ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวประจำปีของชาวออดิท

ได้หยุดนานติดกัน 5 สัปดาห์เลยทีเดียว

ความจริงแล้ว ฉันมี annual leaves ที่ถูก prorated เหลือแค่ประมาณ 2 สัปดาห์

แต่เมื่อรวมกับ CPA leave, Compensatory leave (การเปลี่ยน OT >> leave), BD leave, Sick leave 

และ training week แล้ว สิริรวมแล้วก็เป็น 5 สัปดาห์พอดี

ฉันตั้งตารอปิดเทอมนี้มากว่า 5 เดือน 

แต่พอได้หยุดจริงๆแล้ว ก็คิดเสมอเลยค่ะว่า 1 เดือน น่าจะไม่พอกับเพลนที่วางไว้แน่นอน

ฉันคิดว่า จะใช้เวลาช่วงปิดเทอมนี้ ฮีลลิ่งสุขภายกายและสุขภาพใจของตัวเองให้ได้มากที่สุด

รวมทั้ง จะพยายามหางานใหม่ไปด้วย #ใครมีงานน่าสนใจแนะนำมาได้นะคะ eiei

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันตัดสินใจลง course เรียนภาษาอังกฤษของ Globish ไป 

เพราะ อยากใช้ benefit ของบริษัทให้คุ้มก่อนที่จะลาออก

ฉันค้นพบว่า มันคุ้มค่า เพราะ บริษัทจ่ายนั่นเอง

ถ้าต้องจ่ายเองในราคา 9,000 บาท เพื่อหลักสูตรนี้ คงนอนชีช้ำกะหล่ำปลีไปทั้งเดือน

ฉันปิดเทอมมาได้ 1 สัปดาห์แล้วค่ะ

จนถึงตอนนี้ นอกจาก e-learning และ virtual training แล้ว ก็ไม่มีอะไรมากวนใจเลย

ช่างเป็นปิดเทอมที่สงบสุขเสียจริงๆ ไม่ได้สัมผัส วันหยุดที่แท้จริงแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ

คุณผู้อ่านจำได้ไหมคะ ช่วงที่ฉันกำลังแย่มากและระหว่างที่กำลังจะนัดคิวไปพบแพทย์นั้น

โควิดระลอก 3 ก็ถาโถมเข้ามา...

ฉันไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ได้ wfh ไปยาวๆ เพราะ ลูกค้ามีคนติดโควิด

ซึ่งฉันก็ค้นพบอีกว่า การ wfh ทำให้สภาพจิตใจของฉันดีขึ้นเป็นกอง

อาจจะเพราะ ฉันไม่ชอบการเบียบเสียดบนรถไฟฟ้าตอนเช้า

เพราะ ฉันไม่ชอบออฟฟิศที่ไม่สะอาดของลูกค้า

เพราะ ฉันไม่ชอบร้านอาหารที่ดูไม่น่ารับประทานในละเวกนั้น

เพราะ ฉันไม่ชอบการที่ต้องเสียเวลาเดินทางและแต่งตัว

อย่างไรก็ตาม wfh ก็มีข้อเสียค่ะ เพียงแต่สำหรับฉันแล้ว มันมีข้อดีมากกว่า

บางครั้ง ฉันก็เคยคิดนะคะ ว่า การสามารถหยุดติดต่อกันได้นานถึง 1 เดือน เป็นข้อดีของอาชีพนี้จริงๆ

แต่ในบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้ารวมช่วงเวลาที่ฉันควรจะได้หยุดทั้งปีจริงๆ 

คงจะมากกว่า 1 เดือนนี้ ที่ฉันต้องใช้เงินแลกมาด้วยอย่างแน่นอน

คุณผู้อ่านบางท่านคงจะคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ขี้บ่นจังเลยนะ!!

แต่ฉันอยากให้คุณลองคิดในมุมที่ต่างกันดูค่ะ

การได้หยุดในช่วงวันหยุด

การได้รับ OT เมื่อต้องทำงานล่วงเวลา 

(การทำงานล่วงเวลาของออดิทน่ะ ไม่เหมือนกับพนักงานปกติอย่างแน่นอน ฉันการันตีเลยค่ะ)

การได้รับความเกรงใจ เมื่อต้องถูกรบกวนนอกเวลางาน

สิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสังคมการทำงานในประเทศของเราเลยจริงๆหรือคะ?

หากทุกคนคิดว่า โลกของการทำงานมันก็เป็นแบบนี้

ฉันเองก็ผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาเหมือนกัน

เมื่อไหร่ สังคมของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นสักทีหล่ะคะ

By the way, โลกแห่งการทำงานของตัวฉันเองก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปค่ะ

การทำงานหนัก (จนบางครั้งก็รู้สึกมากเกินความจำเป็น) ได้กลายเป็น nature ของอาชีพออดิทไปแล้ว

ฉันคิดว่า มันคงยากที่จะเปลี่ยนแปลง

แต่ก็ยังคงหวังว่า สักวันมันจะสามารถพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้จริงๆ