พอมีสิ่งที่อยากจะไปจริงๆ แล้วชีวิตวันนั้นดูเหมือนมีจุดหมายขึ้นมาเลยครับ
เปิดแผนที่กระดาษซีร็อกซ์ แล้วไปกันเลย โก โก Chinatown!
แม้ว่าผมจะมีสกิลการหลงทางสูงมาก แต่ก็แอบคิดว่าไม่น่าจะหนักขนาดนี้นะ
เพราะเดินวนไปวนมาหลายรอบแต่ทำไมมันยังไม่เจอสักที
เข้าซอยนู้นออกซอยนี้ก็ยังไม่พบสัญญาณชีพของ Chinatown แต่อย่างใด
ระหว่างที่กำลังหลงทางก็ได้พบสิ่งที่น่าสนใจสองอย่างครับ
อันดับแรกคือตลาดขายสินค้ามือสอง ผมนี่ตาลุกเลย เพราะชอบอะไรแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
พุ่งตัวไปปั๊บ อ่าว... คลองถมบ้านเรายังมีอะไรให้ดูมากกว่าอีก
แต่สิ่งที่สตั๊นผมมากที่สุดในตลาดนี้คือ "ทันตกรรม Open Air" ครับ
หมอฟันพร้อมเก้าอี้ทำฟันบวกคนไข้นอนให้ถอนฟันแบบสดๆ ริมถนน พร้อมมาเลเซียมุงยืนดูให้กำลังใจ ร่วมลุ้นไปกับภารกิจในช่องปาก ผสมนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาชักภาพเป็นที่ระทึกตลอดเวลาการทำฟัน
โอ้โห ตะลึงมากครับ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เชื้อโรคบ้านเขาต้องน้อยแน่ๆ เพราะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้น้อกตึกเนี่ย
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ พอผมเดินหลุดจากซอยขายของมือสองมาได้ ก็ได้พบกับ Local Attraction ของแท้ครับ
เลี้ยวซ้ายไปเจอเลย
เลี้ยวหลุดหัวมุมมา เจอกับตึกแถวที่เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน มีชายหนุ่มหลายคนเดินเข้าออกขวักไขว่ ผมโฉบเดินไปชมด้วยความสงสัย หน้าประตูมีหญิงสาวนั่งอยู่ที่หน้าประตู เรียงรายไปตามตึกแถว ส่งสายตาเชื้อเชิญหมู่มวลหนุ่มน้อยใหญ่ฝั่งตรงข้ามให้เข้าไปแวะเวียนด้านใน
ตึง... วินาทีที่เหยียบเข้าไป ณ ที่ตรงนั้น สายตาหลายคนจับจ้องมาที่ผมโดยพร้อมเพรียง
ไม่น่าจะชวนให้ไปลองร่วมสนุกกับเขา แต่มองเขม็งมาที่กล้องที่ผมสะพายมาด้วยมากกว่า
ถ้าจ้องขนาดนี้ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไหมเห็นก็ได้ครับ พูดกับพี่ๆ เขาผ่านทางโทรจิต แล้วรีบสับเท้าหนีออกไปโดยไว
แต่... ความขี้เสือกของผมชนะทุกความกลัวครับ เลยเดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาตรงนั้นอยู่อีกสองสามรอบ ชำเลืองตาเข้าไปว่า เอ๊ ข้างในมันมีอะไรกันนะ ไม่รู้จริงๆ เลย... (แต่ก็ไม่เห็นอะไรจริงๆ หรอก เพราะมันมีผ้าม่านกั้นไว้)
หลงทางมานานแสนนาน ในที่สุด คำตอบที่ว่า Chinatown ที่ผมตามหามันอยู่ตรงไหน กลับแอบซ่อนอยู่ในโปสเตอร์เก่าๆ ที่แปะอยู่ริมผนังโรงแรมทรงคลาสสิค
"Chinatown ต้องมีแกลลอรี่สำหรับเก็บมรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้" พาดหัวกระซิบบอกผมแบบนั้น
ไล่เรียงไปตามเนื้อหาข้างใน ผมก็ได้พบทางสว่าง...
เงยหน้าขึ้นมาจากโปสเตอร์ ผมก็ได้เจอ Chinatown
...ที่มันซ่อนตัวอยู่หลังสังกะสีสีน้ำเงินเข้มที่ผมเดินผ่านไปผ่านมาตั้งหลายที
ชิท
Chinatown แห่ง KL ที่ผมตามหา พื้นที่ตรงนั้นได้ถูกรื้อและกำลังก่อสร้างเป็นสถานี MRT ของเมืองไปเรียบร้อยแล้ว
Chinatown แห่ง KL กับ Chinatown แห่ง Bangkok ประสบชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน
บางส่วนถูกกัดกินเพื่อแลกกับความเจริญและสะดวกสบาย
(จากข้อมูลที่หามาเพิ่มเติม จริงๆ Petaling Street ก็ถูกเรียกว่า Chinatown เช่นเดียวกัน แต่พื้นที่ๆ ผมตามหา มันคืออีกละแวกใกล้ๆ ถ้าเทียบกับของเมืองไทย ก็เหมือนกับ เยาวราชและย่านวัดมังกรฯ อะไรประมาณนั้น)
(โดนทำ MRT เหมือนกันเลย)
(เฮ้อ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in