เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Log Book ที่รัก♡ployapha.j
ตามหาฉลามหางยาว ณ เกาะมาลาปัสกัว





  • 5 December 2017






    สวัสดี Log book ที่รัก♡



    เราเพิ่งจะกลับจากทริปดำน้ำ 5 วัน 4 คืน ที่ไปบุ๋งๆอยู่ใต้น้ำอยู่ 10 ไดฟ์ที่ เกาะมาลาปัสกัว (Malapascua) ประเทศฟิลิปปินส์  กับ LET's Dive Thailand จากการเชิญชวน(แกมหลอกล่อ)ของครูแมททิวด้วยคีย์เวิร์ดที่ว่า...







    ไปตามล่าฉลามหางยาวกัน!!






    ไอ้เชี่ยยยย (คำอุทานในใจไม่ต้องอ่านตามก็ได้) เฮ้ยยย! นี่มันคือครั้งหนึ่งในชีวิตกับการได้ไปนั่งส่อง  ปลาฉลามหางยาว (Thresher shark) ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบชนิดของปลาฉลามที่ใกล้จะสูญพันธ์เลยนะเว้ย เจอตัวกันยากมากมากมากมากมากมากเพราะกลายเป็นหูฉลามกับเกือบหมด และจุดที่เราจะได้ไปจ๊ะเอ๋พบกับเจ้าฉลามหางยาวนี้ได้บ่อยกว่าที่อื่นก็คือเกาะมาลาปัสกัวแห่งนี้นี่เองงงงงงง






    ทริปนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะ จัดไปปปปปปปป เฮ!
    (กำเงินเดือนไปจ่ายอย่างไม่รีรอ)






    และทริป 5 วัน 4 คืนกับการไปนั่งรอฉลามหางยาวจะเป็นอย่างไร
    สนุกสนานขนาดไหน พบเจอสิ่งมีชีวิตใด สามารถติดตามอ่านกันได้ ณ บัดนี้









  • 1 December 2017





    เราลากกระเป๋ามาที่สนามบินตอนเวลาประมาณ 6 โมงเช้าเพื่อมาพบกับสมาชิกที่เหลืออีก 22 คนที่จะร่วมทริปไปตามล่าฉลามด้วยกัน ด้วยความที่เราเดินทางมาคนเดียวเหงาๆจากดูไบทำให้เราต้องมาค้างที่ตัวเมืองเซบูก่อนคนอื่นเขาคืนนึง ซึ่งน่าเสียดายที่ไฟล์ทเรามาถึงตอนประมาณห้าโมงเย็นทำให้ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน เข้าโรงแรมแล้วก็สลบยาวเลยจ้า








    โชคดีที่สายการบินมีไฟล์ทดูไบ-เซบู เราเลยนั่งยิงยาวมาได้เลย
    ไฟล์ทน๊านนานประมาณแปดชั่วโมงครึ่ง ดีที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่มะนิลาแต่อย่างใด
    (ไทอินหน่อยโว้ย เผื่อคนมานั่งเยอะๆจะได้มีโบนัสไว้เที่ยวต่อได้)
















    รถแบบนี้มีเห็นทั่วไปตามท้องถนน เป็นเหมือนรถสองแถวจิ๋วๆนั่นแล












    มาจะกล่าวบทไปถึง เกาะมาลาปัสกัว (Malapascua) กันซักนิดดีกว่า ในวิกิพีเดียเขาเขียนไว้ว่าเกาะนี้เป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะเซบู ตั้งอยู่ในทะเลวิซายาส มีหมู่บ้านอยู่ทั้งหมด 8 หมู่บ้านด้วยกัน ชื่อเสียงของเกาะมาลาปัสกัวนั้นมาจากแนวปะการังรอบเกาะ รวมถึงหน้าผาปะการัง และเป็นจุดที่จะพบปลาฉลามหางยาวและกระเบนราหูอีกด้วย (อู้ววววว)








    ตรงนี้คือ Maya Port เป็นจุดที่เรานั่งเรือข้ามฟากไปที่เกาะมาลาปัสกัวจ้า
    ฟ้าใส แดดแรงม๊ากกกกกกกกก


















    นี่คือหน้าตาของเรือที่นี่แหละ
    สืบทราบได้ข้อมูลมาว่าเขาดัดแปลงมาจากที่คล้ายๆเรือหางยาวบ้านเรา
    เลยต้องเพิ่มขาทั้งสองข้างเพื่อให้เรือมันบาลานซ์ได้สมดุลมาขึ้น ไม่โคลงเคลงไปมา














    ถึงแล้วจ้า ฮูเร่







    สำหรับที่พักในทริปนี้เรามานอนค้างอ้างแรมกันที่ Hippocampus Beach Resort และไปดำน้ำกับทาง DEVOCEAN Divers จ้า เราเช็คอินเข้าห้องพักและรีบเปลี่ยนชุดออกมาทานอาหารกลางวันและออกเรือไปดำน้ำไดฟ์แรกกัน เฮ!














    ความน่ารักของที่นี่คือพอมาถึงปุ๊บก็มี Complimentary drink สุดแสนจะชื่นใจให้ได้ลิ้มลอง
    มีให้เลือกเป็นน้ำมะม่วงหรือน้ำแตงโม

































    และนี่คือแผนที่ไดฟ์ไซต์รอบๆเกาะมาลาปัสกัว




















    ให้ดูห้องพักกันซักนิด

    เราได้นอนห้องเดียวกับ พี่แนท
    ซึ่งตลอดห้าวันสี่คืนเราสองคนตัวติดตามกันเป็นเงาเพราะเป็นคู่บัดดี้ดำน้ำกันด้วยจ้ะ






















  • Dive 1 - Ka Osting

    Depth: 12 m. | Time: 61 mins




    ไดฟ์แรกนี้เป็นไดฟ์สำหรับเช็คอุปกรณ์ต่างๆว่าทุกอย่างใช้การได้ดีหรือไม่ เช่าเวทสูทถูกไซส์รึเปล่า ต้องใช้เหล็กถ่วงน้ำหนักกี่ก้อน ไดฟ์คอมทำงานโอเคมั๊ย ซึ่งสำหรับเราแล้วเป็นไดฟ์รื้อฟื้นความรู้และจัดระเบียบร่างกายตัวเองให้พร้อมสำหรับการดำน้ำไดฟ์ถัดๆไป








    กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ เฮ!!








    เนื่องจากเราใช้โกโปรในการถ่ายรูปและอัดวีดีโอเวลาไปดำน้ำเลยไม่ค่อยจะได้ภาพสวยๆเท่าไร แถมยังลืมเอา Red Filter มาจากที่บ้านอีกเลยต้องไปหยิบยืมทางไดฟ์ชอปซึ่งเขาจะเอามาให้ในวันพรุ่งนี้

    วันนี้เลยถ่ายอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย จึงต้องขอหยิบยืมรูปจากกล้อง Olympus TG-4 ของ พี่ส้ม Som Phimphahu (IG: Somcp) ที่ถ่ายออกมาได้งดงาม สีสวย ภาพคมชัด ต้องขอขอบพระคุณความใจดีของพี่ส้มที่เอื้อเฟื้อภาพถ่ายไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ






































    Dive 2 - Light house (Sunset dive)

    Depth: 12 m. | Time 57 mins




    ไดฟ์ที่สองนี้เป็น Sunset dive คือออกไปดำน้ำตอนพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดิบพอดี ไฮไลต์ของไดฟ์นี้คือเราจะไปดูปลา Mandarin ออกมาจู๋จี๋กุ๊กกิ๊กกันซึ่งเป็นเลิฟซีนแห่งท้องทะเลที่หาดูได้ยากยิ่ง

    น่าเสียดายที่เราลงมาไม่ทันเห็นช่วงเวลาอันแสนสำคัญดังกล่าวและได้เห็นตัวปลาอยู่แว๊บเดียวเนื่องจากตะคริวกินจ้า ต้องบุ๋งๆออกจากวงมาเหยียดๆยืดๆนวดน่องว่ายวนอยู่โดยรอบ


    และนอกจากจะเห็นปลา Mandarin แล้วก็ยังพบสิ่งมีชีวิตใต้น้ำมากมายหลากหลาย เราว่าคนที่ชอบตัวเล็กตัวน้อย ชื่นชอบการถ่ายมาโครจะรักที่นี่มากเพราะมีนั่นนู่นนี่ให้ดูเต็มไปหม๊ด ส่วนเรามันเป็นพวกดำน้ำ beginer ก็ต๊อกแต๊กตามเขาไป หลีดชี้ให้ดูอะไรก็ดู ถามว่ารู้จักมั๊ยก็ไม่อะ พอขึ้นมาค่อยมาเปิดหนังสือหาความรู้อีกทีว่านี่คือตัวอะไร























































  • 2 December 2017









    Dive 3 - Monad Shoal

    Depth: 29 m. | Time: 44 mins | Nitrox





    เช้านี้เราตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่งด้วยอารมณ์แจ่มใสผิดจากทุกที ตื่นเต้นและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาประหนึ่งซัดกาแฟไปสองแก้วเพราะวันนี้เราจะออกไปตามล่าหาฉลามหางยาวกัน!


    พวกเราออกเรือกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง Monad Shoal ซึ่งเป็นจุดที่พบเห็นฉลามบ่อยที่สุด







    ทีมล่าฉลามพร้อมมมมมมม!!















    ก่อนลงไปเราก็ต้องมานั่งฟังไดฟ์หลีดบรีฟกันก่อนเกี่ยวกับกฎกติกามรรยาทและข้อควรระวังเกี่ยวกับการเฝ้าดูฉลาม โปรดดูภาพแผนที่ไดฟ์ไซต์ประกอบไปด้วยนะจ๊ะ












    ไดฟ์ไซต์นี้มีลักษณะเป็นหน้าผาหิน เราจะค่อยๆไต่เชือกลงไปจนถึงระดับความลึกประมาณ 12 เมตร และค่อยๆลงไปเรื่อยๆจนถึงจุดที่เฝ้าสังเกตการณ์ฉลาม ซึ่งก็คือตรงระดับความลึกที่ 27-29 เมตร และ 28-31 เมตร ตรงจุดนั้นจะเป็นพื้นทราย มีเชือกกั้นบริเวณไว้




    สำหรับข้อห้ามนั้น มีดังต่อไปนี้

    • เวลาถ่ายภาพห้ามใช้แฟลชหรือใช้ไฟฉายส่อง
    • ห้ามเคาะถังอากาศ
    • ห้ามนั่ง ยืน หรือนอนแอ้งแม้งไปกับพื้นทราย (เราคุกเข่าเอามือเกาะเชือกเอา)
    • ห้ามว่ายตามฉลาม และ
    • ห้ามข้ามเขตเชือกที่กั้นไว้





    สำหรับไดฟ์นี้เราตัดสินใจเปลี่ยนจากถังอากาศธรรมดาเป็นถัง Nitrox เพราะอยากยืดเวลาให้เราอยู่ในน้ำได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสให้ได้เจอฉลามนานขึ้นกว่าเดิม (ขอบคุณตัวเองที่เรียนควบไปกับคอร์ส Advanced ในที่สุดก็ได้ใช้ซะที คุ้มค่าเรียนแล้วโว้ย)










    พอโดดตู้มลงน้ำไปแล้ว เราค่อยๆลดระดับความลึกลงไปเรื่อยๆจนถึงบริเวณเชือกที่กั้นไว้ ก็ไปนั่งคุกเข่านิ่งๆอยู่ตรงพื้นทราย จับเชือกไว้ และพยายามหายใจเข้าออกช้าๆให้เป็นจังหวะ พยายามคุมสติไว้ให้ดีเพราะกลัวว่าตัวเองจะหายใจเข้าเยอะไปเพเนื่องจากความตื่นเต้นแล้วตัวจะลอย ตอนนั้นคือแอบอึดอัดนิดนึง เรารู้สึกหายใจไม่สะดวกเพราะเราใส่หน้ากากแน่นเกินไป พอยิ่งลงไปลึกอากาศมันยังบีบอัดทำให้หน้ากากมันกดที่หน้าจนเจ็บ





    เรานั่งอยู่แปบนึงหลีดที่ลอยอยู่ข้างๆก็เรียกอู้อี้พร้อมกับชี้ไปที่เงาดำๆที่วูบไหวไปมาในท้องน้ำที่มืดมิด






    เชี่ยยยย นั่นคือฉลามมมมมมม






    เราพยายามเพ่งตามองสอดส่ายสายตาตามหาว่าว่ายไปทางไหน จะโผล่มาให้เห็นรึเปล่า ตอนนั้นเราลืมไปเลยว่าจะต้องถ่ายรูป คือขอให้เห็นเป็นบุญตาก็พอแล้ว อีกพักใหญ่ๆคนก็เริ่มฮือเมื่อเห็นเงาดำๆเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆ รอบนี้เห็นชัดมาก มาเป็นตัว โอ้ยยยย กรี๊ดดดดดด แล้วก็ตั้งสติขึ้นมาได้ว่าเอ๊ะ มีกล้องนี่หว่า เชี่ยยย ลืมไปเลยว่าเคยมีกล้องงงงง



    และนี่คือผลงานที่ได้...






    ข้างๆนั่นคือครูแมทที่เข้าเฟรมมาพอดี๊...







    เชี่ย เฟลมาก ฮาาาา บอกเลยว่าตอนนั้นนี่อย่างล่ก กว่าจะเปิดกล้องได้ฉลามก็ไปนู่นแล้วจ้า บ๊ายยยยยย เพราะฉะนั้นมารับชมภาพดีๆที่ไปขอเขามาดีกว่าค่ะ...









    ผ่ามผ๊ามมมมมมมมมมม
    ภาพสวยมากกกก แต่...แก๊! แกเป็นใครรร จริงๆเขาห้ามไปยืนตรงนั้นนะเฟ้ยยย







    และจังหวะที่เรากำลังจะว่ายขึ้นก็มีปลาฉลามตัวนึงโผล่สวนมาแบบใกล้มาก โอ้ยจะกรี๊ดดดด ถ่ายรูปไว้ไม่ทันอีกแล้วจ้า ไม่มีสติหยิบกล้องจ้าาาาาาา โอ้ยยย ไดฟ์นี้เราฟินมากกกกกกกก Achivement unlocked แล้วจ้าาาาา ฮูเร่!














    Dive 4 - Gato Island

    Depth: 20.8 m. | Time: 54 mins






    หลังจากที่ไปทักทายยามเช้ากับปลาฉลามหางยาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรากลับมารับประทานอาหารเช้าบนเกาะและออกทะเลไปทางตอนเหนือของเกาะประมาณ 45 นาทีก็ถึงที่ Gato Island ซึ่งคำว่า Gato แปลว่าแมวเหมียว :3





    ไดฟ์นี้เราต้องดำผ่านอุโมงค์ใต้น้ำด้วย ซึ่งสารภาพตามความจริงว่าเราทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไร ลอยไปลอยมา คุมสติกำหนดลมหายใจไม่ได้เลย เป็นไดฟ์ที่รู้สึกพังพินาศและเฟลกับตัวเองมาก เหมือน system error อะไรก็ไม่รู้แหะ เศร้าใจ...


    แต่ในความเฟลก็มีเรื่องฟินเกิดขึ้นเพราะเราเจอฉลามอีกแล้วจ้า คราวนี้เป็นฉลามครีบขาว (Whitetip reef shark) ที่ตามปกติแล้วก็พบเห็นได้ทั่วไปนั่นแหละ หาไม่ยาก แต่ความพิเศษคือตัวที่เจอนี่บึ้มมาก ตัวยาวเกือบสองเมตรได้แถมไม่ได้เจอเพียงหนึ่ง แต่มาเป็นแพคคู่กันสองตัว!









    โกโปรมันก็ได้แค่นี้แหละคุณ
    รู้สึกว่าเราเข้าไปใกล้แล้วแต่เลนส์มันกว้างม๊ากมากเลยเห็นฉลามตัวนิดดดดดดดเดียว













    และในส่วนของกล้องพี่ส้มนั้น...






























    นอกจากนี้ก็เห็นกุ้งหอยปูนูดี้ตัวเล็กตัวน้อยจุ๊กจิ๊กเต็มไปหมดที่กล้องเราถ่ายไม่ได้อีกเช่นเคย ฮาาาา















































    และท้ายไดฟ์เราก็ได้เห็น Spanish dancer แบบตัวเป็นๆพริ้วไหวไปกับสายน้ำด้วย โอ้ยยย สวยมากกกกกกก ประทับใจมากมากมากมากมากมากมาก น้องนุ่มมมม น้องน่าย้ากกกกกกกกกก






    ถ่ายได้โดยเราเอง ส่วนมือนี่มือครูแมทเด้อ














    รูปงามๆจากกล้องของพี่ส้มเช่นเคยค่า






















    Dive 5 - Gato Island

    Depth: 21.7 m. | 58 mins


    เราก็ยังคงอยู่ที่ Gato Island กันเหมือนเดิมแต่รอบนี้ไปลงอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ เจอเจ้า Pygme ด้วยที่หน้าตาเหมือนม้าน้ำจิ๋วๆเล็กๆที่กลืนไปกับปะการัง















    และก็พบเจอกับปูเสฉวนที่มีบ้านเป็นดอกไม้ทะเล คือคนอื่นอาจจะเคยชินแล้วไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนะแต่เราอะเมซิ่งมาก นี่มันคือตัวอย่างของความสัมพันธ์ในระบบนิเวศแบบพึ่งพาอาศัยกันของจริงแบบตัวเป็นๆขยับดุ๊กดิ๊กได้ที่ไม่ใข่ภาพในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ป.5เลยนะเฮ้ยยยยย (ซึ่งแน่นอนว่าถ่ายรูปไม่ทัน บ๊ายยย)













    เจอปลาสิงโตประปรายและการเจอนูดี้เป็นเรื่องปกติ มีทุกไดฟ์เลยจ้ะ















    ถ่ายกับเจ้แนท มายบัดดี้♡



















  • 3 December 2017








    Dive 6 - Calangaman Island

    Depth: 27.8 m. | 65 mins





    วันนี้เดิมทีตามโปรแกรมเราจะต้องไปที่ Kimud Shoal เพื่อไปดูฉลามหัวค้อน แต่จากการสอบถามไดฟ์หลีดแล้วก็ได้ความว่าเขาไม่เห็นฉลามหัวค้อนมาหลายปีแล้ว เศร้าเลย เราเลยปรับเปลี่ยนแผนนิดหน่อยโดยไปที่ Calangaman Island โดยเราจะอยู่ที่นี่กัน 2 ไดฟ์ แวะพักน้ำปิกนิกกินกลางวันกันบนเกาะ






    ที่นี้น้ำใสกิ๊ง มองเห็นไกลได้ประมาณ 30 - 35 เมตรเลยทีเดียว ตัวไดฟ์ไซต์เป็นผาปะการังที่ลึกลงไปได้ประมาณ 100 เมตร เราก็ค่อยๆลัดเลาะไปเรื่อยๆ เราดำน้ำด้วยความแฮปปี้มากมากมากมาก เป็นวันที่ชอบที่สุดแล้วรองจากการไปเฝ้าฉลามเพราะเหมือนว่ายอยู่ในสวนปะการังแนวตั้งที่ยาวเหยียด ส่วนบนของหน้าผาก็มีปะการังเยอะแยะกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีโรงเรียนอนุบาลปลาเล็กปลาน้อยกุ๊กกิ๊กเป็นหมู่ๆ คือเราไม่ได้อินกับของเล็กตัวจิ๋วแบบนูดี้อะไรขนาดนั้นเพราะถ่ายรูปไปยังไงก็ไม่เห็นอยู่ดี หลีดชี้ให้ดูก็โฉบลงไปเพ่งแล้วก็โอเค๊ ไม่ถ่ายรูปใดๆ พอมีอะไรแบบนี้ให้ดูก็สามารถบุ๋งไปเรื่อยๆอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแอเรียลในซีนเพลง Under the sea






    ความรู้สึกคือประมาณนี้...
    ปลุกความเป็นดิสนีย์ปรินเซสในตัวคุณ





















    พอจบไดฟ์นี้เราก็ขึ้นไปนั่งชิวรับลมทะเล ทานอาหาร เม้ามอย เดินเล่นถ่ายรูปกันบนเกาะกันอย่างสนุกสนาน มีการเอาโดรนมาบินเล่นถ่ายรูปกันด้วย ต้องขอบคุณภาพสวยๆจากกล้องครูท็อป และภาพจากโดรนของครูตู่ด้วยค่ะ










































    ภาพจากโดรนเก๋ๆ ตรงนี้เป็นเนินทราย คล้ายทะเลแหวกเลย












    โจทย์คือจับมือกันเป็นวงกลมและนอนทำท่าปลาดาวให้พร้อมเพรียงกัน








    อ้อ...ไดฟ์นี้เราค้นพบสาเหตุของความพังในไดฟ์ก่อนๆแล้วล่ะ กล่าวคือเราใช้เหล็กถ่วงนำ้หนักเยอะเกินไปจ้า เรื่องของเรื่องคือโดยปกติแล้วเราใช้เหล็ก 2 กิโลกรัมมาตลอดทุกรอบที่ไปดำน้ำที่เกาะเต่า แต่ครั้งที่ไปดำที่ Fujairah นั้นเราใช้เหล็ก 4 กิโลกรัมเพราะน้ำมันเค็มกว่าปกติและกระแสน้ำแรง ทีนี้พอมาที่นี่เราเลยไม่รู้ว่าควรจะเอาเหล็กประมาณไหนดี เลยใส่ไป 3 กิโลกรัม คิดเอาเองว่าใส่ไปกลางๆก่อนก็แล้วกันและไดฟ์ที่ผ่านๆมามันก็ดูโอเคนี่หว่าแม้ว่าจะพังๆก็ตามที พอเอาเหล็กออกก้อนนึงปุ๊บชีวิตดีขึ้นมากมากมากมาก


    เรารู้สึกว่าตัวเองควบคุมการลอยตัวขึ้นลงได้ดีขึ้นแม้ว่าค่อนข้างจะช้าหน่อยก็ตาม สามารถลอยตัวถ่ายรูปอยู่นิ่งๆโอเคมากขึ้น และฝึกอยู่นิ่งๆตอนทำ safety stop ได้ค่อนข้างโอเค (พยายามไขว้ขาไว้และหายใจเข้าออก ดูไดฟ์คอมตลอดเวลาว่าเราลอยขึ้นลงมากน้อยขนาดไหน คิดเอาเองว่าเฮ้ย ก็ทำได้นี่หว่า)


    ในหัวจะพยายามคิดล่วงหน้าว่านี่เรากำลังจะไต่ระดับความลึกขึ้นไปแล้วนะ ต้องค่อยๆปล่อยลมออกจาก BCD ต้องเช็คดูว่าตอนนี้เหลืออากาศในถังอีกเท่าไร ดูไดฟ์คอมด้วยว่าต้องทำ Deep Stop ที่ระดับความลึกเท่าไร และพึงระลึกไว้เสมอว่าถังอากาศน้อยลงทำให้ตัวถังเบาลง ความกดดันน้อยลง น้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมเพราะฉะนั้นมันจะลอย ต้องค่อยๆอย่าใจร้อน



    คือเพิ่งมาจัดระบบความคิดและจัดระเบียบร่างกายได้ตอนไดฟ์ที่ 6 โธ่...ดำมาเกินครึ่งทริปแล้วเด้อ แต่ก็ยังดีที่คิดได้ ฮาาาา










    Dive 7 - Calangaman Island

    Depth: 25.5 | Time: 63 mins






    เรายังอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือวนไปอีกด้านหนึ่งของเกาะ ต๊อกแต๊กลัดเลาะไปตามดงปะการังเรื่อยๆ เจอปลากบตัวใหญ่บึ้มที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่กำหนดจิตทดลองหายใจเข้าออกสืบเนื่องมาจากไดฟ์ที่แล้ว






    รอยนั้นคือ red filter ที่แตก... ยืมเขามาก็เงี้ยแหละนะ ต้องทำใจ







    จนท้ายไดฟ์ที่ทำ safety stop อยู่ตรงระดับความลึกประมาณ 5 เมตรเกือบจะเสร็จแล้ว ครูแมทหันมาส่งสัญญาณมือว่าเจอเต่า เราก็รีบสับขาตีฟินพุ่งตัวไปทันได้ถ่ายคลิปมาแว้บนึงก่อนที่จะเลิกตาม ปล่อยให้ครูแมทกับพี่แนทจ๋อมแจ๋มกันตามกันไปกันสองคน


























    ถ่ายแบบไม่มี red filter จ้าเพราะดันหลุดไปพอดี๊
    ภาพเลยออกมาฟ้าๆแบบนี้แหละนะ สามารถไปชมคลิปเต็มๆได้ในไอจี ployapha.j นะจ๊ะ ฮิฮิ





















  • 4 December 2017







    Dive 8 - Monad Shoal

    Depth: 26.9 m. | Time: 52 mins | Nitrox








    วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะดำน้ำกันแล้ว พวกเราเลยกลับไปบ๊ายบายฉลามหางยาวกันที่ Monad Shoal กันอีกครั้งหนึ่ง รอบนี้เราปฏิญาณไว้ในใจว่าจะเตรียมกล้องให้พร้อม จะไม่ตื่นเต้นเกินจนลืมไปว่ามีกล้อง จะต้องได้ภาพสวยๆกับเขาบ้างโว้ยยย น้ำก็ใสกว่าวันก่อน รอบนี้เราต้องไม่พลาดดดดด!



















    ระหว่างเราบุ๋งๆลงไปก็พยายามเคลียร์หูเลยไม่ได้ใส่ใจสภาวะแวดล้อมรอบข้าง พอลงไปถึงตรงเชือกที่กั้นไว้ปุ๊บ เอามือจับเชือกปั๊บ ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีๆเลยทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่ เราเงยหน้าขึ้นไปก็เจอกับฉล๊ามมมมมม มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเตรียมกล้องเล้ยยยยยย เกือบจะถ่ายไม่ทันแต่ก็ถ่ายได้ ฮูเร่!

















































    จุดนั้นคือเรานั่งน้ำตาไหลอะ โอ้ยยยย คือมันใกล้แบบใกล้มากกกกก ดีแบบดีมาก เห็นชัดมาก เห็นหางที่ยาวและพริ้วไหวไปตามจังหวะการเลี้ยว


    ถ้ามองในภาพอาจจะคิดว่าเราอยู่ไกลเพราะเห็นแค่ตัวนิดเดียวแต่มันเป็นเพราะว่าเราถ่ายด้วยโกโปรไงไงลยดูตัวจิ๋วๆไปหน่อย แล้วความฟินคือฉลามตัวนี้ว่ายวนๆอยู่ตรงนี้สามรอบอะ เหมือนจะไปแล้วแต่ก็วกวนกลับมาให้ถ่ายได้อีก โอ้ยยย ดีงามมมม น้ำตาไหลพรากๆเกาะเชือกอยู่เงียบๆคนเดียว ตามไปดูคลิปเต็มๆในไอจีนะฮ้า สวยมากกกกกกกก
























    สองรูปนี้มาจากคลิปของ ครูตู่ Nakarin Suksomsri ต้องขอขอบพระคุณไว้ ณ​ ที่นี้ด้วยค่ะ








    พอเจ้าตัวนี้โผล่มาให้พวกเราได้ยลโฉมก็มีตัวอื่นๆตามมาอยู่ห่างๆ เห็นเป็นเงาดำๆวูบไหวไปมา ครั้นจะถ่ายไม่เห็นเลยเก็บกล้องนั่งดูเฉยๆ และตอนที่กำลังจะขึ้น อยู่ตรงที่ประมาณ 15-16 เมตร หลีดก็ชี้ให้ดูอีกว่าฉลามยังอยู่นะ เราพยายามเพ่งมองลงไปแล้วก็เห็นเป็นเงาดำๆลางๆ ทำได้แค่บ๊ายบายอยู่ในใจ หวังว่าจะได้เจอกันใหม่นะ♡













    Dive 9 - Deep Rock

    Depth: 28.8 m. | Time 43 mins




    หลังจากกลับไปทานอาหารเช้าที่เกาะ เราก็นั่งเรือมาที่ไดฟ์ไซต์นี้ที่อยู่ใกล้ๆ นั่งเรือไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว เป็นไดฟ์แรกที่เจอกระแสน้ำแรงและน้ำขุ่นมองอะไรไม่ค่อยเห็นเลยแถมยังต้องตีฟินสู้น้ำอยู่ตลอดเวลา ถ้าเผลอคืออาจหลุดลอยปลิวไปได้



    มีช็อตนึงที่เป็นช่วงชุลมุน ทุกคน(เว้นครูแมทและหลีดที่กำลังดูอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงหลืบหิน)ปลิวมาชนกันเป็นโดมิโน เราเป็นคนสุดท้ายที่โดนชนก็เกือบจะเด้งไปกระแทกกับกำแพงหินที่มีปะการังข้างหลัง จังหวะนั้นเราเลยตัดสินใจพุ่งตัวขึ้นข้างบนรอดไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ปะการังไม่ตายแต่เราโดนน้ำพัดฟิ้วไปไกลมาก ต้องว่ายทวนกระแสน้ำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นแซลมอนที่จะกลับไปวางไข่ หอบหายใจเกาะหินนั่งจุ้มปุ๊กรอทุกคนดูนั่นนู่นนี่แถวนั้น ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยยยยย พอทุกคนขยับเราก็ปล่อยตัวเองไหลไปตามน้ำ พยายามปรับการหายใจให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าจะหายใจเข้ายาวๆแล้วจะลอย ลำบากตัวเองเตะขากลับมาอี๊ก



    พอตอนทำ safety stop ก็เฮฮาสนุกสนาน เล่นตลกขโมยฟินกันไปเรื่อย ขึ้นมาบนเรือก็ขำไม่พักเล้ยยย เหนื่อยกว่าว่ายทวนกระแสน้ำไปอี๊กกกกก














    Dive 10 - North Point

    Depth: 24.7 m. | Time: 47 mins





    ไดฟ์นี้เราเจอกระแสน้ำอีกแล้วจ้า น้ำขุ่นจัดจนมองอะไรไม่เห็นอีกเช่นเคย เราก็เลยเก็บกล้องไปตามระเบียบและปล่อยตัวเองไหลไปเอื่อยๆอย่างคนขี้เกียจสลับกับฝึกเบรกตัวเองกับกระแสน้ำไปเรื่อยๆ สิ่งมีชีวิตที่เราพบเห็นและคิดว่าน่าสนใจปลากบสีขาวตัวใหญ่นั่นแหละ ไม่มีอะไรมาก นอกนั้นก็เป็นพวกตัวเล็กตัวน้อยที่เพ่งแทบจะไม่เห็น



    หลังจากจบการดำน้ำไดฟ์สุดท้ายแล้วเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำและทานอาหารเย็น เราเดินลัดเลาะไปตามหาด ถ่ายรูปไปเรื่อยๆและไปฝากท้องที่ร้าน Oscar’s เราว่าร้านนี้อร่อยมาก บรรยากาศดี๊ดี ถ้าใครมาแล้วขอแนะนำให้มาลิ้มลองนะจ๊ะ








































  • 5 December 2017





    วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะต้องบ๊ายบายกันแล้ว รู้สึกใจหายแบบแปลกๆตอนที่สวัสดีและโบกมือลาทุกคน สารภาพว่าตอนแรกเราแอบกลัวๆเกรงๆนิดนึงว่าเรามาคนเดียวไม่เคยรู้จักใครในทริปนี้เลยแล้วจะเหงาๆรึเปล่า แต่กลายเป็นว่าเราได้รู้จักพบเจอกับกลุ่มพี่ๆที่น่ารัก สนุกสนาน เป็นกันเอง แถมคอยช่วยเหลือแนะนำเราในหลายๆเรื่องเลย





    ชักภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกก่อนกลับ





    สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ LET’s Dive Thailand #LDTไปที่ไหนก็เจอ พี่โจ ครูแมท ที่จัดทริปดีๆที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ได้ประสบการณ์ อบอวลไปด้วยความทรงจำที่ดี ชวนเราไปดำน้ำอีกเรื่อยๆนะฮ้า

    ขอบคุณสมาชิกบนเรือของเรา อันได้แก่ พี่ส้ม พี่สีน้ำ พี่ปาล์ม พี่ออม พี่แนทมายบัดดี้ พี่โย พี่บูม ตลอดจนแก๊งค์บอยแบนด์สุดเท่นำทีมโดยครูตู่ พี่เติ้ล ครูไนซ์ ครูท็อปที่คอยสร้างเสียงหัวเราะตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน นอกจากนี้ก็ขอขอบคุณพี่ณเอก พี่เอ็ม พี่เอ๋ย พี่อาร์ม พี่บรีซ พี่เฟรน พี่เอ้ พี่หยวก และพี่ขนมอี๋ด้วยนะคะ ทริปนี้สนุกมาก หวังว่าจะได้เจอทุกคนอีกในทริปหน้าหน้าหน้าหน้าต่อไป เย้!























    รักเสมอแล้วเจอกันใหม่
    ทริปหน้าไปไหน ฝากติดตาม Log book ตอนต่อไปด้วยนะจ๊ะ























    ตามไปอ่านบันทึกการเดินทางอื่นๆได้ที่..
    .www.facebook.com/withlovefromthedesert
    IG: Ployapha.j
    #ด้วยรักจากทะเลทราย
    #withlovefromthedesert
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Som Phimphahu (@fb1021461201935)
เขียนได้ดีมากๆเลยคะน้องพลอย เสียดายที่ไม่บอกพี่ก่อนว่าจะเขียน Log book พี่จะได้ให้รูปสวยๆมีอีกเพียบเลยคะ ไว้ทริปเมาดีฟนะคะ