หนึ่งปี่ผ่านมมาของเราปีนี้มีเรื่องเยอะแยะมากมายสุดๆเลย ขอสรุปสตอรี่ทั้งหมดของปีนี้เอาเป็นเดือนๆละกันเนอะ
มกราคม
เป็นเดือนของวันเกิดที่มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายรับต้นปีไปเลย
เป็นช่วงที่กำลังฝึกงานโค้งสุดท้ายแล้วได้แผลจากความซุ่มซ่ามของตัวเองแทบทุกวันด้วย
เราเกือบได้พัฒนาความสัมพันธ์จากเฟรนโซนสู่แฟนโซนแต่สุดท้ายก็พังลงไม่เป็นท่า เรากับเพื่อนคนนี้รู้จักกันมานานพอสมควร7-8ปีได้
และเป็นเราเองที่ปฏิเสธการก้าวข้ามเส้นนี้มาตลอดจนมันถึงจุดที่เราคิดว่าเราพร้อมแล้ว
แต่มันไม่เป็นดั่งหวังเลยเสียศูนย์ไปเหมือนกันตลกเนอะที่เราพยายามรักษามาได้ตั้งนานแต่วันหนึ่งเราก็จบกันไปง่ายๆแบบนี้
สำหรับเดือนนี้ช่วงต้นเดือนมันก็ดีหรอกพอเข้ากลางเดือนโอ้โห...อยากขนคำหยาบสารพัดที่นึกขึ้นได้มาอุทาน
สนุกกับการกินมากเพราะเจอแต่เรื่องเฮงซวย ทั้งคน ทังสิ่งรอบข้าง เหนื่อยพลังชีวิตมากๆ
กุมภาพันธ์
เดือนแรกว่าเหนื่อยไม่ไหวแล้วเดือนนี้ยิ่งกว่าอีกเธอจ๋า อยากร้องไห้มันซะทุกวัน เราเครียดกับเรื่องฝึกงานมากๆ
เราไม่รู้ว่าเราทำผิดจุดไหนหรือเขาไม่ชอบเรากันแน่เราที่ไม่เคยขาดงานเลย ทำงานเต็มที่ตลอดเสมือนพนักงานคนหนึ่งขององค์กรเวลาพักกลางวันก็ไม่เคยตรงเวลา ลากยาวไปช่วงบ่ายตลอด เลิกค่ำออกมาอีกทีท้องฟ้านี่มืดสนิทไปแล้ว
แต่คะแนนเราที่ออกมากลับน้อยกว่าเพื่อนอีกสองคนที่ไปด้วยกันเพื่อนคนหนึ่งขาดงานไปหนึ่งอาทิตย์แต่ได้คะแนนเยอะกว่า
เรากลับมาถามตัวเองซ้ำๆว่าเราพลาดตรงไหนไปมันเป็นเวลาที่แย่มากๆเป็นเดือนสุดท้ายของการฝึกงานที่เรารู้สึกแย่ทุกวันที่ไปทำงานเลย สิ่งที่เยียวยาจิตใจตอนนั้นมีแค่วิวแม่น้ำกับท้องฟ้ามืดๆที่มองจากระเบียบตอนค่ำหลังจากกลับมาจากฝึกงานไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไร แต่ที่บ้านก็ให้กำลังใจตลอด มีความส่งรูปผู้ชายมาให้ดูขอบคุณตรงนี้ เพราะช่วงนั้นแย่กับตัวองจริงๆ
และเราได้เลือกทิ้งบางอย่างออกจากชีวิตไปด้วย
มีนาคม
สัปดาห์แรกช่วงปั่นวิจัยส่งงานครั้งสุดท้ายโค้งสุดท้ายมากๆแล้วสำหรับการเป็นนักศึกษา สัมผัสกับคำว่าโต้รุ่งจริงๆก็คราวนี้แหละหลังจากการจบชีวิตนักศึกษา ก็กลายเป็นคนว่างงาน นั่งๆนอนๆอยู่ที่บ้านเป็นช่วงพักผ่อนแบบจริงจังสุดๆ บุกอ่านหนังสือ ดูซีรีย์มันแทบทุกเรื่อง ส่วนเรื่องเกรดฝึกงานนั้นก็ได้Aนั้นแหละแต่มันก็เป็นแผลในใจเราอยู่ดี เราไม่คิดจะกลับไปทำงานธนาคารอีกการทำงานที่นั่นที่เดียวทำให้เรารู้สึกแย่ไปแล้วกับสายอาชีพตรงนี้ได้กลับไปเจอเพื่อนๆที่งานปัจฉิม หลังจากแยกย้ายไปฝึกงาน ถามว่าเป็นไปของชีวิตเริ่มหางานรึยัง จะทำอะไรกันต่อบ้าง แผนอนาคตเป็นไปยังไง
เมษายน
เดือนนี้เป็นเดือนที่เอื่อยเฉื่อยมากไม่มีอะไรเลย งานก็ยังไม่มี เงินเก็บอะไรก็ไม่มี ได้ลองย้อมสีผมที่อยากย้อมด้วยหลังจากที่ช่วงเรียนไม่เคยได้ลองย้อมเลย เป็นแฮปปี้มาก แต่การย้อมผมก็มีผลเสียแหละปลายผมที่ฟอกนี่แห้งมาก แง
พฤษภาคม
ได้ใบจบเรียบร้อยแล้วเอาไปสมัครงานที่แรกเลยด้วย ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆของชีวิตอีกขั้น
เรียนจบมาสักระยะหนึ่งแรกๆการพักผ่อนมันก็แฮปปี้แหละ พอผ่านมาระยะหนึ่งแล้วคำถามเดิมจากการเป็นห่วงเป็นใยจากบ้านข้างๆก็ชวนเราเครียดเหมือนกันนะ ช่วงนี้เป็นช่วงสติแตกของเราเลยก็ว่าได้ไม่มีอะไรน่าประทับใจเลย เราเริ่มหมกหมุ่นกับตัวเองรู้สึกถึงความไม่มีค่า ไม่มีอะไรให้ตัวเองน่าภูมิใจหลงเหลืออยู่เลย
มิถุนายน
เดือนนี้ความสติแตกก็ยังคงตามติดเราอย่างไม่เลิกราชีวิตมันไม่มีเป้าหมายอะไรเลย
เรารู้สึกแย่กับตัวเองมากๆจนไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันใช่ตัวเราจริงๆมั้ย และเราก็ได้บอกเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งให้พ่อได้ลองรับรู้ด้วยเราไม่เคยแสดงอาการที่จะชอบเพศเดียวกันหรืออะไรเลยในกลุ่มเพื่อนก็ยังไม่ค่อยเชื่อมากนัก ตอนที่เคยบอกไป เราเริ่มมองเพศเดียวกันและยอมรับตัวเองช่วงปี2เราไม่ได้รังเกียจหรือรู้สึกแปลกๆสำหรับความรักในรูปแบบนี้แต่ถ้าให้เลือกเราก็ชอบมองผู้หญิงมากกว่านะแต่ก็สามารถมีแฟนเป็นผู้ชายได้เช่นกัน สำหรับเราความรักไม่ได้หยุดแค่ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย มันเกิดขึ้นกับใครก็ได้แค่เป็นความสบายใจให้กันก็พอ
กรกฎาคม
เดือนนี้เป็นเดือนที่หนักหนาเอาการเหมือนกันเหมือนราหูเข้า
เหนื่อยทั้งร่างกายทั้งจิตใจ เรายังคงสถานะว่างงานเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสติแตกแบบคูณสิบ เรารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิตจนไม่อยากอยู่แล้ว มันทรมานมากๆ มันไม่มีความสุขอะไรหลงเหลือให้คิดถึงเลย แต่แล้วเราก็ยังอยู่เรายังหายใจอยู่ เนื้อตัวเรายังอุ่นอยู่ขอบคุณตัวเองที่ผ่านวันที่แสนทรมานนั้นมาได้ แม้ว่ามันจะยากมากๆก็ตามทีหลังจากนั้นได้ไม่นานเราเริ่มได้สติ เริ่มมองหาความสุขเล็กๆเริ่มทำอะไรๆที่ทำให้เรารู้สึกถึงการมีค่าของตัวเอง กลับมาตั้งใจอ่านหนังสืออีกครั้งออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง หาของกินอร่อยๆมาปลอบใจตัวเอง
สิงหาคม
มีช่วงหนึ่งที่ฝันร้ายติดต่อกันเป็นอาทิตย์เหนื่อยมากๆเลย เป็นฝันที่ฝันก่อนตื่นนอน ทำให้เราจำรายละเอียดได้เยอะมากจนเรากลัว แรกๆคิดว่ามันจะหายไปเอง คงเครียดมากไป แต่มันก็ไม่หายเราเหนื่อยที่ต้องหลับ มันเป็นการฝันที่เหมือนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ฝันเกี่ยวกับใครก็ไม่รู้ เกี่ยวกับอุบัติเหตุซึ่งโดยปกติคนเรามักฝันเกี่ยวกับสิ่งที่เคยพบเจอ เคยเห็น กระทั่งตัดสินใจลองทำบุญดูคืนนั้นก็ไม่ฝันอะไรแปลกๆอีกเลย เดือนนี้ติดซีรีย์หนักมาก ดูมาราธอนเลยชอบฟังเพลงเดิมซ้ำๆด้วย ชอบเตนล์หนักมากๆด้วย
กันยายน
เดือนนี้เป็นเดือนที่เหมือนจะดีขึ้นละมั้งหลายๆอย่างที่เคยสติแตกก็เริ่มลงตัว เราแฮปปี้กับอะไรหลายๆอย่างเพิ่มขึ้นเริ่มฝึกวาดภาพจากโปรแกรมด้วย สนุกดี ติดชาเขียวยี่ห้อหนึ่งที่ซื้อมาจากเซเว่นหนักพอสมควรช่วงนี้เริ่มไปรับไปส่งน้องชายเอง
ตื่นเช้ามากง่วงแหละ อีกอย่างหนึ่ง จำเรื่องแรกที่เกี่ยวกับเฟรนโซนได้มั้ยเรากลับมาติดต่อกับแล้วนะ แต่ไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรกันแล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นความสบายใจให้กันเหมือนที่ผ่านมาในรูปแบบของเพื่อน
ตุลาคม
เดือนนี้โควตาความสุขของเราโดนใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองสุดๆเลยละ เริ่มด้วยการที่ซื้อหนังสือมาตุนไว้เยอะมากกกฝากเพื่อนหิ้วมาจากงานหนังสือ
และยังสั่งเองจากเว็บด้วย สิบเล่มอัพล้มละลายเลยทีเดียว แต่มันก็เป็นความสุขเล็กๆของเราแหละ
แต่ก็ยังมีเรื่องให้เราเส้าเหมียนหมาได้เหมือนกันเฮ้อ...บางครั้งเราก็ไม่เคยรู้ว่าคุณคือความสบายใจของเรา จนกระทั่งคุณไปเป็นความสบายใจของคนอื่นแล้ว หลังจากเราซึมเป็นส้วมได้ไม่กี่วัน ก็มีโอกาสได้ไปพักอย่างจริงจังเรากับที่บ้านเดินทางไปน่าน ไปเยี่ยมตากับยาย พ่อขับรถกันยาวๆ ส่วนเราก็นั่งเป็นเพื่อนคุยตลอดทางช่วงขึ้นดอยก่อนเข้าจังหวัดน่านคือตื่นเต้นมาก ตื่นสว่างเต็มตาสุดๆ ขับยาวจากนครปฐมไปถึงน่านประมาณห้าทุ่มได้ ตลอดห้าวันที่นั่น เราเหมือนได้พักทุกอย่างจริงๆ รวมถึงใจเราด้วยและก็แวะไปที่เชียงใหม่ด้วย ได้ไปม่อนแจ่มครั้งแรก อากาศดีมาก แต่ก็ดอยสุดๆเลยสูงจนแทบจะจับก้อนเมฆได้
เดือนนี้เป็นเดือนที่ดีสุดๆไปเลย
พฤศจิกายน
ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหลังจากลับมาจากน่าน หมาจรแถวบ้านมันมาเกิดลูกทิ้งไว้หลังบ้านเรา นู้นน มันไปเกิดทิ้งไว้ในป่าต้องลำบากไปเอามาอีก เหมือนมันจะเลี้ยงลูกไม่เป็นแหละ ช่วงนั้นฝนตกหนักมากๆ กว่าจะหาลูกหมาเจอคือต้องรอให้มันร้องมีทั้งหมดสี่ตัว สีดำสองตัว สีน้ำตาลหนึ่งตัว น้ำตาลดำๆหนึ่งตัว แข็งแรงทุกตัวมีตัวหนึ่งอ้วนสุด เราเลยเรียกเจ้าอ้วน แต่ก็ต้องหาบ้านให้มันแหละคงเลี้ยงทั้งหมดไม่ไหว ช่วงปลายเดือนเป็นหวัดหนักเลย แต่ก็ยังมีแรงไปเที่ยวกับเพื่อนก็เพื่อนชวนอะนะ นานๆที และมีอีกเรื่องหนึ่งเรามีโอกาสได้ติดต่อกับคนๆหนึ่งที่ไม่คุยกันมานานมากเจ็ดปีได้ละมั้งก็แฟนเก่านั้นละ ไม่รู้คิดอะไรเหมือนกันเนอะถึงติดต่อไป คำถามแรกที่เขาถามมาคือ“สบายดีมั้ย” ตอนนั้นคือมือสั่นมากๆ จนแทบจะร้องไห้ นานมากเลยนะที่เราไม่คุยกัน แต่พอวันนี้ได้กลับมาคุยกันเหมือนมันเป็นการปลดล็อคอย่างจริงจังมั้ง ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก โล่งไปเลย เขาก็คงรู้สึกไม่ต่างกันกับเราเขาถามย้ำบ่อยมากว่าไม่โกรธเขาแล้วใช่มั้ยเราอยากบอกเขานะว่าหลังจากที่เลิกกันไปเขาเป็นอดีตที่น่ารักของเราเสมอเลย มีเรื่องดีๆอีกเรื่องหนึ่งด้วยงานที่แรกที่เราสมัครไว้เรียกไปสัมภาษณ์แล้ว นานมากๆจนไม่คิดว่าเขาจะเรียกแล้ว ตื่นเต้นจัง
ธันวาคม
เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปีแล้วเราชอบช่วงเดือนธันวาที่สุดเลย มันเป็นเดือนที่ทุกคนรู้สึกถึงความหวัง ความอบอุ่นจากเทศกาลของเดือนนี้เราเริ่มทำงานแล้วนะ ตื่นเต้นเหมือนกัน สังคมใหม่ๆ กับการทำงานครั้งแรก กลัวลนทำงานไม่ได้ตามสั่งแต่ก็โอเคแหละ ตอนนี้ถือว่ายังเป็นงานที่เราแฮปปี้อยู่แต่อนาคตยังไม่แน่ใจแต่เราก็คาดหวังว่าเราจะเอ็นจอยกับงานนี้ไปนานๆ เดือนนี้ก็ยังป่วยเหมือนเดิมกินยามาสามชุดแล้ว สุดๆตับจะพังก่อนมั้ย เดือนนี้เรามีการตั้งเป้าหมายกับการวาดรูปด้วยอยากวาดทุกวันลงไว้ในสตอรี่ สนุกดี อ่อ มีอีกเรื่องๆเดือนก่อนที่เราเล่าว่าได้ติดต่อแฟนเก่า ล่าสุดที่คุยกันมาถึงจุดที่นางอวยพรเราว่า...ขอให้เจอความรักที่ดีเร็วๆ และต้องดูดีๆด้วยนะโอ้ยยคุณ 5555 ปีนี้ถือว่าเป็นปีหนักหนาเอาการกับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตเลยทีเดียวราหูเข้าแทบทั้งปี เหนื่อยมาก แต่ช่วงสอง สามเดือนให้หลังก็ดีขึ้น พอรับได้ขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาและยังไม่ผ่านไป
ส่วนคนที่หายไปก็ขอบคุณเช่นกันขอบคุณตัวเองที่ยังอยู่ ปีหน้าก็ให้ดีกว่านี้แล้วกันนะ
แด่...ฉันที่กำลังเติบโตสู่โลกอีกใบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in