หมดไฟ หรือ ป่วย ?
ช่วงจังหวะชีวิตหนึ่งของฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอาการแบบนี้เกิดขึ้น เราในวัย20ต้นๆ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่สดใสไฟเเรงในการทำอะไรสักอย่างด้วยความมุ่งมั่น เป็นชีวิตวัยหนุ่มสาวที่กำลังออกเดินทางด้วยความท้าทาย สนุกไปกับสิ่งรอบข้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขอเล่าย้อนกลับไปในช่วง1ปีที่เเล้ว เรานักศึกษาชั้นปีที่4 ปีสุดท้ายของการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย ในเทอมที่1ของชีวิตนักศึกษาปี4 เราเริ่มมีอาการแปลกๆ เราเบื่อ เราเหนื่อยหน่ายกับอะไรหลายๆในชีวิต เราหดหู่ เราเศร้า เราอยากร้องไห้กับอะไรสักสิ่งโดยที่หาเหตุผลไม่เจอ เรารู้สึกว่าการใช้ชีวิตของเรามันเริ่มไม่สนุก มันยิ้มยากขึ้น หัวเราะยากขึ้น หรือบางครั้งรู้สึกเอ็นจอยกับอะไรสักอย่างอยู่พอตัดภาพไปอีกไม่กี่นาทีเรากลับเหนื่อยอีกแล้ว เหมือนโลกที่เราพบเจอที่เรามองมันตอนนี้มันบิดๆเบี้ยวๆไป ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อาการมันเริ่มเเย่ขึ้นเรื่อยๆ จนเราแทบบ้า เราไม่รู้จะพูดกับใครให้เข้าใจ เพราะเเม้แต่ตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมเราถึงเป็นได้ขนาดนี้ เหมือนตอนนี้คนคนนี้ไม่ใช่เรา เราที่เคยสดใส พลังเหลือล้นในกับทุกๆเรื่อง ทุ่มเทกับงาน กับเรื่องเรียน อย่างสนุก สนใจสิ่งรอบตัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตอนนี้มันไม่หลงเหลือคนๆนั้นให้เห็นเเล้ว อยากหยุดทุกอย่าง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากเข้าสังคม หรือเเม้เเต่การไปเรียน สิ่งที่เรารู้สึกสนุกกับมัน ทุ่มเทกับมัน ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบอีกต่อไป เราเหมือนคนหมดไฟ ทั้งๆที่ไม่น่าจะใช่ในคนวัยอย่างเรา เรานิยามอาการทั้งหมดว่าหมดไฟให้กับตัวเอง เมื่อเริ่มระบายกับเพื่อน เเม้ในลึกๆเราก็กลัวว่ามันจะไม่ใช่เเค่หมดไฟ เรากลัวว่าตัวเองจะป่วย เราจมอยู่กับตัวเองหลายเดือนก่อนที่จะหนักขนาดนี้ เราจำไม่ได้เเล้วว่าตอนนั้นมันมีอะไรบ้าง เเต่ก็บอกได้เลยว่ามันช่วงที่ทรมานกับการใช้ชีวิตจริงๆ เราได้เเต่ปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวเราคนเดิมก็กลับมา ตอนนี้เราเเค่หมดไฟ เเค่เครียดเฉยๆ จนวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าไม่ได้ ไม่ไหวอีกแล้ว มันไม่ดีขึ้นเลย เราเริ่มปรึกษาพี่สาว ว่าก่อนที่พี่จะเรียนจบเคยมีอาการแบบนี้มั้ย มันเหมือนคนหมดไฟ จนไม่อยากทำอะไรแบบที่เราเป็นมั้ย พี่สาวตอบเราไม่เลย เราจึงค่อยๆเล่าถึงสิ่งที่เราเป็น ตอนนั้นเหมือนลูกโป่งในตัวเราที่มันอึดอัดคับไปหมดตอนหลายเดือนที่ผ่านมาค่อยๆแฟบลง จำได้ว่าตอนนั้นสั่นไปหมดทั้งร้องไห้ทั้งพิมพ์ข้อความไป มันดีขึ้นในระดับหนึ่ง เเต่เราก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกนะว่าเจ้าความเศร้ามันได้หายไปเเล้วทั้งหมด มันยังคงแอบอยู่ในตัวเราไม่ไปไหนเลย
จนถึงตอนนี้เราผ่านช่วงเวลานั้นมาครบ1ปีเเล้ว ตลอดระยะเวลา1ปีเรากลับรู้สึกว่าหลุมดำที่เราเคยกลบไว้มันกำลังกลืนกินเราไปเเล้ว ตอนนี้เราก็ยังไม่เเน่ใจว่าเราหมดไฟ หรือ ป่วย ไปเเล้วกันแน่
แด่ ตัวฉัันที่ยังอยู่
สิ่งที่ทำก็คือ ลองหางานอดิเรกทำ อย่างเช่น เล่มเกม ฟังเพลง อ่านหนังสือ
ก็ช่วยให้อารมณ์มันทุเลาลงบ้าง
หรือลองเขียนไดอารี่ในนี้ ดูก็ได้นะครับ เผื่อจะช่วยได้
อย่างน้อย น่าจะมีคนรออ่านตอนต่อไปของคุณอยู่นะครับ :)