เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LIVING IN CEBU (?)Sutthida Stkt
Q&A about Philippines และแนะนำการศึกษา (มีสาระว่ะ)
  • ก่อนอื่นจูนขอบอกเลยว่า จูนอยากจะแนะนำประเทศนี้ เนื่องจากเขามีดีหลายๆอย่างที่เราไม่รู้
    และเพื่อนๆ หรือครูที่นี่มักจะถามว่า ทำไมคนไทยถึงไม่ค่อยมาเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์ ทั้งๆที่นอกจากจะใกล้ประเทศเรา อากาศใกล้เคียงบ้านเรา และ ค่าครองชีพยังถูกมากๆๆ (บางอย่างถูกกว่าประเทศไทยประมาณ 30%) ซึ่งก่อนเข้าในการตอบคำถามที่เจอบ่อยๆ จูนจะขอวิเคราะห์ ข้อดี - ข้อเสียก่อนค่ะ

    แต่จูนแนะนำแค่เมืองที่จูนอยู่นะคะ คือ เกาะเซบู

    ข้อดีของเซบู
    - ค่าครองชีพถูก จูนทานไก่ทอด อารมณ์แบบไก่ทอดหาดใหญ่ 3 ชิ้นใหญ่ ข้าวเหนียว 1 ห่อ ราคา 48 เปโซ หรือประมาณ 37 บาท
    - ทะเลที่สวยดั่งมัลดีฟ (ไม่เคยไปหรอก คิดว่าเหมือน) ต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่ประเทศเราทะเลไม่สวย แต่ทรายที่นี่ไม่ค่อยเหมือนประเทศไทย ทรายที่นี่จะค่อนข้างขาว เลยส่งผลให้น้ำทะเลจะฟ้า(เหี้ยๆ) แต่ประเทศเราทรายจะค่อนข้างสีเข้มกว่า เลยทำให้น้ำดูขุ่นกว่านิดนึง ทั้งๆที่ถ้าทรายขาวเหมือนกันอาจจะเริ่ดกว่านี้ จูนคิดว่า เป็นเพราะภูมิประเทศเขาเป็นเกาะ ทำให้ทรายที่นี่ค่อนข้างเป็นสีขาว ถ้าหากเราไปเกาะพีพีคงจะพอกัน (แต่พวกเพื่อนๆชาวเอเชีย บอกว่า ประเทศเราทะเลสวยกว่า)
    - ไปเที่ยวทะเลง่ายมาก จากโรงเรียนจูนไปทะเล ใช้เวลาแค่เพียง 30 นาที และคือทะเลไม่ใช่ทะเลขี้ๆที่ไม่สวย แต่เป็นทะเลที่แบบ เกาะสวาทหาดสวรรค์เลย
    - ค่าเรียนถูกค่ะ (ไม่มีอะไรจะบรรยาย)
    - ฟิลิปปินส์เป็นประเทศอันดับที่ 3 รองจาก อังกฤษ และ อเมริกา ที่คนพูดภาษาอังกฤษได้มากที่สุด
    - คนที่นี่อัธยาศัยดีค่ะ แบบบางทีงี้ เจอพี่ยาม 4 ที ก็ Good afternoon 4 ที จนแบบ พอเหอะ ขี้เกียจโค้งคำนับแล้ว (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่โกงนะ 55555)
    - เหมือนประเทศไทยแทบจะทุกอย่างยกเว้นภาษา
    - เซบูเป็นจังหวัดอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยค่ะ
    เป็นต้น ..

    ข้อเสียของเซบู
    - อากาศร้อน(เหี้ยๆ) อากาศเหมือนประเทศไทยค่ะ แต่ท้องฟ้าที่นี่จะไม่มีเมฆเลย คือท้องฟ้า และพระอาทิตย์ จบ. ตากเสื้อในแห้งภายในวันเดียว(ปกติฟองน้ำหนา ต้องตาก 2 วัน กว่าจะแห้ง)
    - ยกมาจากข้อคนที่นี่อัธยาศัยดีค่ะ .. ที่จูนบอกว่า พวกเขามีโกงบ้าง คือไม่ใช่ว่า โกงแบบ จะขโมย จะนู่นจะนี่ แต่เหมือนพี่ไทยของเรา ที่บางทีโก่งราคาชาวต่างชาติค่ะ
    - สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะเนื่องจากจูนเองก็ไม่ใช่คนอินกับศาสนาคริสต์ เกิดและโตในเมืองพุทธ แต่สถาปัตยกรรมของเขาก็ไม่เลวนะคะ ถือว่าไปเที่ยวแบบให้รู้ว่ามา ถ่ายรูปแชะๆ ก็โอเค
    - ของกิน .. เขาจะติดการกินเปรี้ยวค่ะ ซึ่งเปรี้ยวของเขาเป็นอารมณ์เปรี้ยวน้ำส้มสายชู ซึ่งบางทีแสบท้อง 55555
    นึกไม่ออกแล้ว ..

    เข้าช่วงคำถามค่ะ + การแนะนำการศึกษาต่อค่ะ (จูนไม่ได้ได้โฆษณาโรงเรียนที่จูนทำงานนะคะ แต่ขอแนะนำรวมๆดีกว่า อารมณ์แบบ แนะนำการศึกษาภาษาอังกฤษในเซบูละกัน)

    Q : ฟิลิปปินส์อันตรายมั้ย ?
    A : ก่อนที่จูนจะมาก็ได้ข่าวนะคะ ว่ามีการจี้ปล้นแทงนักท่องเที่ยวเป็นว่าเล่น แต่จูนยังไม่เคยเจอเลย เคยเจอแต่เพื่อนเมาแล้วโทรศัพท์หาย จูนคิดว่า ถ้าไม่ซวยจริงก็คงไม่มีอะไร เมืองที่จูนอยู่ผู้คนค่อนข้างเฟรนด์ลี่ จูนสามารถเดินไปไหนมาไหนคนเดียวกลางคืนได้โดยที่ไม่มีใครมาทักหรือมามองหน้าอยากขโมยของ แต่ก็จะมีพวกพี่ๆเขาทักทายแบบ อันยอง เราบ้าง ซึ่งกูไม่ใช่เกาหลีค่ะพี่
    แต่จูนเองก็ได้ยินจากเพื่อนๆที่เคยไปมะนิลาว่า มะนิลาอ่ะน่ากลัว ถ้าของไม่หายแสดงว่ามาไม่ถึง ..
    จริงๆคิดว่าของจะหายไม่หาย อยู่ที่ 1.สติ และ 2.การฝากดวงที่ศาลเจ้าพ่อเสือค่ะ .. (อ่าว อินี่)

    Q : ผู้หญิงตัวคนเดียวไปอยู่ได้มั้ย ?
    A : คือ จูนพักอยู่ในโรงเรียน ทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องการโดนงัดแงะห้องพัก แต่ถ้าถามเรื่องการสัญจรออกไปไหนมาไหนคนเดียว จูนก็ยังคิดว่าได้นะคะ ตอนมาแรกๆเขาจะมีการเตือนเรื่อง "ไม่ควรนั่งรถจิ๊ฟนี่เข้าตัวเมืองเซบู" อะไรที่เขาว่าเตือน ต้องลองค่ะ .. ไปคนเดียวด้วยนะ พอลองแล้วก็ติดใจนะ แบบ นั่งแท๊กซี่ 200 เปโซ เข้าห้างใหญ่ แต่นั่งจิ๊ฟนี่แค่ 21 เปโซ ต่างกันตั้ง 10 เท่าแหน่ะ .. แต่ขากลับจูนมักจะกลับแท๊กซี่ เพราะจิ๊ฟนี่ชอบพาผ่านสถานที่นู่นนี่ และอินี่ก็ชอบถ่ายรูปอีก ชอบแวะนู่นแวะนี่ สุดท้าย ก็จะลืมสายรถ เพราะรถที่นี่มักจะมีหลากหลายกราฟฟิคดีไซน์ ดีไซน์มันขึ้นมา​(เดี๋ยวเล่าที่คำถามต่อไป) และจูนก็ไม่เคยเจอเรื่องเลวร้าย ไม่เคยเจอการแอบล้วงกระเป๋า หรืออะไรเลย จูนคิดว่า บางทีพวกเขากลัวเราหลงมากกว่า ..
    จริงๆแล้ว จูนไม่ได้ฮิปสเตอร์ ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวหรอกค่ะ แต่คือบางทีจูนคิดว่า จูนเป็นพวกตามใจตัวเอง ถ้าชอบตรงไหนก็อยู่นานหน่อย ถ้าไม่ค่อยชอบถ่ายรูปแชะๆก็กลับ จบ.
    และอีกอย่างเพื่อนที่มาด้วยกัน วันหยุดเขามักจะปั่นรูปเล่มรายงาน (อินี่รอปั่นตอนก่อนกลับให้ตาแหกทีเดียวไง) เลยทำให้ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน จบ. 
    แต่จริงๆแล้วนะคะ ทริคในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ให้ไม่โดนโกงคือ "มึงต้องแอคว่ามึงอยู่มานานแล้ว" แบบอย่างจูนงี้ พี่แท๊กซี่มักจะถามนู่นถามนี่ ถามว่ามาทำอะไรที่นี่ ถ้าตอบว่า "มาเรียน" มึงโดนและ .. และถ้าเขาถามว่า อยู่นานเท่าไหร่ แล้วตอบว่า "2อาทิตย์" มึงเละแน่ๆ เขาโกงยับ .. 
    จูนมักจะตอบว่า "มาทำงานที่นี่ ตำแหน่งเมเนเจอร์ อยู่มา 6 เดือนแล้ว" แม่งพากูไปทางตรงไม่มีอ้อม 
    ง่ายๆเลยคือ อย่าทำหน้าโง่ค่ะ ทำหน้าฉลาดๆเข้าไว้ .. ถึงใจถึงขาจะสั่นก็ตาม

    Q : ระบบการขนส่งเป็นอย่างไร ?
    A : ครั้งแรกเครียดมาก เพราะมันไม่สะดวกเหมือนญี่ปุ่นที่คลิกปุ๊บ google map ก็โชว์ พร้อมสายรถไฟ แค่นั้นยังไม่พอ แม่งยังโชว์เวลาถึงแบบเป๊ะๆให้อีก แต่ที่.. ขึ้นเพียงคำว่า Cannot found จบ.
    แรกๆจูนก็จะถามพี่ยามก่อนค่ะ ว่าจะไปต้องยังไงๆ และความShit ของจิ๊ฟนี่ที่นี่คือ เขาเขียนDirection แบบ กราฟฟิตี้ คือแบบ มีความเป็นอุเทนถวายเบาๆ และบวกกับสถานที่ที่ใช้ชื่อภาษาตากาลอค .. จบ.
    แค่ใช้ Angsana new + ภาษาตากาลอค จูนยังงงเลยค่ะ บางที กำลังจะอ่าน พอได้ที่และ ไปแล้ว ฟริ้วว ยังไม่ทันได้ขึ้น
    และนอกจากนี้ สีรถยังคละเคล้ากันไป คือไม่มีสีที่บ่งบอกว่า สีฟ้าไปนู่น สีชมพูไปนี่ คือพวกเขาอยากดีไซน์ ดีไซน์ อยากวาด วาด
    แต่จูนได้ทริคคือ ถามเลยว่า ไปอันนี้ใช่มั้ย แล้วพอจะต่อรถ ค่อยถามต่อ ..
    สรุปคือ .. จูนว่าประสบการณ์ใหม่นะ และอีกอย่าง ได้สื่อสารกับคนฟิลิปปินส์ด้วย เท่ห์ !

    Q : เที่ยวทะเล
    A : จูนไปทะเลมา 2 รอบ เอาจริงๆ พวกนักเรียนปกติเขาไปกันทุกอาทิตย์ จูนมักจะไปแบบ 1 day trip เนื่องจากบางทีจูนลา เสาร์อาทิตย์ทั้งคู่ไม่ได้ ราคาการไป 1 day trip มักจะสงนอยู่ที่ประมาณ 1000-1200 บาทค่ะ ไม่แพง และเริ่ดมาก

    Q : การเรียนการสอนเป็นอย่างไร
    A : สำหรับที่โรงเรียนที่จูนทำงานนะคะ จะเป็นการเรียนแบบ 1on1 , Small group class , Big group class ซึ่งสำหรับ ทุกประเภทจะมี speaking , writing , grammar , reading , listening แล้วแต่เราจะเลือกค่ะ แต่จะแตกต่างตรงประเภทการสอน

    1on1 จะเป็นการเรียนตัวต่อตัวกับครูผู้สอน สำหรับจูน 1on1 จะเป็นการเรียนพูดค่ะ เพราะเป็นคนพูดไทยเก่งมากกกกกก เลยอยากพูดภาษาอังกฤษให้เก่งมากกกกกก เหมือนกัน แต่ครูมักจะพูดว่า นี่ขนาดไม่ใช่ภาษาตัวเองยังพูดไฟไหม้ห้องขนาดนี้ ถ้าพูดภาษาเดียวกัน คงหูชา เพราะเป็นชะนีขี้เม้าท์

    Small group class จะเป็นการเรียนกลุ่มเล็ก ซึ่งจะไม่เกิน 9 คน ต่อ 1 คลาส แต่บางที ก็มีเด็กในกรุ๊ปแค่ 2 คน นักเรียนสามารถจัดสรรเวลาเรียนได้ ถ้าบางทีเขาไม่ถูกใจ ใครใคร่ลงลง จูนลง Small group class เป็นการเรียน Pronuncation และ Writing ค่ะ

    Big group class จะเป็นการเรียนกลุ่มใหญ่ ซึ่งจะไม่เกิน 30 คน ต่อ 1 คลาส จูนเคยเรียนอยู่ เป็นการเรียน Formal writing พอหลังๆเริ่มรู้สึกว่า อะไรที่เป็นทางการนี่มันไม่เหมาะกับเราเลย เราเหมาะแก่ความหยาบโคลน หยาบคลาย เพราะฉะนั้น เปลี่ยนค่ะ
    นักเรียนสามารถเปลี่ยนกรุ๊ป เปลี่ยนเรื่องเรียน และเปลี่ยนครูผู้สอนได้ค่ะ

    Q : อาหารการกินเป็นอย่างไรบ้าง
    A : ถ้าถามว่า กินได้มั้ย จูนเป็นคนกินง่าย (หรือตะกละนั่นเอง) ก็ต้องตามว่า กินได้ค่ะ แต่ถ้าคาดหวังความอร่อย จูนว่าไม่ .. 555 จริงๆแล้ว มาถามเด็กที่เกิดและโตในประเทศที่มีหมูย่างอร่อย และขนมจีนเขียวหวานอร่อย ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเราเฉยๆ จูนเคยไปกินอาหารฟิลิปปินส์กับเพื่อนญี่ปุ่น มีจานนึงเป็นอารมณ์หมูย่าง พอเพื่อนญี่ปุ่นกิน ร้องเป็นคำเดียวว่า "สุโก้ยยยย" อิจูนคาดหวังมาก จิ้มกินเข้าไป คิดในใจได้คำเดียวว่า พวกมึงยังไม่เคยโดนคอหมูย่างบ้านกูสินะ ..
    นั่นแหละค่ะ สำหรับความเห็นจูน จูนคิดว่า ไม่ได้แย่ แต่ไม่ได้ดี กลางๆ แต่จะมาคาดหวังความอร่อยรสจัดเหมือนเมืองไทย คงจะไม่ได้ (นี่ซื้อน้ำปลามาเหยาะทุกเมนู..) 

    Q : ค่าครองชีพสูงมั้ย ? 
    A : ไม่สูง เหมือนเมืองไทยเป๊ะๆ แต่บางอย่างถูกกว่า อย่างสบู่แพ็ค 4 ก้นประเทศไทยประมาณ 50 บาท ที่นี่สบู่ก้อน 1 โหล 12 เปโซ ประมาณ 10 บาท .. ถูกกันเป็นขี้เลยค่ะท่านผู้ชม บางอย่างถูกก็ถูก รองเท้าแบรนด์ที่นี่ถูกมาก แบบสวยๆคู่ละ 100 บาทไทยงี้ 

    ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับการเรียน การใช้ชีวิตนี่มาถามได้เลย แนะนำจริงๆ ไม่ได้อวยเพราะใช้ชีวิตที่นี่ หรือโปรโมตโรงเรียน แต่เพราะว่า ถ้าเราได้สิ่งที่มีคุณภาพในราคาประหยัดได้ ก็อยากจะแนะนำคนอื่นให้ได้เหมือนกับเรา 

    และโรงเรียนจูนมีการรับสมัคร Student staff คือ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ในราคาเพียง 30% จากราคาเต็ม แต่เราจะได้เรียนเพียง 4 คาบต่อวัน ซึ่งนักเรียนคนอื่นจะประมาณ 8-9 คาบ ซึ่งจูนว่าก็แฟร์นะ ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่น และยังมีสิทธิพิเศษมากมายเช่น .. ผู้ชายหล่อๆมักเข้ามาขอความช่วยเหลือ หรือสามารถรู้ว่า อิคนที่เราแอบหมายนั้นจะไปไหนสุดสัปดาห์นี้ ถ้าหน้าด้านก็ขอไปด้วยเลย จบ. (เคยทำมาแล้ว 555555) 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in