เนื่องจากโรงเรียนที่จูนทำงานอยู่ มีคนหลายเชื้อชาติ จึงทำให้เราเลือกไม่ได้ว่าเราจะได้เมทจากประเทศไหน และบางทีเขาก็อยากให้คุณฝึกภาษาเยอะๆจึงจัดการให้เราได้คละกับชาติพันธุ์อื่นๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องคุยภาษาพ่อภาษาแม่
เมทคนเก่าของจูนเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ มีกัน 2 คน และมีติ่งไทยอีกคนคือจูนเอง ในช่วงนั้นแทบไม่ได้ฝึกอังกฤษเลยค่ะ พูดแต่ญี่ปุ่นกัน จูนเองได้ฝึกญี่ปุ่น แต่ตัวเพื่อนอีก2คน พูดแต่ภาษาตัวเองล้วนๆ
หลังจากนั้นได้ 1 เดือน พวกเขาก็ถึงเวลาต้องกลับประเทศ ทำให้จูนเองต้องเปลี่ยนเมทใหม่ ซึ่งแค่ฟังก็ขนลุกแล้วเพราะเมทใหม่จูนคือ "คนจีนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน"
(จริงๆคนอื่นอ่ะ เขาจะเซอร์ไพรส์วันมาถึงเลย แต่จูนด้วยความที่ทำงานที่นี่จึงทำให้จูนเช็คได้ก่อนว่าใครจะเข้ามาใหม่)
ยอมรับว่าตอนนั้นขนลุกและโทรไปร้องไห้กับแม่คราใหญ่ (อ่อนแอนักนะมึง) เพราะรุ่นพี่คนไทยจูนเคยได้เมทคนจีน เรียกว่า ขี้ไม่กด ขี้เหม็น ขี้เหนียว ขี้งก และสารพัดขี้ที่พรั่งพรูออกมา กลืนน้ำลายเอือกแล้วก้มหน้ารับกรรม
แต่นอกจากเมทใหม่เป็นคนจีนแล้ว จูนยังได้เมทอีกคนเป็นเวียดนาม เรียกว่า ห้องจูนมิกซ์กันมั่วไปหมด 5555555
วันแรกของการมาของเมทจีน จูนทักทายแบบปกติ (ดูเชิงก่อน) .. เขาก็ปกตินี่หว่า แค่ชื่อแม่งเรียกยากสัสๆ (ตอนนี้ลืมชื่อจีนเขาไปแล้วด้วยซ้ำ)
ช่วงแรกๆ เวลาจะเข้าห้องน้ำจูนมีระแวงลึกๆว่า เขาฟลัดรึป่าววะ ถ้าไม่ฟลัดกูจะทำไงดี (ทุกครั้งจูนจะหลับตาแล้วยื่นมือไปกดชักโครกก่อนเลย กลัวเจอของดี)
แต่เอาจริงๆ เขาไม่เคยลืมกดน้ำกันเลยค่ะ สะอาดมาก สะอาดกว่ากูอีก (เมทญี่ปุ่นเก่ายังมีลืมกดน้ำบ้าง)
เมทจีนจูนนี่ ล้างมือทุก 5 นาทีเลย ใช้ทิชชู่เปลืองมาก
และอีกเรื่องนึงคือ คนจีนไม่ค่อยเกรงใจค่ะ
ช่วงแรกๆ เขาชอบส่งเสียงดังตอนกลางคืน แบบ ใช้ไดร์เป่าผมตอน 5 ทุ่ม (เพิ่งสระผมเสร็จ) หรือ ชอบทำเสียงขยำถุงก๊อบแก๊บ(ไม่รู้ทำทำไม) ตอนนั้นเซ็งมากเพราะง่วงนอน นอนไม่หลับ
และจูนก็หาวิธีมาปรับนิสัยเขาด้วยการ เอาไดร์เป่าผมออกไปเป่านอกห้อง เป็นตัวอย่าง แบบหวังเบาๆว่าเขาจะสำนึก
พอจูนกลับห้องมาเขาก็ถามว่าจูนไปเป่าผมที่ไหน
จูนบอกว่า "ไปเป่าข้างนอก เห็นอ่านหนังสือกันอยู่เลยไม่อยากส่งเสียงดัง" นางเอกมากตอนนั้น
หลังจากนั้นเมทคนจีนจูนไม่เคยเป่าผมในห้องอีกเลยค่ะ
ถือว่ามีการพัฒนาา..
เป็นข้อสรุปที่ว่า คนจีนไม่ได้สกปรกและไม่มีวัฒนธรรมไปซะทุกคนนะคะ อย่าเหมารวม
แต่ข้อเสียที่น่าติเตียนคือ ..
1. ปากเหม็นเจี้ยๆ ..
อันนี้เป็นข้อเสียมากๆ บางทีเขานั่งที่โต๊ะของเขาแล้วท่องศัพท์ กูยังได้กลิ่นเลยค่ะ ช่วงนั้นนี่เครียดมาก จะทำยังไงดี เลยเสิร์ชในพันทิปว่า .. ทำไมคนจีนปากเหม็นวะ (แต่จริงๆไม่ใช่แค่คนจีนนะคะ คนญี่ปุ่นก็ปากเหม็น) และจูนก็ได้คำตอบว่า "มันเป็นเพราะพวกเขากินเครื่องเทศบางชนิดตั้งแต่เด็กๆมันเลยสะสม"
คำถามต่อมาคือ "พวกมึงคุยกัน พวกมึงไม่เหม็นหรอวะ" "นั่นสิ" ใครรู้คำตอบช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ อยากรู้จริงๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตลกเวลาจูนคุยกับเพื่อนที่ทำงาน เพราะเพื่อนจูนคนนึงเคยมีแฟนเป็นคนจีนสมัยอยู่แคนนาดา และเขาก็บอกเลิกเพราะว่า "You are so dirty" แต่ไม่ได้ให้เหตุผลตรงๆ เขาให้เหตุผลแค่ว่า "ผมจะกลับเกาหลีแล้ว" หลังจากเลิกกันไป แม่งก็ยังอยู่แคนนาดาอีก2ปี (หน้าด้านสุดๆ55)
แต่ทุกวันนี้ก็ดูจะพัฒนาขึ้นนะคะ ไม่ค่อยมีกลิ่นแล้ว(สำหรับเมทจูน) แต่ก็ยังมีบ้างปะปลายให้ได้กลั้นหายใจทดสอบปอดกัน
2. ชอบแก้ผ้าในห้อง
นั่นแหละค่ะ ชอบถอดกางเกงเหลือแค่กางเกงในเสื้อยืด บางทีก็ถอดเสื้อในแล้วก็ค่อยเอาผ้ามาปิด (มึงต้องคิดถึงภาพระหว่างมึงเอาผ้ามาปิด) หรือไม่บางทีอาบน้ำแล้วลืมของ ก็เดินออกมาเลย (ไอ้ซั๊สสสสสส)
ไม่มีอะไรจะบรรยายค่ะ ข้อนี้พูดยากจริงๆ จะบอกว่า ยูๆ ไอไม่อยากเห็น ก็กลัวจะทำลายวัฒนธรรมเขา
แต่นิดนึงค่ะ คือรุ่นพี่อีกคนที่เคยเรียนที่นี่ พี่เขาบอกว่า เมทเก่าเขาเป็นคนเกาหลี ชอบเปิดประตูอาบน้ำ และพีคสุดคือวันแรกของการเป็นเมทกัน เมทแก้ผ้าออกมาเลย (อึ้ง..)
3. ใส่ชุดนอนชุดเดียวไม่เปลี่ยน
คือ จูนว่าเขาคงคิดว่า แค่ใส่นอนคงไม่สกปรก แต่ระหว่างวันเวลาเขาไม่มีเรียน กลับมาเขาก็เปลี่ยนชุดนี้แล้วใส่นอน นอกจากนี้ คืออยู่เป็นเดือนๆเล่นไม่ซักเลย ไม่กล้าเดินไปขอดม เดี๋ยวเขาหาว่าโรคจิต เคยคิดว่าจะเอาไปซ่อนแล้วจะซื้อใหม่ให้ ..
จริงๆข้อเสียของเขาเหมือนจะมีแค่นี้ค่ะ เท่าที่หลักๆ
ส่วนเมทคนเวียดนาม เขาจะมีลักษณะค่อนข้างคล้ายคนไทย เลยไม่ค่อยแตกต่างกันมาก
แต่จูนกับเมททุกคนอยู่รวมกันอย่างมีความสุขนะคะ
ถ้ามองข้าม 3 ข้อที่จูนเล่า เขาแทบจะไม่มีข้อเสียเลย
และนอกจากนี้ เขายังอัธยาศัยดีกับจูนมากๆ
บางทีจูนแค่คิดว่า เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องปรับตัวยังไง ถ้าเราโชว์ให้เห็นก่อนว่า เฮ้ย ใช้ชีวิตแบบนี้มันดีกว่ายังไง จูนว่าเขาก็ปรับปรุงตามนะคะ ไม่ใช่ประเทศที่ปิดกลั้นอะไรตัวเอง แถมยังอยากที่จะพัฒนาไปเรื่อยๆอีก ..
รักคนจีนมากขึ้น 4 สเตป ..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in