คนเรามันทำพลาดกันได้ทั้งนั้น ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ 100%....
เราเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่อง Introvert และการออกจาก Comfort Zone ไว้
ที่ลิงก์นี้ https://minimore.com/b/LPaiR/2
ณ เวลานั้นที่เราลงมือเขียนมันยอมรับเลยว่าตอนนั้นไฟแรงมาก อยากผจญภัยสุดๆ
เอาเป็นว่าโพสต์นี้เราจะพูดถึงเรื่องราวต่อจากครั้งนั้นว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง มีอะไรที่เราอยากเตือนคนที่คิดจะทำหรือกำลังทำเหมือนที่เราทำบ้าง แต่เราจะเล่าคร่าวๆหรอกนะ ไม่ได้ลงละเอียดมาก เดี๋ยวยาวไปมันจะไม่น่าอ่าน
....................
ด้วยความที่อยู่ๆเราก็อยากจะออกจากComfort zone เราเลยลองทำนู้นทำนี่เยอะแยะกว่าแต่ก่อน(จริงๆไม่น่าเรียกว่าเยอะกว่าแต่ก่อน เพราะปกติเรียนอย่างเดียวอยู่แล้ว)
พื้นฐานเราเป็นคน Introvert มากในระดับนึง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากก
เราได้ทำงานทั้งในคณะและนอกคณะ ซึ่งมันเยอะมากเลยนะสำหรับคนอย่างเรา
พอเข้าไปทำแล้วมันก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบใช่ไหมล่ะ แล้วทั้งสองอย่างมันต้อง Deal กับผู้คนมากในระดับนึง นี่แหละคือปัญหาของชาว Introvert
การDealกับคนมันค่อนข้างเหนื่อย และเราก็ไม่ค่อยถนัดในด้านนี้ด้วยสิ แต่ด้วยความที่ใจนึงเราก็บอกตัวเองว่า "เนี่ย ตัดสินใจมาทำ ตัดสินใจจะปรับเปลี่ยนตัวเองแล้ว ยังไงก็ต้องยอมรับมัน"
งานทั้งสองมันเข้ามาพร้อมกัน
ช่วงแรกเรายุ่งมากเลย งานเยอะไปหมด กังวลว่าตัวเองจะทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบให้ออกมาดีได้ไหม
แต่ ครั้งแรกเราย่อมรู้สึกว่ามันยากเสมอ
เรากดดัน เครียด รู้สึกท้อหลายครั้งจนช่วงแรกๆเราตัดสินใจนัดพบนักจิตวิทยา
.......
สิ่งที่เราค้นพบด้วยตัวเราเองคือ เรายังปรับตัวไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันเร็วมาก เราทั้งยุ่ง เครียด จนเราละเลยสิ่งนึงที่สำคัญและIntrovertทำมันได้ดีด้วย นั่นคือ การพูดคุยกับตัวเอง เราแทบไม่มีเวลาที่ได้คิดทบทวน สะท้อนตัวตนของตัวเอง เพราะงานเราเยอะ เราไม่ได้มานั่งถามตัวเองว่าวันนี้เป็นยังไง ฯลฯ การที่เราออกไปทำสิ่งใหม่ๆไม่ใช่ว่าเราอยากจะสลัดความเป็นIntrovertของตัวเองออกนะ อย่างที่เคยบอกไปว่าเรายังคงนิยามตัวเองว่าเป็นIntrovert อยู่ตลอด
เราอยากแนะนำทุกคนเลยที่เป็น Introvert แล้วต้องออกมาทำสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยทำ อยากให้ลองหาเวลาให้ตัวเองเพื่อสะท้อนตัวตน พูดคุยกับตัวเองเยอะๆ อย่าไปเร่งให้ทุกอย่างเพอร์เฟคในคราวแรก มันต้องมีผิดพลาดบ้างแหละ เพราะมันคือครั้งแรก แต่คนเรามันเรียนรู้กันได้
สำหรับเราถ้างานไหนNatureมันไม่ตรงจริตเราเลย เราก็ลองถอยออกมาตั้งหลักก่อนซักพัก คุยกับตัวเองว่ามันโอเคที่จะทำต่อจริงๆไหม เราอาจจะแค่เหนื่อยเฉยๆ แต่กับบางอย่างเรารู้สึกว่าถ้ามันไม่ถูกจริตเราเลย มองดูทุกแง่มุมแล้วก็มืดแปดด้านไปหมด พยายามปรับตัวเองแล้วมันก็ยังไม่ใช่อีก สิ่งๆนั้นมันก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับเราจริงๆ เราก็จะไม่ฝืนทำตัวให้เข้าได้กับทุกอย่างบนโลกนี้ ถ้าสิ่งนั้นมันสร้างความทุกข์ให้กับเรามากกว่า เราก็จะเดินออกมา
......
แล้วทุกวันนี้เราเป็นยังไง??
เราปรับตัวได้แล้วค่ะ อาจจะไม่ได้เลิศเลอแต่มันดีกว่าครั้งแรกแน่ๆ :)
You don't have to see the whole staircase, just take the first step
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in