23 September 2017
สวัสดี Log book ที่รัก♡
หลังจากไปเรียน Advanced Open Water มาในเดือนพฤษภาคม จิตใจเราก็ล่องลอยไปอยู่ที่ทะเลอยู่ร่ำไป แต่น่าเศร้าที่วันหยุดของเราไม่เอื้ออำนวยให้กลับไปดำน้ำที่ไทยเอาเสียเลย จะไปทริปนั้นก็ไม่ได้ ไปทริปนี้ก็ติดขัดไปหมด
ประกอบกับเราวนลูปมาอยู่ในจุดที่เบื่องาน เซ็งชีวิตที่บินไปบินมาตลอดไม่ได้พักหายใจเลย วันหยุดก็หมดไปกับการนอนชาร์ตพลังเพื่อไปลุยใหม่ สภาพจิตใจย่ำแย่ เลยคิดว่าจะต้องไปหาอะไรมาบำบัดจิตใจ ละลายความเครียดที่สะสมเสียหน่อย
โชคดีที่เราไปทำไฟล์ท CKY-DKR ที่กัปตันดำน้ำเหมือนกันพอดิบพอดีเลยได้คุยกันเยอะ เขาอวดรูปนี่นั่นและพูดเรื่องดำน้ำตลอดเวลา แถมพอจบไฟล์ทก็ใจดีแนะนำว่าจริงๆแล้วอยู่ดูไบก็ไปดำน้ำได้นะ! เนี่ย... นั่งรถข้ามทะเลทรายไปเขต Fujairah (ฟูไจร่าห์) ซึ่งเป็นเขตชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่นั่นมีไดฟ์ไซท์เยอะแยะ หรือจะข้ามไปดำที่โอมานก็ได้ พร้อมแนะนำว่าให้ไปกับ Al Boom Diving สถาบันสอนดำน้ำในสังกัดของ PADI เขามีเรือออกไปดำทุกวันเลยยูววววววว
เมื่อได้ข้อมูลมาเราก็เปิดเข้าเว็บไซต์ไปอ่านว่าเขาออกเรือไปไหนบ้าง มีให้เลือกเยอะแยะเลยล่ะทั้งในดูไบเอง (ดำเล่นกับปลาฉลามในอควาเรียม และ เกาะ Dubai World Islands ที่ถมทะเลสร้างเป็นเกาะเรียงกันเป็นแผนที่โลก โอ้... ความรวยนี้นี่...) และนั่งเรือข้ามไปที่โอมาน แต่เราก็เลือกไปทำที่ฟูไจร่าห์นี่แหละเพราะใกล้ที่สุด มีเรือออกไปทุกวันแล้วแต่ว่าจะไปไดฟ์ไซต์ไหน แถมไม่ปลอมและเปลือกเหมือนในดูไบ
และไปคนเดียวก็เหงาๆเดียวดายไปนิดนึง เราอยากมีบัดดี้ไปดำด้วยกันเลยชวน ตี้ เพื่อนลูกเรือที่อินกับการดำน้ำพอๆกันไปเพื่อนด้วย จัดไปฮะ ไปดำ 2 ไดฟ์ในราคาที่ไปดำ Fun Dive ที่เกาะเต่าได้ประมาณ 6-7 ไดฟ์ บ้าเอ๊ยยยยย แพงมากกกกกกกกกกกก
ข้ามทะเลทรายไปจริงๆนะจ๊ะ
เราออกจากดูไบตั้งแต่หกโมงเช้า ไปถึงที่นั่นประมาณเก้าโมง จัดแจงเรื่องเอกสารต่างๆ เช็คบัตรดำน้ำ (เพิ่งมารู้ว่าใช้ Nitrox ฟรีไม่ชาร์ตเพิ่ม เสียดายยยยย) และไปเตรียมอุปกรณ์ ลองเวทสูทที่ก็งงว่าใช้ทำไมวะ เพราะน้ำมันต้องอุ่นแน่ๆเมื่อดูจากอากาศที่ร้อนระอุ ก่อนที่จะแบกทุกอย่างไปขึ้นเรือ
คณะเรือน้อยของเรามีทั้งหมด 8 คน จากการสังเกตพบว่าลุงสองคนที่นั่งหัวเรือคือน่าจะเมพสุด แสงติดเท้าแน่นอน เต็มกล้อง ไฟ สโตปเต็มที่ อีกคู่เป็นคู่รักนุ้งนิ้งที่ฝ่ายหญิงน่าจะดำมานานพอสมควร ส่วนฝ่ายชายน่าจะอยู่ในเลเวลเรา ส่วนอีกคู่นั้นเป็นสองหนุ่มที่เพิ่งมาเจอกันวันนี้ ประเมินไม่ได้ว่ายังไง
ส่วนไดฟ์หลีดของเราชื่อ ยูซุฟ ผู้มีขนตาเรียวยาวงามงอนสมกับเป็นคนชาตินี้ก็อธิบายเกี่ยวกับเรือและอุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆก่อนที่จะแล่นเรือออกไปไดฟ์ไซท์แรก คือ Martini Rock ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 25 นาที ระหว่างทางเราก็จัดแจงเตรียมอุปกรณ์ ประกอบนี่นั่นไปตามเรื่อง
พอถึงปุ๊บ เรือจอดปั๊บ ยูซุฟก็อธิบายเกี่ยวกับไดฟ์ไซท์ให้ฟังคราวๆว่า Marini Rock นี้คือกองหินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยปะการังมากมายทั้งเนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง มีความลึกสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 22 เมตร แต่เราจะไปกันที่ประมาณ 18-19 เมตร ส่วนความตื้นอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร เหมาะกับไดฟ์เวอร์ทุกระดับนะจ๊ะ พอลงไปปุ๊บให้ไปเป็นคู่นะ ค่อยๆว่าย ค่อยๆเอ็นจอย ตอนนี้เดี๋ยวเขาจะลงไปก่อนเพื่อเช็คว่ามีกระแสน้ำมั๊ย แรงแค่ไหน แล้วก็ทบทวนสัญญาณมือว่าอันนี้คืออะไร เป็นการรีเฟรชความรู้ในระดับหนึ่ง
เราทำบัดดี้เช็คกับตี้และเตรียมตัวโดดก็ได้ยินยูซุฟตะโกนขึ้นมาว่า ยู! โดดแล้วว่ายไปจับเชือก น้ำมันแรงมากกกกก เราก็โอเค๊ แล้วก็โดดตู้มลงไป ผลคือปลิวครับ ไปไกลถึงเกือบๆจะท้ายเรือ ต้องรีบว่ายไปเกาะเชือกและค่อยๆไต่ต๊อกแต๊กจนกลับมาตรงหัวเรือ
ทุกคนมาอีรุงตุงนังตังนิงกันอยู่ตรงนี้หมด เราต้องค่อยๆจับเชือกและลงเรียงคนมาเรื่อยๆไม่งั้นปลิวกลับไปที่ฝั่งแน่นอน ค่อยๆเคลียร์หูมาเรื่อยๆจนถึงจุดเซฟที่โอเค แต่ก็อยู่ในดงเม่นทะเล หวาดเสียวว่าจะโดนมากๆ จากน้นเราต้องไปต่อเลยตีขาหนีกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดมาเรื่อยๆ เป็นช่วงที่ทุลักทุเลพอสมควรเพราะคนนั้นชนคนนู้น คนนู้นชนคนนี้วุ่นไปหมด กว่าจะจัดระเบียบกันได้ก็ทำเอาเหนื่อยไม่น้อย
สาบานด้วยเกียรติของเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ว่าใช้ Filter ดีมีคุณภาพแล้วนะเว้ย
โยนอันของปลอมนั่นทิ้งไปแล้วนะจ๊ะ
ในภาพนี้คือฝูงปลาที่เอาจริงๆ มองเองยังไม่เห็นเลย แต่ก็ถ่ายไปอย่างนั้นแหละ
ถือว่าได้พบเห็นสัญญาณของสิ่งมีชีวิต
สำหรับเรา เราว่าความยากของไดฟ์นี้คือทัศนวิสัยต่ำมาก น้ำขุ่นเขียวเชียวล่ะ มองไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไร ประกอบกับมีกระแสน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็นจัดๆเข้ามาเป็นระลอก ต้องคอยว่ายสู้กับกระแสน้ำบ่อยๆไม่งั้นปลิว ได้เห็นปลาสิงโต 1 ตัว ที่ถ่ายรูปไม่ทันเพราะไหลไปตามน้ำ ปลาการ์ตูน 2 เล่นอยู่กับดอกไม้ทะเลที่ถ่ายไม่ทันเช่นกัน เพราะไหลไปตามน้ำ (อีกแล้วว้อย) หมู่ปลาที่ถ่ายรูปออกมาก็ไม่เห็นเพราะมันไม่เห็นจริงจริ๊งตามภาพด้านบน และเจ้าตัวนี้ที่อยู่ๆก็บุ๋งเข้ามากลางวง
ตี้ผู้โดนน้องว่ายขนาบข้างและตัดหน้าหายไปในความเขียว
พอจบไดฟ์ปุ๊บเราขึ้นมาหอบหายใจกันบนเรือ ลุงเมพเท้าติดแสงก็บ่นอุบอิบนี่เตรียมกล้องมาอย่างดีแต่ไม่เจอไรเลย แล้วก็ไปบ่นกับยูซุฟเป็นภาษาอารบิกอยู่ท้ายเรือ เรากับตี้มานั่งกินแซนวิชกับแอปเปิลหงุงหงิงกันสองคน ถ่ายรูปกุ๊กกิ๊ก และงีบนิดนึงตอนพักน้ำ 45 นาทีก่อนที่จะดำไดฟ์ต่อไป
Reflect หลังไดฟ์
เราว่าด้วยความที่ไม่ได้ดำน้ำมาซักพักนึงมันมีก็ลืมๆไปบ้างว่าต้องหายใจเอาอากาศเข้าไปอยู่ในปอดปริมาณเท่าไรถึงจะไม่ลอยขึ้นๆลงๆ ประกอบกับเราเพิ่มตะกั่วจาก 2 ก้อนเป็น 3 เพราะกระแสน้ำแรงและน้ำทะเลที่นี่มันเค็มว่าที่ไทยเลยทำให้เราลอยมากกว่าที่เกาะเต่า จากที่รู้ว่าต้องหายใจประมาณนี้ก็ต้องปรับระบบกันใหม่ ลองหายใจด้วยประมาณอากาศหลายๆแบบ และยูซุฟต้องเตือนว่าให้หายใจออกยาวๆและเอาลมใน BCD ออกหรือเติมลมเข้าไปบ้าง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in