรัก...จากมัลดีฟส์ใต้
    ด้วยรัก...จากทะเลทราย








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in