เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
House of storyManualEyeko
Day 5 : Key
  • Daniel l Sungwoo

     

    "กุญแจนี่มันกุญแจอะไรอ่ะที่รัก"

    “จะอยากรู้ไปทำไมอ่ะ”

    “อ้าว ถามแบบนี้คือกวนตีนหรอที่รัก”

    "เลิกเรียกว่าที่รักสักที กูรำคาญ"

    ผมนั่งเบ้ปากอยู่ตรงโซฟา มองแผ่นหลังของคนที่ผมเรียกเขาว่าที่รักไม่ยอมเลิกราสักที เป็นแผ่นหลังที่เย็นชาอยู่พอสมควรครับ เฮ้อ จะให้ทำไงก็ผมมันคนไม่มีสิทธิ 

    แต่ผมก็ตื๊อไม่เลิกครับ ถือคติตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก จนมีวันนี้ที่มานั่งเล่นนอนเล่นที่คอนโดเขาได้ผมก็รู้สึกชีวิตมีความหวังขึ้นมาบ้าง แม้ว่าจะยังริบหรี่สุดๆ

    ปัง!

    “เอ้า รีบกินแล้วก็รีบไปได้แล้ว ฉันต้องไปทำงาน”

    “ที่รักทำงานตั้ง9โมงครึ่งนี่ ทำไมรีบไล่กันจัง”

    “จะกินไม่กิน”

    ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตากินไม่ยอมหยุด รามยอนที่เขาไม่ได้ตั้งใจต้มยังอร่อย ไม่ได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้นก็ยังอร่อยมาก ฮืออ รักกก

    "นายมีเรียนกี่โมง"

    "10โมงจ้า"

    “ประสาท เลิกยิ้มได้แล้ว รีบกินเข้าไป”

    ผมก้มหน้าก้มตากินต่อด้วยรอยยิ้ม ก็จะไม่ให้ยิ้มออกมายังไงไหว เขาถามผมว่าเรียนกี่โมงอ่ะ เขาใส่ใจพ้มมมมม

    "นี่ ที่รักยังไม่ตอบเลยนะว่ากุญแจนี้มันกุญแจอะไร"

    "เสือก"

    "ทำไมต้องหยาบคายด้วยล่ะครับ หืม"

    "แล้วทำไมต้องเสือกด้วยล่ะครับ"

    องซองอูย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะพูดตอบผมออกมา ให้ตาย! แพ้ฉิบหาย แพ้ไอ้หน้าตาฉุนเฉียวเหมือนข้างบ้านทำผัดกระเพราะของเขาเหลือเกินจริงๆ

    แม้ว่าเขาจะพูดคำหยาบแต่ก็เป็นคำว่าเสือกที่ดูสวยดีเหมือนหน้าเขา

    “ก็กุญแจมันสวย เหมือนของโบราณเลย เราขอทายได้มั้ยว่ามันเป็นกุญแจอะไร”

    ผมแอ๊บใสเหมือนเด็กมัธยมปลายไม่มีผิด ก่อนจะมองไปที่หน้าเจ้าของที่อารมณ์ไม่จอยด้วยแต่ก็ยอมพยักหน้าด้วยหน้าตาเหม็นเบื่อ ประมาณว่าจะทำอะไรก็ตามใจมึงละ

    “กุญแจหีบสมบัติตระกูลอง”

    “บ้านพ่อมึง!”

    “เนี่ย ซองอูชอบพูดจาไม่สุภาพ”

    "เรียกชื่อกูเฉยๆนี่กูเป็นเพื่อนเล่น?"

    “เปล่าๆ อยากให้เป็นแฟนต่างหาก”

    “ไอ้คังแดเนียล!”

    “ไม่เอาๆ ไม่โกรธสิครับ ทายต่อละนะ...กุญแจห้องแห่งความลับตระกูลอง”

    “มึงดูละครพีเรียดเยอะไปเหรอ”

    “ดูกับน้องสาวบ่อยๆอ่ะ โธ่ว ไม่หนุกเลย เอาใหม่ๆ”

    “มึงจะเลิกเล่นและกินได้รึยัง”

    “ขออีกข้อหนึ่งๆ แล้วเลิกเล่นแล้วจริงๆ ”

    ผมขมวดคิ้วมองกุญแจสีทองหม่นๆในมือ กุญแจมีขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือของผม เป็นกุญแจทรงโบราณที่ผมก็นึกไม่ออกว่ามันจะเอาไว้ใช้ไขอะไรในคอนโดนี้ได้

    “กุญแจไขห้องหัวใจของซองอูละกัน”

    ผมตอบพลางยิ้มหวานให้เขาเต็มที่ กะเล่นมุกเสี่ยวให้โดนฟาดหมอนใส่สักทีแล้วจะยอมไปเรียนแต่โดยดี แต่แล้วเขาก็หันหน้ามามองผมด้วยสีหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ

    “มึงรู้ได้ไง”

    “อ้าว...”

    แล้วก็เกิดเดดแอร์ขึ้นท่ามกลางผมและเขา ผมมองกุญแจในมืออย่างพินิจพิเคราะห์ อยากจะทำเป็นหัวเราะล้อเล่นแต่กลายเป็นว่าสีหน้าที่จริงจังขององซองอูทำให้ผมแทบจะกลืนคำพูดต่างๆลงคอไปเลย

    “งั้น...ถ้ามันเป็นกุญแจไขห้องหัวใจของซองอูจริงๆ….”

    “....”

    “เราขอไขเข้าไปดูได้มั้ยว่ามันพอจะมีเราอยู่ในนั้นบ้างรึยัง”

    ผมมองสบตาของเขาที่ตอนนี้เลิ่กลั่กและพยายามหลบสายตาผมเองที่เปลี่ยนโหมดเป็นจริงจังไปด้วย

    ผมจีบองซองอูมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเรียนปี 4 ส่วนตอนนั้นผมอยู่ปี 2 เวลา2ปีที่ผ่านมาผมพยายามทุกวันเพื่อจะเข้าไปในใจเขาให้ได้ องซองอูที่ใจเเข็ง เป็นคนแมนๆทั่วไป สาวๆเอกผมกรี๊ดเขากันทุกคน เป็นรุ่นพี่ขวัญใจคนในมหาวิทยาลัย เป็นนักบาส สอนเทควันโด (ผมเคยโดนเขาเตะทีหนึ่งเพราะไปตื๊อเขาให้ไปดูหนังด้วย เกือบต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล) และยังจบมาได้ทำงานแบบที่เขาแฮปปี้

    ชีวิตเขาคงไม่ต้องการอะไรอีกแล้วล่ะ เพราะองซองอูทำได้ดีไปหมด เป็นผมเองที่ขอเข้ามาแทรกเป็นความประดักประเดิดบางอย่างในชีวิตของเขา

    ผมเคยคิดว่าที่จริงขอแค่นี้ก็คงมีความสุขแล้ว 

    เป็นคนที่แอบชอบเขาไปเรื่อยๆ เต๊าะเขาบ้างพอให้หัวใจชุ่มชื้นแต่จนแล้วจนรอดหัวใจของผมมันก็ถลำลึกไปไกล ผมหลงรักองซองอูมากขึ้นทุกวันๆ และคิดเสมอว่าอยากจะเป็นคนที่ซ่อนอยู่ในใจเขา

    มือผมสั่นน้อยๆเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่อยู่มือของผม สิ่งที่จะทำให้ผมรู้สักทีว่าแท้ที่จริงแล้วองซองอูคิดอะไรอยู่ เขาจะมีผมอยู่ในสักซอกหลืบหัวใจของเขาบ้างมั้ย

    “มึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะคังแดเนียล”

    “...”

    ผมตัดสินใจยื่นกุญแจเข้าไปที่อกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของเขาและฉับพลันมันทะลุผ่านอกเขาเข้าไปเหมือนกับว่ามีมิติปริศนาดูดกุญแจนั้นแข้าไป ผมตาโต ตกใจกับสิ่งที่เกิดในเสี้ยววินาที

    "ก็บอกว่าอย่าทำอะไรบ้าๆไง!"

    ผลัก!!!

    ใช่ครับ 

    ผมโดนถีบจากเจ้าของห้องจนลงไปกองกับพื้นข้างๆโซฟา แต่เมื่อกี้ทุกคนก็เห็นเหมือนผมใช่มั้ยวะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะ

    "องซองอู เมื่อกี้..."

    เขาลูบที่อกข้างซ้ายตัวเองแล้วทำหน้าตาเหมือนกับโล่งอกที่ไม่เกิดอะไรบ้าบอไปกว่านี้ขึ้น ก่อนจะอาศัยทีเผลอคว้ากุญแจในมือผมไปถือไว้ ผมร้องเหวอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นี่มันเป็นอุปกรณ์เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ที่จะทำให้ผมเข้าไปในใจเขาได้แล้วนะครับ!!!

    "ย่า! องซองอู"

    "ไม่ต้องคิดจะทำอะไรแผลงๆอีกเลยมึง"

    "แต่ว่า นั่นน่ะ ทางเดียวแล้วนะที่เราจะไขเข้าไปดูหัวใจนายได้น่ะ"

    "…."

    "ซองอู"

    "ถ้าจะใช้วิธีขี้แพ้แบบนี้ก็ตามใจละกัน"

    เขาโยนกุญแจนั้นกลับมาให้ผม มันตกลงบนเบาะโซฟาที่เราสองคนนั่งอยู่ดังตุบ เหมือนน้ำหนักของมันตกลงกระทบข้างในใจผมด้วย ผมมองมันอย่างเพ่งพินิจอีกครั้งก่อนจะหันกลับมามองหน้านิ่งๆ ของเขา ถ้าผมพลาดโอกาสนี้ผมอาจจะไม่มีวันได้รู้ใจเขาอีกเลย ผมอาจจะต้องพยายามอีกเป็นร้อยๆ ครั้ง เพื่อที่จะชนะใจเขาโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมจะต้องทำอีกนานแค่ไหน

    ผมหยิบกุญแจนั่นขึ้นมาในมือ กุญแจที่ผมพึ่งจะเห็นมันครั้งแรกก็วันนี้ แถมยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผมได้รู้ทุกอย่างในใจเขา ผมหยิบมันขึ้นมาถือไว้แน่นๆ หลับตาปี๋ก่อนที่จะยื่นมันคืนให้คนตรงหน้าผม

    องซองอูทำหน้าตกใจ ก่อนจะมองหน้าด้วยแววตาตื่นๆ ตาสวยๆ ของเขาที่จับจ้องมาทางผม และผมทันลืมตามามองเห็นมันเข้าจนได้

    และก็ได้คำตอบชัดเจนแล้วว่า

    จะต้องทำอีกนานเท่าไหร่มันสำคัญด้วยเหรอวะ

    ผมพร้อมจะทำ ผมอยากให้ทุกวันของผมมีเขา

    “ไม่เปลี่ยนใจเหรอ”

    “อือ ที่รักเอากลับไปเก็บเถอะ ของสำคัญนี่ อ้อ และก็อย่าให้รู้นะว่าเอาไปให้ใครนอกจากเราใช้อ่ะ”

    เป็นครั้งแรกของเช้านี้ที่ผมได้เห็นรอยยิ้มขำๆ จากเขา ยิ่งกว่าพระอาทิตย์ที่ขึ้นให้เห็นตรงหน้าต่างยามเช้า มันสวยงามมากๆ ช่างหัวกุญแจมันแล้ว ถ้าการไม่สนใจมันจะทำให้องซองอูไม่อ่อนโยนกับใจผมขนาดนี้

    “ไม่ให้ใครใช้หรอก วันนี้เอาออกมาลองใจคนบางคนเฉยๆ”

    “หืม อะไรนะครับที่รัก”

    “หูบอดก็ช่างมึงแล้ว ไปเรียน ไป!”


    ManualEyeko ment :
    อินกับเนียลองมากจนคลอดออกมาเป็นความวายป่วง 555

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in