ต่อ Bohol: 2016 Ep.2
ข้ามมาวันต่อมาเลยละกันเราแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า เพราะต้องรีบขี่มอไซด์ไป Chocolate Hills ซึ่งใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการขี่มอไซด์ แต่ระหว่าง 4 ชั่วโมงนั้น เราก็จะมีการแวะดูลิง Tarsier และก็ระหว่างทางหลงก็แวะถามคนไปเรื่อย
นอกจากนี้ทางฟิลิปปินส์ก็คือเหี้ยมากกก มดลูกแทบจะไหลลงมากองที่พื้นตอนถึง Chocolate hills
เริ่ม Spot แรก รูปปั้นคนจีน
คือไม่รู้ไปดูทำไม แม่งไม่มีอะไรเลย แต่ก็เออไหนๆมาแล้ว ถ่ายสักแชะสองแชะกลับไปให้รู้ว่ามาแล้ว เผื่อวันนึงอีรูปปั้นนี้มันดัง
Spot 2 ดูลิง Tarsier ! ลิงที่พันธุ์เล็กที่สุดในโลก คือแม่งเล็กจริง ถ้าเอาตัวปลอมมาวางก็ไม่รู้ เพราะมองไม่เห็นเสียค่าบัตรไม่แพง เลยไม่เซ็งมากๆ เห็นอยู่ 2 ตัว 555555555
Spot ที่ 3 ป่าไผ่มันเป็นทางผ่านที่มีต้นไผ่ สวยดี แวะถ่ายรูปหน่อย ให้คนท้องถิ่นถ่ายรูปให้ สั่นเหมือนแผ่นดินไหว 555555 แต่ก็เออ สวยดี
ผ่านแม่น้ำอะไรสักอย่าง สวยมากกกก เหมือนอยู่ใน Jurassic World (ไม่เคยไปหรอก ดูในหนัง)
ระหว่างที่ขี่มอไซด์ ทุกคนจินตนาการนะ
1. ทางคดเคี้ยวมาก เพราะว่ามันเป็นการขึ้นเขา ข้ามเขาหลายลูก
2. มีรถบรรทุกสวนไปมาตลอด
3. ถนนขรุขระตามประสาประเทศโลกที่ 3
4. คนขี่มอไซด์โง่ๆที่ยังขี่มอไซด์ไม่แข็ง
กว่าจะถึงก็คือมันไกลจนเราคิดว่าเรามาผิดทาง ถามชาวเขาบนนั้น เขาก็แบบ ขี่ตรงไปอีก ตรงอีกนิดนึงก็ทะลุกลับกรุงเทพแล้วมั้ง อิบ้า
แต่สุดท้ายเราก็ไปถึงเว่ยยยยยยยย .. วิวแบบ ไม่คุ้มค่าเลยที่มา 55555555555555555
เพราะช่วงนั้น Chocolate Hills ยังเป็นสีเขียวอยู่มันต้องมาช่วงหน้าร้อน ภูเขาจะเป็นสีน้ำตาล ซึ่งจะเหมือน Hershey’s วางเรียงกัน
แต่ก็กระนั้นเถอะ ถือว่า Checked ! เรียบร้อย
หลังจบ Chocolate Hills เราก็รีบบึ่งกลับที่พัก เพราะจะต้องรีบกลับโรงเรียน
ขี่มอไซด์แบบ 8 ชั่วโมงกลางแดดอะทุกคนนนนน กลับไปคือหน้าดำมากก ตอนแวะกินข้าวก่อนถึงที่พัก เราก็แบบ สงสัยจะสวย คนมอง ปรากฎไปเข้าห้องน้ำ อิบ้าา ฝุ่นควันแปะเต็มหน้า หน้าดำแบบเหมือนเอาหน้าไปจ่อท่อไอเสียมา
แต่อะ เอนี่เว ช่างแม่งเถอะ เตรียมตัวกลับเซบู ..
เราไปถึงท่าเรือ คุณลุงที่ขี่มอไซด์มาถามว่า มีตั๋วกลับยัง เราก็แบบ ไม่มีอะ มาซื้อหน้าเคาท์เตอร์เอา
พอไปถึงหน้า Counter ทุกบริษัทเรือ Fully Booked เขาบอกว่า มีพรุ่งนี้เช้าเราแบบบ
แทบทรุดลงไปที่พื้น กลัวไม่ผ่านฝึกงานไม่ใช่อะไร เพราะเหมือนโดดงานเลยนะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่เข้าทำงาน
เราเลยถามพนักงานว่า มีทางไหนบ้างที่วันนี้เราจะไปถึงเซบู
เขาบอกว่า “ให้ไปท่าเรือ Tubigon” เราเลยก็อะ กระโดดขึ้น Tricycle รถสามล้อที่นั่น
แต่สภาพมันเหมือนรถพ่วงซาเล้งก่อนขึ้นถามเขาว่า ราคาเท่าไหร่ เขาคิดราคาเรา 600 เปโซ (ประมาณ 420 บาท) เราเลยถามเขาว่า ใช้เวลากี่นาทีถึง .. เขาแบบ 3 hours
เห้ยยย แม่เจ้า กระโดดขึ้นมาแล้วด้วย
ระหว่างทางคือมีแต่ ป่า เขา ควาย คนขับ และดิฉันเอง ในระหว่างทางก็คือ คิดไว้แล้วว่า ถ้าตายก็คือ ไปเกิดใหม่ก่อนคนพบศพ เพราะมันคือเข้าป่า แบบ เหมือนจะถึงๆ ไอ้เหี้ย ไม่ถึงซะที .. เราแบบ ตอนนั้นนึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่นะ พูดจริงๆ ระหว่างทางก็คือถามคนขับไปเรื่อยๆว่า เหลืออีกกี่ชั่วโมง
3 ชั่วโมงเหมือน 8 วัน ..
ในที่สุดก็มาถึงท่า Tubigon .. ปรากฎว่า ตั๋วเรือหมดแล้วเหมือนกัน สรุปคือ เราเลยเออ งั้นโทรบอกออฟฟิศก่อนว่า ไม่ได้กลับนะวันนี้ เจอกันพรุ่งนี้ ยังไงจะรีบหาตั๋วกลับเร็วที่สุด
เพื่อนเราก็แบบ เออ หาที่พักนะ ..
แต่แบบเพราะมันมืดแล้วอะ ถ้าออกไปจากบริเวณท่าเรือ คือมืด แบบไม่มีไฟ แม้แต่ไฟทางหลวงก็ไม่มี
เราเลยมองที่พึ่งสุดท้ายคือ McDonald .. โชคดีแม่งเปิด 24 ชั่วโมง เราแบบสั่งน้ำแก้วนึงอยู่ถึงเช้า แต่ประมาณเที่ยงคืนเขาปิดร้านโซนนึงให้คนนอน (ดิฉันคือหนึ่งในนั้น)
ระหว่างที่ดิฉันนั่งรอเวลา ก็มีผู้ชายฟิลิปปินส์เดินเข้ามาคุยด้วย เขาแบบยูอยากได้ตั๋วมั้ย เดี๋ยวไอช่วยจองให้ เอาเบอร์ยูมา เราแบบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวจองเอง (กลัวเขาทำไมไม่รู้ แต่ใครๆก็ต้องกลัวปะ)
คือเราก็หลับไม่ลงอยู่แล้วอะ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงจะได้ตั๋วมั้ย เลยนั่งเล่นมือถือไปเรื่อยๆ
พอตี 4 เริ่มมีคนลุกออกไปข้างนอก เราคิดว่าเขาคงไปซื้อตั๋ว เราเลยลุกตามบ้าง ปรากฎว่ามีการต่อคิวซื้อตั๋วจริงๆ แล้วแบบเราได้ตั๋วตอนตี 5 แต่ ! เรือรอบที่เราได้คือ 10 โมงเช้า Bohol แม่งฮอตอะไรขนาดนั้น .. แต่สุดท้ายเราก็กลับมาเซบูโดยสวัสดิภาพนะ
มารู้ทีหลังว่า ช่วงปลายพฤษภาคม เป็นช่วง Fiesta ที่นู่น ทำให้คนจะไป Bohol กันเยอะเป็นพิเศษ แต่หลังจากนั้นเราก็ยังไป Bohol อีกรอบ แต่คราวนี้ไปแบบมีการวางแผนดี มีการจัดรถตู้ ไม่ต้องขี่มอไซด์ให้มดลูกสะเทือนอีกแล้ว
วันนั้นพอกลับถึงออฟฟิศคือ .. หัวหน้าร้องไห้กอดเราใหญ่เลย คงนึกว่าจะตายอยู่นั่นแล้ว 555555555 แต่ไม่ตายเว่ย เราเป็นอมตะ อิอิ <3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in