การยื่นลาออกไปแล้ว ไม่ได้ทำให้ใจของฉันสงบลงมากนัก
มันก็เป็นเพียงแค่การกำหนดวันสิ้นสุดของความอดทนที่ฉันต้องมีกับงานนี้
งานที่ฉันเคยอึดอัดกับมันมากๆขนาดที่ทำงานไปร้องไห้ไป ไปอ้วกแล้วก็กลับมาทำงานต่อนั้น
ความจริงแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดมันเท่าที่ฉันคิด
ที่ฉันรู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่ เพราะ ฉันใกล้ลาออกแล้วหรอกนะคะ
แต่หลังจากได้ทำงานเดิมซ้ำอีกปี เพราะ จ็อบของฉันไม่ได้ new joiner
ฉันก็คล้ายตระหนักได้ว่า ความประสาทแดกของคนต่างหากที่ทำให้งานนี้ช่างบั่นทอนจิตใจ
ทีมถูกคาดหวังให้ทำงานในระยะเวลาที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เพราะ เรา คือ ต้นทุนตัวหนึ่งที่สำคัญของธุรกิจนี้
เพราะ ลูกค้าตัวร้าย (บางคน) ที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องรีบเตรียมเอกสารให้ออดิท
แม้จะขอไปก่อนเข้าจ็อบล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ จนผ่านมา 3 สัปดาห์แล้วก็ยังไม่ได้
ตามบ่อยๆก็งอแง ช่างเป็นเรื่องน่าเหนื่อยใจ
เหนื่อยที่งานของจ็อบที่แล้วก็จะไปถมกับงานจ็อบหน้า
และถ้าจ็อบหน้าก็เป็นเช่นกัน (ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเช่นนั้น)
สุดท้ายแล้ว วงจรอุบาทว์นี้ก็จะล่วงเลยไปจนถึงเดือน 6 ที่ควรจะต้องไปพักผ่อนอย่างสงบสุข
ฉันเป็นคนขี้กังวลค่ะ
ถ้าคุณผู้อ่านติดตามบล็อกของฉันมาสักพัก ก็น่าจะสัมผัสได้
ฉันกำลังพยายามใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้นอีกนิด
และบางครั้ง ฉันก็คิดว่า เป็นเพราะ การขาดอิสระภาพทางการเงินหรือเปล่านะ
ที่ทำให้ฉันขายวิญญาณเพื่อเงินเดือนและเงินที่จะได้ในอนาคต.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in