เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Log Book ที่รัก♡ployapha.j
Al Aqah 48hrs. layover - ข้ามทะเลทรายไปดำน้ำ
  • 10 August 2020





    สวัสดี Log book ที่รัก♡

    ความจริงแล้ว Log book ในตอนนี้ควรจะเป็นการเล่าเรื่องทริป Red Sea ที่เราวางแผนข้ามปีว่าจะไปดำน้ำและเที่ยวอียิปต์ แต่อย่างที่ทราบกันดีกว่าโลกทั้งใบหยุดชะงักลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เราต้องยกเลิกแพลนไปโดยปริยาย

    เราใช้ชีวิตเงียบๆ หงิมๆ มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ผ่านช่วงเคอร์ฟิวและปิดล็อกดาวน์เมือง 24 ชั่วโมง งานก็หด เงินก็หาย แถมสุขภาพจิตย่ำแย่มากๆ เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านหน้าที่การงาน โฮมซิกคิดถึงบ้าน และการอยู่ที่เมืองทะเลทรายนานๆ ในช่วงฤดูร้อนทำให้เกิดอาการ Summer Depression เหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานานๆ ได้










    เมื่อโลกภายนอกรอบตัวของเราวุ่นวายและเต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่น่ารัก อะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นไปดั่งที่ใจคิดทำให้เราหวนกลับมาตามหาความสงบภายในจิตใจ




    เราคิดถึงการดำน้ำ




    ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่ แตงโม จัดทริปดำน้ำใกล้ๆ อยู่พอดีเนื่องจากคิดถึงโลกใต้ทะเลมากพอๆ กัน ทำให้เกิดทริปนี้ขึ้น เราได้ อัลเบิร์ต อาสามาเป็นสารถีขับรถให้ และ เอ๋ย ที่อยากดำน้ำส่งท้ายบ๊ายบายเมืองทะเลทรายมาเป็นบัดดี้




    และการนั่งรถข้ามทะเลทรายไปดำน้ำของเราในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
    ตามไปอ่านกันได้เล้ยยยยยยยย


















  • Pre-Dive Check

    เล่าให้อ่านกันก่อนว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์นั้นประกอบด้วย 7 รัฐ ซึ่ง ดูไบเป็นหนึ่งในนั้น และดูไบไม่ใช่เมืองหลวงนะเออ (อาบูดาบีต่างหาก!) ส่วนรัฐที่เรานั่งรถไปดำน้ำนี้มีชื่อว่า ฟูไจราห์ อยู่ฝั่งเดียวกันกับโอมานจ้า ส่วนจุดที่เราไปเรียกว่า Al Aqah Beach ที่เป็นชายหาดธรรมชาติ ไม่เหมือนดูไบที่ถมทะเลทำเป็นหาดปลอมๆ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำของชาวทะเลทรายนั่นเอง





    เราเลือกพักที่ Miramar Beach Resort และดำน้ำกับ Divers Down UAE ค่ะ





    วันแรกที่มาถึง พวกเราไปยังดำน้ำไม่ได้เนื่องจากทางไดฟ์ชอปบอกว่าคลื่นลมค่อนข้างแรง เรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่ง ทุกคนเลยทำตัวตามสบาย ใช้เวลายามบ่ายไปกับการนั่งชิวริมสระว่ายน้ำ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ลงไปกระโดดดึ๋งๆ เล่นกับคลื่นทะเล และออกไปซัดซีฟู้ดกันจนหนำใจหลังจากที่อุดอู้อยู่แต่ในดูไบมานานร่วม 6 เดือน
















  • Dive 1 - Hole in the wall

    Depth: 14 m. | Time: 54 mins


    ไดฟ์ไซต์นี้ต้องนั่งเรือออกจากฝั่งไปประมาณ 20 นาที พอลงไปปุ๊บจะเจอกับช่องกำแพงหินที่สามารถดำทะลุไปได้ เลยเรียกว่า Hole in the wall พอออกจากช่องมาปุ๊บก็จะเจอกับปะการังและฝูงปลา เป็นไดฟ์ไซต์หนึ่งที่น่าสนใจในเขตนี้ แถมไม่ลึกเท่าไรนัก มากสุดแค่ 14 - 15 เมตรเท่านั้นเอง




    ฟังดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าหนักใจเท่าไหรนัก
    ถ้าดำน้ำตามหลีดไปก็ไม่น่าจะมีปัญหา




    แต่ความพีคมันอยู่ตรงนี้... เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่คุณไดฟ์หลีดอธิบายภูมิศาสตร์และลักษณะของไดฟ์ไซต์โดยละเอียด บอกว่า ก็เนี่ย ยูลงตรงนี้นะ จะเจออันนี้นะ แล้วก็ออกมาตรงนี้นะ และก็ย้ำต่อว่าเวลาดำน้ำต้องหมั่นเช็คอากาศ ห้ามต่ำกว่า 50 barโดยเด็ดขาด และดำน้ำไม่เกิน 50 นาที แล้วอย่าลืมทำ safety stop ด้วยนะจ๊ะ ถ้ามี SMB ก็ยิง ไม่มีก็โบกมือเอา เดี๋ยวเรือจะมารับเอง ส่วนไอมีนักเรียนสองคนต้องดูนะเออ ขอให้โชคดี ดำน้ำด้วยความสนุกสนานนะจ๊ะะะะะ




    อ้าว เอาแล้วไงกู...

    มีหลีดแต่ไม่มีหลีด
    เป็นเพลงเกทสึโนวาเลยโว้ย





    ภาพตัดมาทีข้าพเจ้าผู้นั่งดึ๋งๆ อยู่ในเรือ หันไปถามอัลเบิร์ตว่ายูดำน้ำมากี่ไดฟ์น้าาาา คำตอบคือ 8 ไดฟ์จ้าาาา ตะโกนไปถามเอ๋ยก็ได้คำตอบมาว่า 6 ถ้วน OPW มาเท่าไรดำเท่านั้นเลยจ้า น่ารักกุ๊กกิ๊ก




    ก็... ก็รอดแหละเนอะ...










    คุณไดฟ์หลีดผู้ติดสอนของเรา









    ตัดภาพตอนลงน้ำมาเจอสมาชิกร่วมแก๊งค์กันที่ 5 เมตร เราก็เอาล่ะ หลีดให้ละกันเนอะ แต่ไม่พาไป Hole in the wall นะ เพราะกลัวบุ๋งๆ ไปแล้วเกิดติดขัดกันขึ้นมา เลยตัดสินใจพาเลี่ยงอ้อมช่องนั้นมาทางลานทรายข้างๆ แทน


    บอกเลยว่าไม่ค่อยได้ดูปลาเท่าไร เน้นดูคนมากกว่า คอยนับสมาชิกหนึ่งว่าลอยมั้ย อ้าวว ลอยก็ไปดึงลงมา หันไปหาสมาชิกสอง อ้าวววว ลอยเหมือนกัน บุ๋งไปดึงลงมา ไหนเช็คหน่อยอากาศเหลือเท่าไรแล้ว ส่วนสมาชิกสามไม่ค่อยห่วงเพราะแตงโมก็เป็น Advanced เหมือนกัน นางชิว แฮปปี้ดี๊ด๊าดูปลาด้วยความสนุกสนาน








    และนี่คือภาพกีฬามันส์ๆ + สัตว์น้ำที่ข้าพเจ้าพบเห็น


    เอ๋ยและแตงโม


























































































































    สรุปก็พาไปวนใน wall มานั่นแหละ วนไป เพราะไดฟ์ไซต์ไม่ใหญ่มาก









































    ตอนจบไดฟ์ก็ทำ safety stop ที่ 5 เมตร เป็นเวลา 3 นาทีโดยพร้อมเพรียงกันแบบเกาะกันไว้เพราะเพื่อนลอยจ้า และหลังจากที่วุ่นวายกันซักพักก็สามารถ ยิง SMB ด้วยความสำเร็จงดงามน่าภาคภูมิใจ






    แต่อีกเรื่องที่ทำให้เหนื่อยมากๆ ก็คือการขึ้นและลงจากเรือค่ะ กล่าวคือ เราต้องถอดอุปกรณ์ออกจากตัวแท็งก์ แล้วแบกเอาแท็กก์เปล่าขึ้นฝั่ง มันจะง่ายมากๆ ถ้าจุดที่เขาจอดเรือไม่ได้ไกลจากตัวฝั่งมาก แต่นี่เขาจอดไกลเหลือเกิน ลงจากเรือปุ๊บคือน้ำทะเลมิดหัว ขาไม่ถึงพื้นทราย ต้องหอบแท็งก์เอาไว้แล้วว่ายน้ำเข้าฝั่ง คลื่นก็แรง สาดตู้มๆๆๆ เข้ามาทำให้สำลักน้ำค่อกแคก


    กว่าจะถึงชายหาดก็เล่นเอาพลังงานลดไปหลายขีดเลยค่ะ


    ขากลับขึ้นเรือเพื่อมาดำน้ำไดฟ์ที่สองก็เหมือนกัน ชะตากรรมไม่ได้แตกต่างกันเลย ต้องแบกแท็งก์ลงไปเอง ว่ายไปที่เรือด้วยตัวเอง ดีที่คุณไดฟ์หลีดเห็นว่าท่าทางไม่น่ารอด เลยเอาแท็งก์ขึ้นเรือไปไหน ส่วนเราก็ต้องเกาะเชือกดึึงตัวเองฝ่าคลื่นไปจนถึงเรือค่ะ




    บอกเลยว่า ดำน้ำที่ไทยสบายที่สุดในโลกแล้วจ้าาาาาาาาาา














  • Dive 2 - Three Rocks

    Depth: 12 m. | Time: 50 mins




    แรกเริ่มเดิมทีเราต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาทีไปที่ Dibba Rock ซึ่งเป็นไดฟ์ไซต์ชื่อดังของที่นี่ เป็นจุดที่เจอปลานู้นปลานี้เยอะแยะ มีปะการังหลากหลายสวยงาม แต่ด้วยความที่สภาพทะเลเริ่มแปรปรวนเหมือนใจคนที่ปรวนเปร คลื่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยต้องย้ายมาที่ Three Rocks ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งแทนค่ะ


    หลังจากที่เหนื่อยไม่หายจากการขึ้นลงเรือที่สุดแสนจะทรหด (จริงๆ มันอาจจะไม่ได้ยากมาก แต่สำหรับคนที่นอนแปะอยู่บนเตียงมาตลอด 6 เดือนโดยไม่ออกกำลังกายเลย หอบที่แท้ค่ะ) เรามาถึง Three Rocks ในสภาพของคนเมาเรือ เวียนหัวหวึ่งๆ เลยขอโดดน้ำลงไปก่อนเพราะคลื่นไส้ไม่ไหวแล้วจ้า


    สรุปว่าก่อนจะ decent ลงน้ำก็อวสานอาหารเช้าค่ะ ถือว่าเป็นการให้อาหารปลาไปในตัว ซึ่งช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก ดำน้ำได้อย่างแฮปปี้ดี๊ด๊า













    พอลงมาแล้วก็นึกดีใจว่าเดชะบุญที่ไม่ได้ไป Dibba Rock เพราะน้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสให้ไปดำที่อื่นค่าาาาา โอ้ยยย มืดมิดมากๆ มองอะไรไม่เห็นเลย จริงๆ จุดนี้มีปลาฝูงเป็นหย่อมๆ แต่ถ่ายรูปออกมาก็มี แต่ตะกอนปลิวว่อนไปหมด แถมบุ๋งไปบุ๋งมาเริ่มคันยิบๆ เพราะคาดว่าไปป๊ะกับแตนทะเลเข้าให้







    น้องกำลังว่ายน้ำพอดี เลยแชะภาพมาได้








    น้อนนนน


























    ถ่ายให้เพื่อนน้ำใสกิ๊ง พอรูปตัวเองก็นะ...
    ให้ภาพมันเล่าเรื่อง





    - Happy 80th Dive | สวัสดีไดฟ์ที่ 80 -


    ช่วงเวลาที่ผ่านมา

    เราครุ่นคิดอยู่แต่กับเรื่องราวที่เราตัดสินใจผิดพลาดในชีวิต
    ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับคนรอบตัว หน้าที่การงาน และการใช้ชีวิต



    เราพลาดอะไรไปหลายเรื่อง
    ทำผิดอะไรไปหลายสิ่ง
    อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรหลายอย่าง



    มีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ที่เราคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกมาตลอด
    ดีใจ และภูมิใจในตัวเองทุกครั้งที่นึกถึง นั่นก็คือ

    ข้อแรก คือ การย้ายมาอยู่ที่เมืองทะเลทราย
    และข้อสอง คือ การเรียนดำน้ำ



    80 ไดฟ์อาจเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ สำหรับมิตรรักนักดำน้ำ
    แต่ในด้านความรู้สึกของเรา ทุกๆ ไดฟ์ที่ผ่านมาคือความสุข
    แม้ว่าจะมีเรื่องให้เหนื่อย หวุดหวิดจะเอาชีวิตไม่รอดบ้างประปราย



    แต่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิต
    เป็นความทรงจำที่ดี
    เป็นเรื่องสนุกที่เล่าต่อให้คนอื่นฟังได้



    การดำน้ำให้อะไรกับเรามากกว่าการลงไปดูปลาและปะการัง

    เราได้ความสงบภายในจิตใจกลับคืนมา
    เราได้พบเจอและรู้จักกับคนหลากหลายที่สุดแสนจะน่ารัก
    เราได้เดินทาง ค้นพบแรงบันดาลใจ เรียนรู้ตัวเองในอีกมุมหนึ่ง



    ตอนนี้สัญญากับตัวเองว่าถ้าดำน้ำครบ 100 ไดฟ์เมื่อไร
    เราจะไปเรียน Rescue

    แต่ตอนนี้ ขอเก็บเงินก่อนนะ :)





    ด้วยรัก...จากทะเลทราย














Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in