ทั้ง5คน สอ ดุสิตา กล้วยไม้ หิน และนม นั่งลงบนพื้นว่างๆบริเวณหน้าบ้านของหินและกล้วยไม้พร้อมกับจุดตะไคร้ไล่ยุงคอยป้องกันยุงที่จะมากัดพวกเขาอาหารมื้อเย็นวันนี้เป็นมื้ออาหารที่เตรียมโดย ดุสิตา และกล้วยไม้นมนั้นเป็นเพียงแค่ตัวช่วยและเอาแนวความคิดบางอย่างกลับเป็นทำอาหารที่วังบ้างส่วนผู้ชายทั้ง 2 สอและหินนั้น ออกไปคุยกันข้างนอก
“โห้ มีอาหารตั้งหลายอย่างจะกินหมดมั้ยค่ะเนี่ย” นมตั้งคำถาม
“นมยังไม่หยุดท้วงไม้อ่าไม้ก็อยากให้ทุกๆคนกินอิ่ม อีกอย่างหนูก็พึ่งกลับมา ร้อนวิชาอยู่ อยากจะมาแสดงให้ทุกๆคนเห็นว่าหนูก็ทำอาหารอร่อยแน่นอน”กล้วยไม้อธิบายโดยทิ้งสายตาหวานๆใส่สอทิ้งทวนแน่นอนดุสิตาก็เริ่มสังเกตปฏิกิริยาของกล้วยไม้
“มาๆๆ กินข้าวๆ”หินเริ่มจบบทสนทนาทุกอย่างเพื่อที่จะได้รับประทานอาหาร
“อันนี้คือ...”สอสงสัยกับอาหารอย่างแรกที่วางอยู่บนโต๊ะดุสิตาใช้ช้อนหยิบอาหารที่คล้ายๆน้ำพริกและผักสดลงบนจานของสอ
“ไม้บอกตาว่านี้คือ ปราฮ็อก กะติมันคือน้ำพริกของเมืองบูลวา เป็นอาหารที่คนที่คล้ายๆบ้านเราแต่สูงกว่าเรานิดหนึ่งชอบกินกัน มันคล้ายๆน้ำพริกบ้านเรานะสอแต่ว่าใส่กะทิเข้าไปด้วย อ่าลองกินดู”
“เป็นไงบ้างค่ะพี่สอ” กล้วยไม้ถามสอ
“อร่อยดีนะค่ะ ใครทำบ้างเนี่ย?”
“อันนี้ส่วนมากพี่ตาเป็นคนทำค่ะหนูแค่บอกสูตรแหละก็คอยดูเฉยๆค่ะ”
“แต่อันนี้หนูทำเองเลยนะค่ะพี่สอ”กล้วยไม้ชี้ไปยังอาหารอีกอย่างกล้วยไม้หยิบอาหารประเภทเส้นพร้อมกับน้ำราดสีแดงลงในจานอาหารของสอ
“อันนี้ คนขาวตัวโตๆเรียกว่าสปาเก็ตตี้ มันคล้ายๆผัดหมี่ของบ้านเราค่ะ แต่ว่ามันจะมีน้ำราดด้วยน้ำราดจะมีมะเขือเทศผสมลงไปด้วย เส้นที่เอามากินด้วยมันคล้ายเส้นหมี่ก็จริงแต่ว่ามันก็ไม่ใช่เส้นหมี่ค่ะ มันเป็นเส้นที่หนากว่าเยอะเลย ไม้ตั้งใจทำมาเลยนะค่ะลองกินดูนะค่ะ”
“ก็อร่อยดีนะค่ะแต่มันไม่คุ้นเท่าไหร่เนอะ ไอ้หิน มึงว่าไง”
“ก็อย่างที่ไอ้สอว่าแหละ อร่อยดีแต่ว่ามันเป็นอาหารแปลกๆ ยังไม่ชิน เก่งมากไม้ นี่แหละน้องพี่”จริงๆมีอีกหลายอย่างที่กลุ่มผู้หญิงทำให้กินในมื้อเย็นทั้ง รำซัมที่เป็นอาหารประเภทแขก ไขเยี่ยวม้าของจีน และก็พิสโตอาหารของฝรั่งยักษ์หัวยุ่งๆ
“เห็นมั้ยนม สุดท้ายที่ทำมาก็หมดพ่สอพี่หินเป็นเครื่องจักรในการกินอยู่แล้ว จริงๆน้อยไปด้วยซ้ำ พี่ตาหนูไม่อยากจะฟ้อง พี่สอนะ กินเยอะเหมือนหมูเลยค่ะ ฮาฮาฮา” กล้วยไม้แซว
“พี่รู้ค่ะสอนี่แหละมาที่ร้านพี่ทีไรเป็นได้ขาดทุนทุกครั้งเลย ฮาฮาฮา”
“มึงก็พอๆกันกับกุนั้นแหละไอหิน”
“อ้าว มึงไม่ต้องหาเรื่องให้กุเลยไอ้สอ มึงคนเดียวแหละ”
“อ้าวไอ้สัส มึงทิ้งกุไง? หลังจากนั้นหินก็วิ่งหนีสอสอจึงวิ่งไล่หิน ทั้งคู่วิ่งไล่กันอย่างเมามัน ผู้หญิงที่เหลือทั้ง3คนก็มองพวกเขา2 คนวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานทั้งดุสิตาทั้งกล้วยไม้ต่างหัวเราะกับอารมณ์หัวร้อนของสออย่างมีความสุขทั้งคู่หลังจากการวิ่งไล่จับของผู้ชายและอาหารตาของผู้หญิงแล้วนั้นทั้งหมดก็กลับเข้าครัวมาล้างจาน ทั้ง5คนพูดคุยกันย้อกล้อกันอย่างสนุกสนาน
‘
‘
‘
“กลับแล้วหรอค่ะพี่ตาพี่สอยังไม่มืดเท่าไหร่เลย มานอนค้างที่บ้านหนูก่อนก็ได้นะค่ะ” กล้วยไม้ไม่อยากให้ทั้ง2กลับ
“พี่ต้องกลับจริงๆท่านลานุให้พี่มาแค่1วัน”
“งั้นถ้าไม้อยากไปหาพี่ตา หนูไปหาพี่ตาที่วังของท่านลานุได้มั้ยค่ะ?”
“ได้สิ อยากให้มาหาเหมือนกันนะ พี่จะได้พี่เพื่อนคุยเหมือนกันในวังมีแต่นมและก็ท่านลานุ บางครั้งก็เบื่อเหมือนกันแหละ”
“โอเคค่ะ งั้นเจอกันใหม่นะค่ะพี่ตา”กล้วยไม้บอกลาดุสิตา สวมกอดลา
“เจอกันค่ะพี่สอ”
“สอ ตาอยากจะคุยอะไรหน่อย”ดุสิตาเรียกสอ หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางกลับมาจากบ้านของหินและกล้วยไม้
“มีอะไรหรอตา?”
“สอโอเคมั้ย ถ้าตาอยากจะบอกว่า เราควรหยุดเรื่องของเราไว้แค่นี้”
“ตา ตาพูดอะไรนะ” สอแทบไม่อยากจะเชื่อในคำพูดนั้น
“ไม่ใช่ว่าตาไม่รักสอนะอย่างที่ตาเคยบอกสอ ตารักสอมากจริงๆ”
“แล้วทำไมตาพูด ตาพูดแบบนี้ทำไม?”สอถามด้วยย้ำเสียงที่สั่น
“ตาไม่อยากให้สอ รอตาโดยไม่ยอมเปิดใจให้คนอื่นบ้างเลย”
“2ปีเลยนะสอสอคิดว่าความรู้สึกที่สอมีให้กับตามันยังจะเหมือนเดิมเหมือนวันนี้ในอีก2ปีข้างหน้านี้มั้ย?”
“งั้นสอขอถามตาบ้าง ระยะเวลาที่ผ่านมาที่ตาย้ายไปอยู่ในวังท่านนุ ความรู้สึกที่ตามีให้สอมันเปลี่ยนไปมั้ย?” สอถามกลับสายตาของดุสิตาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ นมเริ่มขยับตัวออกไปเข้าไปในวัง ดุสิตาไม่โกรธแต่ดุสิตาคิดว่ามันคือการตัดสินที่ถูกต้อง
“ใช่ ตาเริ่มเปลี่ยนไป”ดุสิตาพูดความจริงออกมา
“ตารู้สึกว่าถ้าตาเริ่มที่จะรู้สึกดีต่อท่านนุแล้ว ตาก็อยากลองดูเหมือนกัน”
“ตาว่าสอก็รู้สึกเปลี่ยนไปเหมือนกันนะ”
“วันนี้เป็นวันที่ตามีความสุขมากนะสอตาได้ออกมาเที่ยวกับสอ และเป็นครั้งแรกที่เราเดินจับมือไปเที่ยวกันหลายๆที่ตามีความสุขมาก และตาก็รู้ว่าสอเองก็มีความสุขมากเหมือนกัน”
“อย่างที่ตาพูด ตาอยากให้สอลองเปิดใจดูบ้างในระหว่างที่ตาอยู่ที่นี่ ถ้าความรู้สึกระหว่างเรายังเหมือนเดิมอีก2ปีที่เรามาเจอกันใหม่ เราค่อยมาคุยกันใหม่”
“สอรักตานะ” สอพูดสั้นๆ
“ตาก็รักสอเหมือนกัน รักมากด้วย”ดุสิตาพูดทั้งน้ำตา
“ตาถึงไม่อยากให้สอเป็นทุกข์เพราะตาไงตายอมปล่อยสอไป สออาจจะมีความสุขบ้างในช่วงที่ตาอยู่ในนั้น”
“แล้วตาจะมีความสุขจริงมั้ย?” สอถามตาดุสิตาเดินเข้าไปใกล้สอมากขึ้น ดุสิตาหยิบมือของสอขึ้นมาจับทั้ง2มือ
“สอลองเปิดใจให้กับกล้วยไม้ดูเรื่องราววันนี้ทำให้ตารู้ความจริง1อย่าง”
“ความจริงอะไรตา?” สอถาม
“ความจริงที่ว่าสอรักตามากตาก็รักมากเช่นกัน” ดุสิตาตอบ
“นั้นเราก็รู้กันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”สอพูดตอบ
“แล้วไม้ก็รักสอมากเช่นกัน”
“และท่านลานุก็รักตามากเช่นกัน”หลังจบประโยค ดุสิตาร้องไห้โห้ออกมา
“ในเมื่อเราทั้ง2มีคนที่รักเราเหมือนกันเราเองก็มาเจอกันเหมือนทุกๆวันไม่ได้ เราทั้ง2ก็จะเป็นทุกข์กันทั้งคู่ ถูกมั้ยสอ?”ดุสิตาตั้งคำถาม
“สอคงรู้สึกไม่ดีถ้าสอรู้ว่าตาไม่มีความสุข ตาเองก็เหมือนกัน ตาก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกันถ้าตาเป็นต้นเหตุที่ทำให้สอไม่มีความสุข”
“มันคือทางออกที่ดีที่สุดแล้วนะสอ”ทั้ง2ยังคงจับมือแล้วร้องไห้กันต่อไปเม็ดฝนเย็นๆที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่หัวค่ำนั้นเริ่มตกลงมาเล็กน้อย
“สอสัญญากับตานะ ว่าจะไม่ทำให้ตาทุกข์สอทำให้ตาได้มั้ย?”
“ถ้าสอสัญญา สอต้องเปิดใจให้คนอื่นบ้างใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะมันจะดีมากถ้าสอเปิดใจให้คนอื่นบ้าง”
“ไม่เอา ไม่สัญญา” สอปฏิเสธอย่างตรงๆ
“สอมีตาคนเดียว ตาก็รู้ตาก็มีสอคนเดียว สอรู้ดี” ในเมื่อดุสิตาพยายามแล้วไม่สำเร็จ ดุสิตาคงต้องใช้ไม้เด็ด
“ตา ต้องเป็นราชินีให้กับท่านลานุนะสอ สอจะมาแย้งตาออกจากท่านนุสอกล้าทำหรอ?” ดุสิตาร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ
“สอสอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกไป ไปหาคนที่ดีกว่า คนที่ทำให้สอมีความสุข คนที่ทำในสิ่งที่ตาทำให้สอไม่ได้
“ไม่เอา สอจะกลับมาหาตาสอจะแอบมาหาตาทุกๆวัน สอจะเป็นโจร มาขโมยของที่วังทุกวัน ไม่สิสอจะหาเรื่องเข้าวังทุกวัน ยังไงก็ตามสอจะมาหาตาให้ได้ทุกวัน”นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สอพูดอะไรออกมาโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ อารมณ์ล้วนๆ
“พลทหารสอ..” ดุสิตาเอยออกมาพร้อมกับสละมือที่จับออกมาจากสอ
“เตรียมรับราชโอการ”ดุสิตาพูดออกมาด้วยน้ำตา
สอยังคงปฏิเสธที่จะทำ ยังคงเสียสติเดินเข้าหาดุสิตาอย่างต่อเนื่อง
“พลทหารสอ..”ดุสิตาใช้เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่จริงจังและไร้หัวใจ แต่ภายในใจนั้นใครจะไปรู้
“นายกล้าขัดคำสั่งของราชินีของกษัตริย์ลานุอย่างงั้นหรอ”หัวใจของสอนั้นแตกสลายราวกับเศษแก้วที่ไหลไปตามกระแสน้ำฝนที่เริ่มตกหนักขึ้นมาเรื่อยๆสอร้องไห้จนสอหมดแรงลงตรงนั้น จนเข่าทั้ง2ข้างสัมผัสลงบนพื้น
“ตา” สออ้อนวอนอีกครั้ง
“อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเราอีก ไม่ว่าในฐานะใดก็ตามจงหาคนที่รักนาย และนายก็รักเขาอย่างสุดหัวใจ” สิ้นสุดประโยคดุสิตาหันหลังกลับเข้าประตูวัง
“ตาขอโทษ” ดุสิตาพูดออกมาแล้วเดินเข้าไปในประตูวังโดยที่มีนมมารอรับอยู่ส่วนสอนั้นหมดสติด้วยความอยู่ที่หน้าประตูวังนั้น ท่ามกลางสายฝน
ช่างเป็นโลก2ใบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงใน1วันไม่สิ 2วัน
เมื่อวาน ท่านลานุเสียดุสิตา
ส่วนวันนี้ พลทหารเสียดุสิตา ไปตลอดกาล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in