“เป็นอย่างนั้นหรอ?” ภาคีถามนม
“ใช่ค่ะท่านตาลองเปิดใจคบกับท่าลานุแล้วค่ะ”
“ออกไปได้” ภาคีให้นมออกไปจากห้องพร้อมกับให้เงินจำนวนหนึ่งก่อนที่นมจะออกไป
“แล้วท่านจะเอาอย่างไงต่ออย่าลืมข้อตกลงระหว่างผมกับท่านนะคับ” พ่อของดุสิตาที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกันกับภาคี
“ถ้าแผนของพวกเราสำเร็จแหละก็ ท่านก็จะอยู่ในที่ที่ควรอยู่”ภาคีตอบ
“ท่านเจ้ากรมทหารทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณท่านมากๆ” ภาคีกล่าวชมเชยเจ้ากรมทหาร
“ผมก็ทำหน้าที่ของผมเท่าที่ผมจะทำได้เท่านั้นคับ”
“ที่นี่เราก็ได้แค่รอดุผลงานที่พวกเราทำไว้” ภาคีพูดทิ้งท้ายก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายออกไป
“ท่านตา ท่านตา” เป็นครั้งที่ร้อยกว่าแล้วมั้งที่นมเรียกดุสิตาให้ออกจากห้องนอน
“ท่านตา นมเองค่ะนมเอาอาหารเช้าขึ้นมาให้ค่ะ” เวลาประมาณสิบโมงกว่าแล้ว ดุสิตาก็ยังไม่ออกมาจากห้องนอนในขณะนั้นเอง ลานุออกเดินขึ้นมาจากทางบันไดลานุให้สัญญาณมือนมให้ออกไปจากบริเวณหน้าห้อง
“เอาอาหารเช้าไว้เดี๋ยวเราเอาเข้าไปให้เอง” ลานุสั่งนมไว้แค่นี้ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างบริเวณนั้น
“ตา ตานี่นุเองนะ” ลานุเริ่มแผนการแผนการทำให้เธออารมณ์ดี
“เนี่ย นุออกไปข้างนอกมาซื้อของกินอร่อยๆมารอตาแหละเนี่ย อยากกินมั้ย?”ยังไร้เสียงตอบรับออกมาจากข้างหลังประตู
“มีหมูกรอบ ไก่ย่าง ยำรวมมิตร ไข่ทอดตั้งหลายอย่างเลยนะ ตาเปิดประตู ตาก็ได้กินของพวกนี้คนเดียวเลยนะ นุจะไม่แย่งเลย”ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับมา
“สงสัยยังไม่ได้ผล” ลานุพูดกับตัวเอง
“ตา มีอะไรเปล่าเผื่อนุช่วยอะไรตาได้นะ” ลานุพูดผ่านประตูไป
“เป็นหนักเหมือนกันนะเนี่ย เอาไงดีว่ะ”ลานุพูดกับตัวเองเป็นครั้งที่2 นมเดินถือตะกร้าที่มีอะไรสักอย่างขึ้นมา
“ท่านนุค่ะ” นมเรียกลานุ พร้อมกับอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
“ตอนนี้ท่านตาไม่น่าจะพร้อมเจอท่านนะค่ะให้เวลาท่านตาหน่อยเถอะค่ะ”
“แค่ไม่อยากเจอเท่านั้นใช่มั้ย?”ลานุถามนม
“จะลองทำดูก็ได้ค่ะท่านนุ”นมยื่นตะกร้าที่มีกระดาษใบเล้กๆและดินสอหลายสีอยู่ในนั้นลานุหยิบกระดาษและดินสอออกมา
“นม ทำไงนี่ ตาไม่ยอมเปิดประตูเลย”
“ถ้าก็ไม่รู้หรอกนะค่ะว่าท่านนุควรทำอย่างไง”นมบอกลานุตรงๆ ลานุกำลังง้ามือไปทุบประตู
“แต่สิ่งที่ท่านนุกำลังจะทำนั้นไม่ควรทำนะค่ะ” สิ่งนั้นทำให้ลานุหยุด
“นมรู้ว่าสิ่งที่ท่านนุไม่ควรทำ”นมอธิบาย
“ท่านต้องไม่พูดเรื่องของเมื่อวานห้ามพูดเด็ดขาดนะค่ะ” ลานุพยักหน้า
“ท่านห้ามพุดชื่อสอเด็ดขาดตั้งแต่วันนี้ไป ชื่อนั้น เป็นชื่อต้องห้ามค่ะ” ลานุพยักหน้า
“ท่านห้ามใช้กำลังเด็ดขาดห้ามใช้เสียงดังนะค่ะ” ลานุพยักหน้า
“นั้นแหละค่ะสิ่งที่ท่านลานุห้ามทำเด็ดขาด เข้าใจมั้ยค่ะ?”ลานุพยักหน้าแล้วรีบเดินดิ่งไปยังห้องนอนทันที
ผ่านไปสักครู่เสียงประตูหน้าห้องของดุสิตาก็เปิดออก
“ท่านตา ท่านตาเป็นอะไรหรอกค่ะนมเรียกตั้งนานก็ไม่ยอมเปิดประตู ท่านนุก็มาเรียกก็ไม่เปิด เป็นไรหรือเปล่าค่ะ”นมทักถามดุสิตาเป็นชุด
“ตาสบายดีค่ะ เมื่อตาแค่นอนไม่ค่อยหลับเลยตื่นสายหน่อย” ดุสิตาตอบนมไปตามความจริงพร้อมกับหยิบกระดาษที่อยู่บนพื้นบริเวณใต้ประตูขึ้นมาอ่าน
“พยายามขนาดนี้เลยหรอ”ดุสิตาพูดกับตัวเอง
“อย่าไปบอกนุนะค่ะว่าตาตื่นแล้วตาขออาหารเช้าหน่อยค่ะ หิวข้าวค่ะ” เป็นเวลาเลยเที่ยงวันมาได้เล็กน้อยดุสิตาก็หิวข้าวเป็นเรื่องธรรมดา นมเดินลงไปหยิบอาหารให้ตา
“นี่ค่ะท่านตา”อาหารมารออยู่ที่หน้าประตูโดยนมเป็นคนเอามาให้
“ขอบคุณนะค่ะ” นมรับขอบคุณและกำลังเดินออกจากห้อง
“นมค่ะ” ดุสิตาเรียกนม นมหันกลับมา
“อยู่กับตาได้มั้ยค่ะตาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่” แน่แหละเหตุการณ์เมื่อวานมันหนักหนาเกินไปที่ดุสิตาจะรับมือคนเดียวได้มีนมอยู่ข้างๆก็ดีกว่าไม่มีใครเลย
“ไม่มีปัญหา และด้วยความยินดีค่ะ”นมตอบรับคำขอร้องนั้นและมอบรอยยิ้มให้กับดุสิตา
“นมนมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้วใช่มั้ยค่ะ?” ดุสิตาถาม
“แน่นอนค่ะ นมที่นี้รู้ทุกเรื่องค่ะข่าวกระจายไหวยิ่งกว่ารถไฟอีกค่ะ”
“นมมีคำถามให้กับท่านตาเหมือนกันค่ะ?”
“วันนี้เรียกหนูว่าตาได้มั้ยค่ะตาขอเถอะค่ะ” ดุสิตาขอร้องดุสิตาคงไม่อยากได้ยินคำเรียกยศอีกนานเลยหลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน
“นั้นนมขออนุญาตนะค่ะ สิ่งที่หนูพูดมาเมื่อวานหนูหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า” นมตั้งคำถาม
“มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องโกหกค่ะ”ดุสิตาเริ่มตอบคำถาม
“เรื่องจริงก็คือหนูอยากให้สอมีความสุขจริงๆตอนที่หนูอยู่ที่นี่”
“ทั้งวันเมื่อวานมันทำให้หนูรู้หลายเรื่องหนูรู้ว่าสอรักหนูมากมายจริงๆ”
“และสอดูไม่มีความสุขทุกครั้งที่ชื่อของนุถูกเอ๋ยขึ้นมา”
“นมทราบค่ะ นมทราบว่าสอรักหนูมากแล้วหนูก็รักสอมากเหมือนกัน นมพูดถูกมั้ยค่ะ” นมถามให้แน่ชัด
“ใช่ค่ะ”
“แล้วหนูรู้หรือเปล่าว่าท่านนุก็รักหนูมากเหมือนกัน” นมเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา
“หนูรู้ค่ะ นุแสดงออกมาขนาดนั้นทำไมหนูจะไม่รู้”
“หนูรู้สึกไม่ดีนะค่ะ นุคือเพื่อนหนูเพื่อนที่รักหนู รักมากกว่าเพื่อน”
“หนูอึดอัดใช่มั้ย” นมถาม
“อึดอัดมั้ยหรอค่ะ มันก็อึดอัดค่ะแต่นั้นอาจจะค่อยๆหายไปค่ะ หนูรักสอมากก็จริง แล้วนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีทางเปลี่ยนค่ะ แต่ตอนนี้หนูมาอยู่นี้ นุไม่ชอบให้สอมาหาหนู เพราะอะไรหนูก็พอรู้ หนูต้องเป็นราชินีให้กับนุ เพราะว่านุเลือกตา”
“อย่าเข้าใจผิดนะค่ะ” นมพูดขัด
“การที่หนูมาอยู่ที่นี่หนูไม่จำเป็นต้องมาเป็นราชินีให้กับท่านนุถ้าหนูไม่อยากจะเป็น ท่านนุรู้ดีค่ะท่านรู้ว่าท่านตารักสอมาก ท่านนุก็ไม่ได้สบายใจมากหรอกนะค่ะที่ตามาอยู่ที่นี้เร็วขนาดนี้ แต่ที่หนูมาอยู่ที่นี่ ก็เพราะว่าท่านพ่อของหนูต้องไปราชการที่เมืองอื่นไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ท่านเลยมาขอท่านภาคีผู้ที่ทำราชการแทนท่านลานุอยู่นั้น ให้มาอยู่ที่นี่ ท่านตาจะได้ปลอดภัยอีกอย่างท่านตาจะได้มีเพื่อนอยู่นี้ค่ะ นั้นคือสิ่งที่นมได้ยินมานะค่ะ”นมเล่าเรื่องจริงทั้งหมดในสิ่งที่นมรู้ถึงเหตุผลที่ดุสิตาต้องย้ายมาอยู่ที่นี้”
“ตาก็พอรู้บ้างค่ะแต่ที่นมบอกว่าหนูมาที่นี้เร็วเกินไป หมายความว่าหนูไม่นานก็ช้ายังไงก็ต้องมาอยู่ที่นี้หรอค่ะ?”
“ท่านตาลองคิดตามนมนะค่ะ ตั้งแต่เด็กท่านนุมีเพื่อนมากมายหรือค่ะ ท่านนุมีแค่นม นม และก็นมอีกหลายๆคนลูกนมบ้างที่คอยเป็นเพื่อนเล่นให้กับท่านนุ ซึ่งแน่นอนค่ะเพื่อนที่ท่านนุสนิทมากที่สุดก็คือ ท่านตาไงค่ะ อีกอย่าง ท่านตาก็มาจากราชวงศ์ถึงแม้จะไกลทางพระญาติ แต่ก็เป็นราชตระกูลอยู่ดี ท่านตานี้แหละค่ะเหมาะสมมากที่สุดแล้วค่ะที่เป็นคู่บารมีของท่านนุ ท่านก็รู้ ในราชตระกูลเหลือกันอยู่ไม่กี่คน ตายบ้าง หายไปบ้างจากเหตุการณ์วันนั้นจะให้ใครก็ไม่รู้ที่ท่านนุรักจากนอกวังมาเป็นราชินี มันไม่ได้หรอกค่ะในเมื่อท่านนุรักท่านตา และท่านตาก็เป็นราชตระกูล ท่านตานี้แหละค่ะราชินีที่เหมาะสมของท่านนุ”
“เปอะ” เสียงอะไรบ้างอย่างดังขึ้นมาในห้อง
“เสียงอะไรค่ะนม” ดุสิตาถาม
“เปอะ เปอะ”เสียงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“นมก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” ทั้งคู่เดินไปรอบห้องเพื่อหาต้นตอของเสียงสุดท้ายดุสิตาก็มาหยุดอยู่ที่หน้ากระจกที่มีลานุยืนอยู่ที่ด้านล่างของวังแต่งตัวแปลกๆคล้ายๆ ตัวตลก ยืนถือหินเตรียมที่จะป้าขึ้นมาที่กระจกห้องของดุสิตา
“เล่นใหญ่เหมือนกันนะค่ะท่านตา”นมเชียร์ท่านชายที่ทำภารกิจทำให้เธออารมณ์ดี อยู่ที่ด้านล่าง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in