วันนี้แอบดิ่งนิดนึง เราแนะนำตัวก่อนละกัน
เราชื่อ วิ อายุ 28 มาพร้อมโรคที่เราไม่อยากเป็น "โรคซึมเศร้า" ความเป็นเอเลี่ยนในตัวเรามันมาอยู่กับเราตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เรารู้ตัวอีกทีเราร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ทุกวัน
เราจะสอบท้องถิ่น เราก้อ่านไปร้องไห้ไป กดดันตัวเอง ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องกดดันและตั้งความหวังกับตัวเองมากขนาดนี้ ก็เพราะ ความเป็นเพอเฟคชั่นนิสของที่บ้านทางแม่ แล้วเราก้คิดว่าหลานคนอื่นเขาได้ดีกว่าเรา แล้วเหมือนว่าที่บ้านนั้นไม่มีใครรักเรา เราเลยต้องพยายามให้เท่าคนอื่นเขา เรารู้สึกว่าเราด้อยกว่า เราไม่เคยมีตัวตนในสายตาพวกเขาเลยสักนิด
อาการเริ่มแรก เราไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะยาคุมหรืออะไรกันแน่ อาการของเราที่เห็นชัดเลยและเริ่มรู้ตัวเลย หลังสอบท้องถิ่นที่ผ่านมา เรารู้สึกว่าหงุดหงิดง่ายมาก กระสับส่าย นอนไม่หลับ ตอนนี้เรายังไม่รู้เราคิดว่าเป็นอาการก่อนประจำเดือนเลยยังไม่เอะใจ
เราเป็นแบบนี้ช่วงรอประกาศผลสอบ ผลสอบออกมาอาการเราหนักขึ้น เหม่อลอย ไม่คุยกับใครคิดดูว่าพ่อกับแม่เรายังไม่อยากคุยด้วยเลย แถมเรายังรำคาญท่านั่งกินข้าวของพ่อ รำคาญพัดลม รำคาญทุกสิ่งโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไร และอีกเราเริ่มแยกตัว ไม่พูดไม่ยิ้ม ไม่คุยกับคนแปลกหน้า รำคาญคนเดินมาเฉียด แต่แค่ยังไม่ทำร้ายตัวเอง
เรามีอาการแบบนี้ เราเริ่มคิดว่าพฤติกรรมเราเปลี่ยนไป เป็นอะไ่ร เราพยายามหาไรทำ ไปเที่ยวบ้างออกกำลังกายเล่นโยคะ แต่สุดท้ายมันก้ช่วยไม่ได้ เราเบื่อไปหมดทุกสิ่งแถมเรายังคิดว่าเป็นตัวถ่วงคนอื่นอีก เราเป็นแบบนี้เกือบเดือนแน่ะ เราถึงเข้าไปจิตเวช เพราะเรารู้สึกว่าเราไปเที่ยวแล้วเรากลับไม่สนุกกับมัน
ตัดสินใจไปหาหมอ สาเหตุที่เราต้ดสินใจไปหาหมอเพราะว่าเพื่อนสนิทเรา ทักเราว่าเราไม่เหมือนเดิมเราสอบไม่ผ่านหลายสนามก้จริง แต่สนามนี้เราก้าวข้ามมันไม่ได้ มันนานไป เพื่อนว่างี้ วันรุ่งขึ้นเราแอบแม่ไปหาหมอจิตเวชเลยนะ ไม่อยากให้แม่รู้กลัวแม่คิดมากอีก ตอนไปรพ.นะ เราคุยกับใครเราก้ร้องไห้หมด ลุงยามหน้าห้อง พยบ.ซักประวัติ นักจิต ไปจนหมอ พยบ.ซักประวัติเสร็จก้ให้ไปคุยกับนักจิต เรายังถามนักจิตเลยว่าร้องไห้ได้มั้ย นักจิตพยักหน้าเราปล่อยโฮทันที เล่าทุกอย่างที่มันอยู่ในใจเรา กับนักจิตคนนี้เราเล่าไม่หมด มันก้เลยค้างคา คุยไปมานักจิตสรุปเป็นภาวะซึมเศร้าเราเป็นแค่ระดับกลางนะ แล้วนักจิตก้บอกเราว่าพยายามหาไรทำ อืม ตอนนีิเราได้แค่ถ่ายรูปไปวันๆ คุยกับนักจิตแล้วก้ส่งเราไปคุยกับหมอ หมอให้ ฟลูออกซีทีนมา ซึ่งมันไม่ช่วยอะไรเราเลย กินไปสองเม็ด ทุกวัน เรากลับรู้สึกจมดิ่งทุกวัน ทำร้ายตัวเองมากขึ้น หนึ่งเดือนผ่านไปไม่ได้ดีขึ้นเลย เรากลับทำร้ายตัวเองมากขึ้นโดยการต่อยกำแพง ชกซ้ำๆวนไป ในใจโทษตัวเองที่สอบไม่ติดเราไม่เก่งเหมือนใคร รู้สึกผิดกับแม่ พอถึงวันนั้นสามมกรา เราบอกพยบ.ว่าเราชกกำแพง พยบ.เลยให้คุยกับนักจิตอีกรอบ นักจิตคนนี้เป็นผญ.สบายใจหน่อยเลยบอกเรื่องอดีตตั้งแต่เด็ก (ไว้จะมาเล่าปมในใจให้อ่านกัน) คุยเสดก้ให้ไปพบหมออีก หมอปรับให้กินฟลูออกเม็ดเดียว คือเพื่อ นี่ก้บอกไปแล้วว่าหงุดหงิดง่าย อยู่ในที่แออัดมากไม่ได้ จะกรีดร้อง แต่ปรับแค่ยากลางคืน หมอนัดสามมกราช่ะวันที่ห้าเราไปอีก เพราะเราชกกำแพงอีก รำคาญตัวเองชะมัด จะทำเรื่องขอไปสวนปรุงเลยวันนั้น แต่เราก้ดันเทหมอ แล้วอีกสามวันก้ไปสวนปรุงคนเดียว
วิธีรับมือการเป็นเอเลี่ยน
เอาเป็นว่าเราพบนักจิตสามคนรวมที่สวนปรุงแล้ว
เมื่อเรารู้ตัวว่าเราเป็นโรคนี้พยายามอย่าไปจมกับมันหาไรทำ ถ้าอะไรที่เคยทำแล้วเบื่อก้ฝืนทำมันไป หรือกิจกรรมไหนที่ทำแล้วมีความสุขก้ทำไป ตอนนี้สิ่งที่เรามีความสุขกับมันก้คือถ่ายรูปวนไป และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เราจม
ปล.เราถ่ายรูปไม่สวยหรอกแต่เป็นสิ่งเดี่ยวที่เราทำแล้วมีความสุข
ปล.ขอบคุณพื้นที่ให้เราระบาย
ปล.ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และทำให้เรามีตัวตน
วันนี้เรารู้สึกหดหู่ เดียวดาย ยาหมด ก่อนหมอนัดอีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in