รู้สึก (ไปเองไหมไม่รู้) ว่าตอนนี้เหมือนแคมเปญเพจเฟซบุ๊กต่างๆ มันคล้ายกับจะมาถึงทางตัน ด้วยความที่เพจใหม่ๆ ก็เกิดยาก (ขึ้น) เพราะเฟซบุ๊กมันกด reach ไว้ เพื่อเก็บลูกค้าไว้ให้กับเพจที่ยอมจ่ายเงินเท่านั้น สารต่างๆ ก็ยิ่งกระจายไปยากขึ้น (นอกจากยอมจ่ายเงินให้เฟซบุ๊กเป็นจำนวนมหาศาล) อีกอย่างคือ เหมือนจะรู้สึกว่าการทำเพจเฟซบุ๊กมันเป็นเรื่องที่ (น่าจะ) อิ่มตัวมาสักพักแล้ว ตอนนี้โปรไฟล์เฟซบุ๊ก (หน้านี้เนี่ย) ยังจะมีค่ามากกว่าอีก
เคยลองทดสอบกับน้องคนหนึ่งที่โปรไฟล์มีคนตามประมาณ 14,xxx คน ว่าเราโพสท์คอนเทนต์เดียวกันในเพจ (2xx,xxx คน) ปรากฏว่าหน้าโปรไฟล์ของน้องมีอิมแพคมากกว่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะ
1. การกดติดตามโปรไฟล์แสดงถึงความ willing ที่จะมีส่วนร่วมกับทุกๆ คอนเทนต์ที่คุณสร้างอยู่แล้ว มันเป็นการสร้างพันธะที่แน่นหนา ยิ่งใหญ่กว่าการแค่กดไลค์เพจ
2. ทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวกับข้อแรก แต่โพสท์จากโปรไฟล์นั้นมีโอกาสถูกแสดงให้เห็นมากกว่าโพสท์จากเพจมาก (เพจจะถูกตีความว่าเป็นการค้า, จ่ายเงินจึงเห็นมาก ในขณะที่โปรไฟล์ถูกตีความเป็น personality)
3. ในกรณีที่ถ้าเป็นเพจแบบ Personality เอฟเฟกต์พวกนี้จะลดลง เพราะคนมากดไลค์ทั้งชอบคอนเทนต์ที่สร้าง และชอบในตัวตนคนสร้างด้วย (ดังนั้นเขาก็ชอบที่จะแชร์และไลค์อยู่แล้ว) แต่เพจที่ไม่ได้มีลายเซ็นชัดเจน (เช่นเพจ Champ Teepagorn ที่โพสรูปบ้าง โพสการ์ตูนบ้าง โพสบทความบ้างอย่างไม่ cohesive อะไร) แต่ละโพสท์จึงเป็นการแบ่งกลุ่มคนที่มากดไลค์ให้เล็กยิบย่อยลงไปอีก
4. แตกประเด็นจากข้อ 3 คือถ้าเป็นเพจที่มีความเชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทุกคอนเทนต์ ก็อาจยังส่งอิมแพคได้มากอยู่ แต่ปัญหาก็คือ อาจจะไม่สามารถแสดงมิติที่ครบถ้วนของคอนเทนต์ได้
ทั้งนี้ก็พูดถึงแคมเปญที่ไม่มีความเป็นไฟป่านั่นแหละนะครับ (ถ้าเป็นไฟป่าก็จะอีกแบบ แต่ไฟป่า คุมไม่ได้ จุดปัจจัยให้เกิดได้ แต่จุดให้เกิดตรงๆ ไม่ได้นะครับ)
ไม่แปลกที่คนจะหันไปหาสิ่งที่น่าจะทำให้คนมีส่วนร่วมมากกว่าเช่น YouTube (ซึ่งคาดการณ์ว่าในนั้นมีคนที่เลือกที่จะไม่อยู่ในระบบนิเวศน์ของ Facebook เลยด้วย) Line (เป็นอีกจักรวาลที่ราวกับจะก๊อปเฟซบุ๊กมาเลย มีโปรไฟล์คำคมต่างๆ ครบถ้วน) Twitter (สร้าง Loyalty ไม่ค่อยได้ แต่สื่อสารได้) Snapchat, Periscope (เชื่อมต่อกับ Personality) มากกว่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in