เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
seize the MOMENTSarut Ratanavijit
Merci Arsène
  • “One Arsene Wenger, There's only one Arsene Wenger, There's only one Arsene Wenger...”

    เสียงร้องทั่วอัฒจันทร์ทั้ง 4 ฝั่งในสนาม Emirate Stadium ที่เต็มไปด้วยผู้คนเกือบหกหมื่นคน ดังอื้ออึงหลายนาที บทเพลงนี้ได้ยกย่องชายผู้หนึ่งที่อุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้กับสโมสรฟุตบอลหนึ่งยาวนานถึง 22 ปี และในขณะที่บทเพลงกำลังดำเนินไป ชายผู้มีผมสีดอกเลาที่บทเพลงนั้นเอ่ยถึง ค่อยๆ ปรากฏตัวในสนาม โบกมือไปรอบๆ ด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับวันแรกที่เขาเข้ามายังสโมสรแห่งนี้


    “ขอบคุณมากครับ” เขารับไมโครโฟนและเริ่มกล่าว 


    “ก่อนที่จะเริ่ม ผมขอส่งความปรารถนาดีถึงเพื่อนผู้จัดการทีมคนหนึ่งของผม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้หายจากอาการป่วยในเร็ววัน....ขอบคุณทุกคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกันมาอย่างยาวนาน ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมเป็นแฟนบอลอาร์เซนอล เฉกเช่นพวกคุณทุกคน” เสียงตบมือ โห่ร้องดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากเสียงเริ่มซาลง เขาจึงเริ่มกล่าวต่อ 


    “นั่นหมายความว่า การเป็นแฟนบอลของสโมสรแห่งนี้ มันเป็นมากกว่าแค่การไปดูฟุตบอล มันเป็นวิถีชีวิต เป็นการใส่ใจไปกับเกมส์ฟุตบอลที่สวยงาม ค่านิยมที่พวกเราหวงแหน และยังเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในเซลของร่างกายพวกเราทุกคนด้วยเช่นกัน...เราห่วงหา กังวล และสิ้นหวัง...แต่เมื่อคุณมาที่สนามแห่งนี้ เราจะได้รับรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า โรงละครแห่งความฝัน ” 


    “ผมขอขอบคุณทุกคนที่สโมสรแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ที่ได้ทำให้สโมสรนี้พิเศษขึ้นมา ผมอยากจะเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนนักเตะและทีมงานเหล่านี้ที่จะยังคงอยู่หลังจากผมจากไป...สำหรับผมแล้ว กลุ่มนักเตะและทีมงานของพวกเรา ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม ล้วนแล้วมีคุณภาพที่แข็งแกร่ง...เมื่อคุณติดตามเชียร์สโมสรนี้แล้ว ได้โปรด สนับสนุนพวกเขาในฤดูกาลหน้า เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเขาคู่ควรจะได้รับ”


    “ผมขอจบงานในวันนี้ด้วยหนึ่งประโยคง่ายๆ ว่า ผมจะคิดถึงพวกคุณทุกคน ขอบคุณที่มอบช่วงเวลาพิเศษให้กับชีวิตผม หวังว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง ลาก่อนครับ” 


    เสียงปรบมือดังอื้ออึงพร้อมกับบทเพลงในช่วงต้นที่ได้ถูกขับขานผ่านผู้คนทั้งสนามอีกครั้ง ธงตราสโมสรผืนใหญ่ถูกโบกปลิวไสวอยู่หน้าอัฒจันทร์ฝั่งตะวันออก หลังจากกล่าวถ้อยคำจบ ชายผู้นั้นเดินไปบริเวณกลางสนาม และโบกมืออำลาเหล่ากูนเนอร์ ที่ทั้งรักและทั้งเกลียดชังเขา ในนัดเหย้าสุดท้ายของฤดูกาล 


    ณ ห้วงเวลานั้น พวกเขาต่างทิ้งความบาดหมาง ความเคลือบแคลงใจในอดีตต่อชายผู้ที่ยืนอยู่บนสนามเบื้องหน้า และต่างมารวมกันเพื่อร่ำลาและขอบคุณ “The Professor” ที่เข้ามาวางรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับสโมสร รังสรรค์ปรัชญาการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม ปลุกปั้นนักเตะโนเนมสู่ดาวอันเจิดจรัสคนแล้วคนเล่า และมอบความสุขไว้ให้เหล่ากูนเนอร์ผ่านถ้วยรางวัลทั้ง 17 ใบ 

    จากบุรุษนิรนามในวันแรกสู่ยอดผู้จัดการทีมที่สโมสรแห่งนี้เคยมีมา 

    Merci Arsène


    Photo Credit : Arsenal FC
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in