บางทีก็คิด ว่าวันที่เราจะแยกทางหรือแยกย้ายกันไป มันจะเป็นวันแบบไหน
อากาศอาจจะดีมากหรือว่าฝนตกแบบพายุเข้า
แต่ที่แน่ๆ คือต้องเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ เพราะมันอาจจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือเป็นตอนที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันตอนนี้ก็ได้
อย่างน้อยถ้าความรักมันจะมีบอกวันหมดอายุบ้างก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องนั่งลุ้นให้เจ็บปวดใจทุกวันแบบนี้
บากคิดไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันระหว่างเคี้ยวข้าว เขาเหลือบตามองทารคาที่กำลังเอาช้อนตักแกงตรงหน้าใส่จาน
เสียงจากมือถือทารคาดังขึ้น ไม่ใช่เสียงเรียกเข้า แต่เป็นนาฬิกาปลุก
ตั้งเตือนตอนหกโมงครึ่ง?
บากมองมือถือทารคาสลับกับมองเจ้าของมือถือนั้นอย่างสงสัย
“ไปก่อนนะ ฝากจ่ายตังค์ด้วย”
ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร เจ้าของผมแดงก็รีบลุกไปแบบไม่หันกลับมามอง
เลิกงานแล้ว แต่ยังกับมีนัดสำคัญยังไงยังงั้นเลยนะ...
เขาได้แต่นึกคำถามไว้ในใจ เพราะคนที่อยากถามเดินไปไกลแล้ว
บากเท้าคางเอียงคอ มองเงินค่าข้าวที่วางไว้ฝั่งตรงข้าม พลางเอาส้อมเขี่ยผักในจานตัวเองเล่น
ปกติเราทั้งคู่จะแบ่งกันจ่ายค่าข้าวไปคนละครั้งอยู่แล้ว หรือถ้าครั้งไหนใครไม่ได้พกเงินมา อีกฝ่ายก็จ่ายให้ก่อนได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ไม่แม้แต่จะถามว่าครั้งที่แล้วเป็นยังไง ถึงตาใคร
เวลาจะไปไหนก็เคยที่จะบอกกันก่อนเสมอ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างก็ดูเป็น “ธุระ” ไปหมด
ปลายนิ้วสีบานเย็นอมม่วงหยิบช้อนกลางคนแกงจืดตรงหน้า บากปล่อยช้อนให้จมลงไปในน้ำซุปจนมิดด้าม
...คงไม่จำเป็นอีกแล้วมั้ง…
------------------------------------------------
พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้ว ไม่มีเด็กคนไหนที่ยังอยู่ที่สนามเด็กเล่น มีแต่เสียงจั๊กจั่นที่ดังระงม จนบางทีเหมือนกับเป็นความเงียบ
บากนั่งโยกชิงช้าที่ดูไม่สมตัวเขาอยู่ตรงใต้เสาไฟ มือก็กำลังปัดป่ายอยู่กับแมวที่ตัก มันกำลังพยายามตะปบนิ้วยาวๆ ของเขา บากโยกนิ้วหลบ เจ้าแมวก็โยกไปตะปบตาม
ทำซ้ำๆ กันอยู่อย่างนี้จนเจ้าแมวจรเริ่มเชื่องกับเขา
ทารคาหยุดเท้าที่หน้าสนามเด็กเล่น เสียงทรายที่บี้กับส้นเท้าทำให้บากรู้สึกตัวของผู้มาเยือน
“ทำไมไม่รับสาย”
ยักษาผมแดงสาวเท้าเข้ามา พร้อมกับสะบัดข้อเท้าให้ทรายที่กระเด็นขึ้นมาหลุดออกไป
“อ่าว โทษที ปิดเสียงไว้” บากหยิบมือถืออกจากกระเป๋าแล้วก็เห็นมิสคอลอยู่ห้าสาย เจ้าแมวกระโดดหนีไปแล้ว เพราะคนที่มาใหม่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
ทารคามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบากที่กำลังโยกชิงช้าน้อยๆ บากก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ
“เป็นอะไร”
ทารคายกมือขึ้นมาลูบแก้มสีม่วงหม่น กำลังจะเลื่อนไปลูบผมสีขาวที่ดูนุ่มนั่น ก็โดนบากเอียงคอมาซบ จนต้องหยุดมือซะก่อน
“นิดหน่อย”
บากหลับตา ถอนหายใจเบาๆ เหมือนกับได้เจอที่พักผ่อน
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะหลับตรงนี้ซะเลย หลับไปตลอด
“ช่วงนี้มันกำลังมีการเปลี่ยนแปลง” ทารคาลากมือออกมาจากไออุ่นนั่น แล้วหันหลังเดินไปอีกทาง
บากมองตาม แต่ซักพักก็ก้มหน้ามองตามแมวที่ยืนสุ่มมองอยู่ห่างๆ
“และมันจะแย่ลงอีก เราจะได้อยู่ด้วยกันน้อยลงไปอีก คงไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าแต่ก่อน”
… แมววิ่งหายไปแล้ว
บากจับโซ่ชิงช้าแน่นเหมือนมันจะหนีไปไหน แต่ก็ค่อยๆ คลายมือลงอย่างปลงใจ
“แต่ก็ไม่ลืมวันเกิดนายนะ”
บากเงยหน้ามอง เบิกตากว้าง เห็นเทียนเล่มเล็กๆ ที่สว่างเป็นจุดเพราะแรงลมเอื่อยๆ
เค้กโรลชิ้นเล็กที่คงซื้อจากมินิมาร์ทไม่ไกลนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ทารคานั่งลงตรงหน้าบากที่นั่งชิงช้า
“สุขสันต์วันเกิด”
เขายิ้มจางๆ เหมือนรู้สึกผิดบางอย่าง
บากมองทารคาแล้วยิ้ม เขายื่นมือสีม่วงมาบิเค้กเป็นชิ้นเล็กพอดีคำแล้วเอาเข้าปาก และบิอีกชิ้นป้อนให้ทารคา บากหัวเราะขำพร้อมกับน้ำใสตรงหางตาเล็กๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่สังเกตุ
“ต่อไปจะลำบากมากกว่านี้ อะไรๆ หลายอย่างที่ชั้นทำกำลังเปลี่ยนไปและชั้นไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นตอนไหน” ทารคาเงยหน้าพูดกับอีกฝ่าย เหมือนจะเป็นการบอกเล่า แต่ก็เหมือนกับเป็นคำสารภาพ
บากนิ่งฟัง มองหน้าคนที่อยู่ด้วยกันมานานจนถึงตอนนี้ นี่คงเป็นวัน…..
“ต่อให้เป็นแบบนั้นนายจะยังอยู่กับชั้นมั้ย”
มันเหมือนมีแสงเล็กๆ เกิดขึ้นในใจ
ใช่ มันเหมือนกับเทียนเล่มเล็กที่โดนลมนั่น มันใกล้ดับ แต่ก็ยัง
เพราะคนตรงหน้าเอามือป้องมันไว้
บากเลื่อนตัวลงจากชิงช้า ลงมานั่งที่พื้นกับทารคา ให้ระดับสายตาอยู่ในระดับเดียวกัน เขาดึงเทียนเล่มเล็กออกพลางหยิบเค้กขึ้นมากัดจนเกือบหมดชิ้น
“อยู่ซิ”
บากมองเข้าไปในตาสีเดียวกับตน มือที่สีเขียวเข้มกว่าปกติเพราะแสงไฟที่ไม่ค่อยสว่างนักยื่นมาจับมือสีม่วงหม่นที่เปื้อนครีมแล้วเลียมันออกอย่างคิดถึง
“แล้วเค้กน่ะ ปีหน้าขอรสกาแฟนะ” พูดจบเขาก็เอาเค้กชิ้นสุดท้ายเข้าปากคนตรงหน้าไป
“ได้”
ทารคายิ้ม และแบ่งปันความหวานให้กับคนรักของเขา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in