เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Vantage PointTeepagorn W.
On Privacy
  • (ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองดังหรืออะไรเลยนะครับ เป็นการบ่นล้วนๆ โดยไม่ใช่ humblebrag ดังนั้นถ้าวางคราดลงไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ)

    พบว่าหลังๆ มีคนชอบถ่ายรูป หรือทวีตว่าเจอ โดยที่เราไม่ได้เจอไปด้วย เยอะมาก และมักจะมาเจอเราในจุดที่ไม่ดี เช่นวันก่อนโดนตำรวจเรียก เพราะขี่มอเตอร์ไซค์แล้วกลับรถผิดจุด (จริงๆ คือกลับรถถูกจุด แต่เป็นจุดที่ไม่ควรเข้าซ้ายทันที) ก็มีคนเอาไปทวีตว่าเจอทีปกรโดนตำรวจเรียก หรือวันนู้นก็มีคนทวีตว่าเจอในรถใต้ดิน "แต่ไม่ลุกให้ผู้หญิงนั่ง" (โดยคนโพสท์ไม่ได้รู้หรอกว่าวันนั้นเราไปเจออะไรมา หรือเราถูกเลี้ยงดูมาให้มีค่านิยมอย่างไร แต่ก็เอาค่านิยมของตัวเองมาตัดสินคนอื่น) ก่อนหน้านั้นก็ทวีตว่าเจอที่โลตัส (ซึ่งไม่ได้อยู่ในลักษณะที่อยากให้คนอื่นเจอ) หรือวันนี้สดๆ ก็มีคนทวีตว่าเจอที่สตาร์บักส์แถวบ้านและถ่ายรูปมาลงด้วย ว่านั่งทำงานอยู่

    คือการเจอ หรือไม่เจอนี่ไม่ได้ตั้งแง่อะไรเลยนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว แต่การป่าวประกาศลงสื่อว่าเจอนี่มันเป็นอีกเรื่องไหม (ต่างจากการโพสท์ลงเนต หรือไลน์ แล้วมีคนไปโพสท์ต่อ เพราะว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ต้องชั่งใจอยู่แล้วว่า factor เยอะกว่า) คือตอนนี้รู้สึกว่าบนอินเทอร์เนตกับนอกอินเทอร์เนตนั้นมันสานจนเป็นเส้นใยเดียวกัน ทุกคนมีกล้องวงจรปิดติดอยู่กับมือ จนแทบจะเฝ้ามองและถูกคนอื่นเฝ้ามองได้ตลอดเวลา (โดยที่ไม่จำเป็นว่าคุณจะมี follower เยอะหรือน้อยบนโลกโซเชียล) และเป็นการเฝ้ามองแบบที่อาจร้ายกาจกว่ารัฐ เพราะคนที่เฝ้ามองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด เป็นการตั้งข้อสังเกตเฉยๆ แต่คนที่ถูกเฝ้ามองก็อาจได้รับผลเสียจากข่าวสารที่คนที่เฝ้ามองอัพขึ้นมาได้
    แต่นั่นแหละ ก็อาจถูกเถียงเข้าข่ายว่า ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัว ก็ได้ แต่จากเหตุการณ์ที่ยกมาสามสี่เหตุการณ์ จะพบว่าแบ่งเป็นเหตุการณ์ดังนี้

    1) ผมทำผิดกฎหมายบางอย่าง (เช่น กลับรถและเข้าเลนซ้ายในที่ไม่ควร)
    2) ผมทำผิดธรรมเนียมบางอย่าง (เช่น ไม่ได้ลุกให้ผู้หญิงนั่ง)
    3) ผมไม่ได้ทำผิดอะไร แค่อยู่ในสภาพที่ไม่ดี (เช่น แต่งตัวแย่ไปโลตัส)
    4) ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้อยู่ในสภาพไม่ดี แต่ไม่ยินดีให้แอบถ่ายรูป (เช่นนั่งสตาร์บักส์ ทำงานอยู่ ไม่อยากถูกแอบถ่ายรูปเอาไปโพสท์)

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณอาจถกเถียงด้วยข้อถกเถียงที่ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนักว่า "ดาราก็ต้องยอมสละความเป็นส่วนตัวบางอย่างไปอยู่แล้ว" แต่ผมไม่ใช่ดารา ผมไม่ได้ยอมสละเรื่องพวกนี้ตรงไหนเลย ผมก็ทำอาชีพนักเขียน หรืออาจเป็นพิธีกรบ้าง ที่ไม่ได้คิดว่าเรื่องส่วนตัวของผมจะต้องให้ใครมามุง มาดู หรือมาถ่ายเก็บไว้ ดังนั้น ผมก็ไม่คิดว่าข้ออ้างนี้จะใช้ได้อย่างมีเหตุผลกับเรื่องนี้เลย หรือกระทั่งดาราเอง ก็ไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะมา document อย่างไร เมื่อไหร่ก็ได้ เช่นกัน

    ซึ่งอาจจะต้องมาตกลงกันไหมว่า ตรงไหนที่สมควรจะเอาไปโพสท์ หรือไม่เอาไปโพสท์ หรือไม่ควรเอาไปโพสท์เลย หรือควรเอาไปโพสท์ทั้งหมด ตรงไหนที่เป็นการเคารพซึ่งกันและกันในเรื่องความเป็นส่วนตัว ตรงไหนคือมารยาทของสังคมออนไลน์ เพราะถ้าไม่มีข้อตกลงพวกนี้ หรือไม่มีธรรมเนียมหรือมารยาทกำหนดไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกอัดบันทึกไว้เพื่อไปใช้ในกิจที่เจ้าตัวไม่ได้ยินยอมโดยไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ เลย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in